กลยุทธ์ Pivot Point

1. กลยุทธ์ Pivot Point

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นในการทำความเข้าใจและนำกลยุทธ์ Pivot Point ไปใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์นี้เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์เนื่องจากความเรียบง่ายและความสามารถในการระบุระดับราคาที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา

1. 1. ความหมายของ Pivot Point

Pivot Point คือระดับราคาที่คำนวณขึ้นจากราคาของวันก่อนหน้า (High, Low, Close) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นในวันปัจจุบัน แนวคิดเบื้องหลัง Pivot Point คือ การที่ราคาในอดีตมักจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต และระดับราคาเหล่านี้สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการตัดสินใจซื้อขายได้

1. 1. การคำนวณ Pivot Point

การคำนวณ Pivot Point ทำได้โดยใช้สูตรดังนี้:

• **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
• **Resistance Level 1 (R1):** (2 x PP) - Low
• **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High - Low)
• **Support Level 1 (S1):** (2 x PP) - High
• **Support Level 2 (S2):** PP - (High - Low)

โดยที่:

• High คือ ราคาสูงสุดของวันก่อนหน้า
• Low คือ ราคาต่ำสุดของวันก่อนหน้า
• Close คือ ราคาปิดของวันก่อนหน้า

ตัวอย่างเช่น หากราคา High = 1.2500, Low = 1.2000, และ Close = 1.2400 การคำนวณจะเป็นดังนี้:

• PP = (1.2500 + 1.2000 + 1.2400) / 3 = 1.2300
• R1 = (2 x 1.2300) - 1.2000 = 1.2600
• R2 = 1.2300 + (1.2500 - 1.2000) = 1.2800
• S1 = (2 x 1.2300) - 1.2500 = 1.2100
• S2 = 1.2300 - (1.2500 - 1.2000) = 1.1800

1. 1. การนำกลยุทธ์ Pivot Point ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

เมื่อคำนวณ Pivot Point และระดับต่างๆ ได้แล้ว เราสามารถนำไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:

1. **การซื้อเมื่อราคาแตะ Support Level:** หากราคาลดลงมาที่ Support Level 1 หรือ Support Level 2 เราอาจพิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับขึ้นไป 2. **การขายเมื่อราคาแตะ Resistance Level:** หากราคาเพิ่มขึ้นไปที่ Resistance Level 1 หรือ Resistance Level 2 เราอาจพิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลงมา 3. **การ Breakout:** หากราคา Breakout (ทะลุ) ระดับ Resistance Level แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง เราอาจเปิดสถานะซื้อ (Call Option) ในขณะที่หากราคา Breakout ระดับ Support Level แสดงว่ามีแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง เราอาจเปิดสถานะขาย (Put Option) 4. **การใช้ร่วมกับ Indicator อื่นๆ:** การใช้ Pivot Point ร่วมกับ Indicator ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI, หรือ MACD สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขายได้

1. 1. ตัวอย่างการซื้อขายด้วยกลยุทธ์ Pivot Point

สมมติว่าเรากำลังซื้อขาย EUR/USD และเราได้คำนวณ Pivot Point ดังนี้:

• PP = 1.1000
• R1 = 1.1050
• R2 = 1.1100
• S1 = 1.0950
• S2 = 1.0900

สถานการณ์ที่ 1: ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.0970 และกำลังเคลื่อนที่ขึ้น เราอาจเปิดสถานะซื้อ (Call Option) โดยมีเป้าหมายที่ Resistance Level 1 (1.1050) และกำหนดระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time) ที่เหมาะสม

สถานการณ์ที่ 2: ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.1070 และกำลังเคลื่อนที่ลง เราอาจเปิดสถานะขาย (Put Option) โดยมีเป้าหมายที่ Support Level 1 (1.0950) และกำหนดระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time) ที่เหมาะสม

1. 1. ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Pivot Point

1. 1. 1. ข้อดี:

