กลยุทธ์ Fixed Fractional

1. 1. กลยุทธ์ Fixed Fractional

กลยุทธ์ Fixed Fractional เป็นหนึ่งในวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น และตลาดการเงินอื่นๆ โดยมีหลักการพื้นฐานคือ การกำหนดเปอร์เซ็นต์คงที่ของเงินทุนทั้งหมดที่จะใช้ในการเปิดแต่ละออเดอร์ แทนที่จะใช้จำนวนเงินคงที่ วิธีการนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้เทรดเดอร์สามารถอยู่รอดในตลาดได้นานขึ้น บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ Fixed Fractional อย่างละเอียด รวมถึงข้อดี ข้อเสีย วิธีการคำนวณ และตัวอย่างการใช้งานจริง

1. 1. 1. ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในไบนารี่ออปชั่น

ก่อนที่จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ Fixed Fractional เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมการบริหารความเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งใน การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากผลตอบแทนและผลขาดทุนมีความชัดเจนและรวดเร็ว หากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เทรดเดอร์อาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว

การบริหารความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้:

• **ปกป้องเงินทุน:** ลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
• **ควบคุมอารมณ์:** ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์
• **เพิ่มโอกาสในการทำกำไร:** เมื่อมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เทรดเดอร์จะสามารถอยู่รอดในตลาดได้นานขึ้น และมีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น
• **สร้างความสม่ำเสมอ:** ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายได้อย่างสม่ำเสมอ และมีวินัย

1. 1. 1. หลักการของกลยุทธ์ Fixed Fractional

กลยุทธ์ Fixed Fractional มีหลักการง่ายๆ คือ การกำหนดเปอร์เซ็นต์คงที่ของเงินทุนทั้งหมดที่จะใช้ในการเปิดแต่ละออเดอร์ ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์กำหนดให้ใช้ 2% ของเงินทุนในการเปิดแต่ละออเดอร์ และมีเงินทุนทั้งหมด 10,000 บาท เงินทุนที่ใช้ในการเปิดแต่ละออเดอร์คือ 200 บาท

ข้อดีของกลยุทธ์นี้คือ:

• **ความเสี่ยงที่ควบคุมได้:** การสูญเสียในแต่ละออเดอร์จะถูกจำกัดไว้ที่เปอร์เซ็นต์ที่กำหนด
• **การปรับขนาดตามเงินทุน:** จำนวนเงินที่ใช้ในการเปิดออเดอร์จะปรับตามขนาดของเงินทุน หากเงินทุนเพิ่มขึ้น จำนวนเงินที่ใช้ในการเปิดออเดอร์ก็จะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน
• **ความยืดหยุ่น:** เทรดเดอร์สามารถปรับเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ในการเปิดออเดอร์ได้ตามความเสี่ยงที่รับได้
• **เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ:** กลยุทธ์นี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

1. 1. 1. วิธีการคำนวณ Fixed Fractional

การคำนวณขนาดของออเดอร์ในกลยุทธ์ Fixed Fractional มีสูตรดังนี้:

ขนาดของออเดอร์ = (เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง x เงินทุนทั้งหมด) / ราคาต่อออเดอร์

ตัวอย่าง:

• เงินทุนทั้งหมด: 10,000 บาท
• เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง: 2%
• ราคาต่อออเดอร์: 100 บาท

ขนาดของออเดอร์ = (0.02 x 10,000) / 100 = 2 ออเดอร์

นั่นหมายความว่าเทรดเดอร์สามารถเปิดออเดอร์ได้ 2 ออเดอร์ หากต้องการเปิดออเดอร์ที่ราคา 100 บาทต่อออเดอร์

1. 1. 1. การปรับเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง

การเลือกเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้กลยุทธ์ Fixed Fractional เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น:

• **ความเสี่ยงที่รับได้:** เทรดเดอร์แต่ละคนมีความเสี่ยงที่รับได้แตกต่างกัน
• **ความแม่นยำของกลยุทธ์:** หากกลยุทธ์มีความแม่นยำสูง เทรดเดอร์อาจใช้เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่สูงขึ้นได้
• **สภาพตลาด:** ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เทรดเดอร์ควรใช้เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่ต่ำลง

โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะใช้เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงระหว่าง 1% ถึง 5% หากเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่ต่ำ เช่น 1% หรือ 2% ก่อน

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้งานกลยุทธ์ Fixed Fractional