• **เรียบง่ายและเข้าใจง่าย:** การคำนวณ Pivot Point ไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการทำความเข้าใจ
• **ระบุระดับราคาที่สำคัญ:** Pivot Point ช่วยระบุระดับราคาที่อาจเป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
• **ใช้ได้กับทุก Timeframe:** กลยุทธ์นี้สามารถใช้ได้กับทุก Timeframe ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายชั่วโมง หรือรายนาที
• **สามารถใช้ร่วมกับ Indicator อื่นๆ:** Pivot Point สามารถใช้ร่วมกับ Indicator ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

1. 1. 1. ข้อเสีย:

• **อาจเกิด False Signal:** ในบางครั้ง Pivot Point อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง
• **ต้องมีการปรับปรุง:** ระดับ Pivot Point ที่คำนวณจากราคาของวันก่อนหน้าอาจไม่แม่นยำเสมอไป และอาจต้องมีการปรับปรุงตามสถานการณ์ตลาด
• **ไม่ใช่กลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบ:** Pivot Point เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ตลาด และไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย

1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการใช้กลยุทธ์ Pivot Point

เช่นเดียวกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่นๆ การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้กลยุทธ์ Pivot Point:

• **กำหนด Stop Loss:** กำหนด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์
• **กำหนด Take Profit:** กำหนด Take Profit เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
• **บริหารจัดการเงินทุน:** จัดสรรเงินทุนอย่างเหมาะสมและไม่เสี่ยงเกินกว่าที่รับได้
• **ใช้บัญชี Demo:** ฝึกฝนการใช้กลยุทธ์ Pivot Point ในบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง

1. 1. กลยุทธ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกเหนือจากกลยุทธ์ Pivot Point แล้ว ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่สามารถใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้อีกมากมาย:

• Trend Following การติดตามแนวโน้มของราคา
• Range Trading การซื้อขายในช่วงราคาที่ผันผวน
• Breakout Trading การซื้อขายเมื่อราคา Breakout ระดับสำคัญ
• Scalping การทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น
• News Trading การซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ
• Bollinger Bands การใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่เหมาะสม
• Fibonacci Retracement การใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดกลับตัวของราคา
• Ichimoku Cloud การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและระดับราคา
• Candlestick Patterns การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
• Support and Resistance การหาระดับแนวรับและแนวต้าน
• Head and Shoulders Pattern รูปแบบ Head and Shoulders เป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม
• Double Top/Bottom รูปแบบ Double Top/Bottom เป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม
• Elliott Wave Theory ทฤษฎี Elliott Wave เป็นการวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคา
• Harmonic Patterns รูปแบบ Harmonic เป็นรูปแบบที่ซับซ้อนที่ใช้ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
• Three Line Break กลยุทธ์ Three Line Break เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม

1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม

การทำความเข้าใจการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์ Pivot Point อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้เราสามารถเข้าใจรูปแบบของราคา แนวโน้ม และระดับราคาที่สำคัญ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อขายได้

1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์ Pivot Point ได้ ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มหรือการ Breakout ของราคา

1. 1. สรุป

กลยุทธ์ Pivot Point เป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพที่สามารถใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้อย่างประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีความเข้าใจในหลักการของการคำนวณ การนำไปใช้ และการจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ การใช้ร่วมกับ Indicator ทางเทคนิคอื่นๆ และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขายได้

ตัวอย่างการคำนวณ Pivot Point

High ! Low ! Close ! PP ! R1 ! R2 ! S1 ! S2
1.2000 | 1.2400 | 1.2300 | 1.2600 | 1.2800 | 1.2100 | 1.1800
1.1000 | 1.1400 | 1.1300 | 1.1600 | 1.1900 | 1.1000 | 1.0700

(Category:Trading Strategies)

ไบนารี่ออปชั่น Indicator Moving Average RSI MACD Trend Following Range Trading Breakout Trading Scalping News Trading Bollinger Bands Fibonacci Retracement Ichimoku Cloud Candlestick Patterns Support and Resistance Head and Shoulders Pattern Double Top/Bottom Elliott Wave Theory Harmonic Patterns Three Line Break การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น