สมมติว่าเทรดเดอร์มีเงินทุนทั้งหมด 5,000 บาท และกำหนดให้ใช้ 2% ของเงินทุนในการเปิดแต่ละออเดอร์ (ขนาดออเดอร์คือ 100 บาท)

• **ออเดอร์ที่ 1:** เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ด้วยเงิน 100 บาท และชนะ ได้รับผลตอบแทน 80 บาท (อัตราผลตอบแทน 80%) เงินทุนรวมตอนนี้คือ 5,080 บาท
• **ออเดอร์ที่ 2:** เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ด้วยเงิน 100 บาท และแพ้ สูญเสียเงิน 100 บาท เงินทุนรวมตอนนี้คือ 4,980 บาท
• **ออเดอร์ที่ 3:** เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ด้วยเงิน 100 บาท และชนะ ได้รับผลตอบแทน 80 บาท เงินทุนรวมตอนนี้คือ 5,060 บาท

จากตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าแม้ว่าเทรดเดอร์จะแพ้ออเดอร์ที่ 2 แต่เงินทุนโดยรวมยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลยุทธ์ Fixed Fractional ช่วยจำกัดความเสี่ยงในการสูญเสียในแต่ละออเดอร์

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Fixed Fractional

| ข้อดี | ข้อเสีย | | :------------------------------------- | :------------------------------------- | | ควบคุมความเสี่ยงได้ดี | อาจมีผลตอบแทนที่ช้า | | ปรับขนาดตามเงินทุน | ต้องมีวินัยในการซื้อขาย | | เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ | ไม่เหมาะกับตลาดที่ผันผวนมากเกินไป | | ช่วยให้เทรดเดอร์อยู่รอดในตลาดได้นานขึ้น | ต้องคำนวณขนาดออเดอร์อย่างถูกต้อง | | ลดผลกระทบทางอารมณ์ | อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรครั้งใหญ่ |

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• Martingale: กลยุทธ์การเพิ่มขนาดออเดอร์หลังจากการแพ้
• Anti-Martingale: กลยุทธ์การเพิ่มขนาดออเดอร์หลังจากการชนะ
• Kelly Criterion: กลยุทธ์การกำหนดขนาดออเดอร์ที่เหมาะสมตามความน่าจะเป็นในการชนะ
• Percentage Risk: คล้ายกับ Fixed Fractional แต่ใช้เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่เหลืออยู่
• Pyramiding: กลยุทธ์การเพิ่มออเดอร์ในทิศทางเดิมเมื่อราคาเป็นไปตามที่คาดการณ์

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน

การใช้กลยุทธ์ Fixed Fractional ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์พื้นฐาน การวิเคราะห์พื้นฐาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยในการระบุแนวโน้มของราคา แนวโน้ม และจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม ในขณะที่การวิเคราะห์พื้นฐานช่วยในการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์

1. 1. 1. เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์

• Moving Averages: การหาค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด
• Relative Strength Index (RSI): ตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• MACD: ตัวชี้วัดโมเมนตัม
• Bollinger Bands: แถบที่แสดงความผันผวนของราคา
• Fibonacci Retracements: การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย เป็นเครื่องมือสำคัญในการยืนยันแนวโน้มของราคาและประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางของแนวโน้ม แสดงว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่ง

1. 1. 1. แนวทางการปรับปรุงกลยุทธ์ Fixed Fractional

• **บันทึกผลการซื้อขาย:** การบันทึกผลการซื้อขายอย่างละเอียดจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของกลยุทธ์ได้
• **ปรับปรุงเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง:** ปรับเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงตามผลการซื้อขายและสภาพตลาด
• **ใช้เครื่องมือวิเคราะห์:** ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
• **เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง:** ศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับการซื้อขายและกลยุทธ์ต่างๆ

1. 1. 1. บทสรุป

กลยุทธ์ Fixed Fractional เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงใน การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น และตลาดการเงินอื่นๆ การทำความเข้าใจหลักการและวิธีการใช้งานของกลยุทธ์นี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างยั่งยืน การผสมผสานกลยุทธ์นี้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขายและบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้

การบริหารเงินทุน การซื้อขายอย่างมีวินัย จิตวิทยาการเทรด การวางแผนการซื้อขาย

ตัวอย่างการคำนวณ Fixed Fractional

เงินทุนทั้งหมด (บาท)	เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง (%)	ราคาต่อออเดอร์ (บาท)	ขนาดของออเดอร์ (จำนวนออเดอร์)
10,000	2	100	2
5,000	1	50	10
20,000	3	200	3
1,000	5	20	25

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น