กลยุทธ์ Collar

1. 1. กลยุทธ์ Collar

กลยุทธ์ Collar เป็นกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Option) ที่ออกแบบมาเพื่อจำกัดความเสี่ยงและจำกัดผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น โดยมักใช้เมื่อนักลงทุนมีความคาดการณ์ทิศทางของราคาในระยะสั้น แต่ต้องการป้องกันความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย ออปชั่น หลายประเภทพร้อมกัน ทำให้เกิด “คอ” หรือ “Collar” รอบตำแหน่งเดิมของคุณ บทความนี้จะอธิบายกลไก, ข้อดี, ข้อเสีย, และวิธีการนำกลยุทธ์ Collar ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นอย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น

1. 1. 1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับออปชั่น

ก่อนที่จะเจาะลึกกลยุทธ์ Collar เราจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของ ออปชั่น ก่อน ออปชั่นคือสัญญาระหว่างสองฝ่าย ซึ่งให้สิทธิ์แก่ฝ่ายหนึ่ง (ผู้ซื้อ) ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาใช้สิทธิ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด

• **Call Option:** สิทธิ์ในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิง
• **Put Option:** สิทธิ์ในการขายสินทรัพย์อ้างอิง

ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น ออปชั่นเหล่านี้มักจะถูกลดทอนให้เป็นรูปแบบ “All or Nothing” ซึ่งหมายความว่าหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ผู้ซื้อจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ผู้ซื้อจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

1. 1. 1. กลยุทธ์ Collar คืออะไร?

กลยุทธ์ Collar ประกอบด้วยสามส่วนประกอบหลัก:

1. **การถือครองสินทรัพย์อ้างอิง:** คุณต้องมีสินทรัพย์อ้างอิงที่คุณต้องการป้องกันความเสี่ยง (เช่น หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์) หรือถือครองตำแหน่งในสินทรัพย์นั้นอยู่ก่อนแล้ว 2. **การซื้อ Put Option:** คุณซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคา หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิของ Put Option คุณจะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขของออปชั่นนั้น 3. **การขาย Call Option:** คุณขาย Call Option เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการถือครองสินทรัพย์อ้างอิง การขาย Call Option จะจำกัดผลกำไรสูงสุดที่คุณสามารถได้รับหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

โดยรวมแล้ว กลยุทธ์ Collar ทำหน้าที่เหมือน “ประกันภัย” สำหรับการลงทุนของคุณ โดยจำกัดทั้งความเสี่ยงและผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น

1. 1. 1. หลักการทำงานของกลยุทธ์ Collar

ลองพิจารณาตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจหลักการทำงานของกลยุทธ์ Collar:

สมมติว่าคุณถือหุ้น XYZ อยู่ 100 หุ้น ที่ราคาปัจจุบัน 50 บาทต่อหุ้น คุณคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แต่คุณต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาอย่างรวดเร็ว

• **ซื้อ Put Option:** คุณซื้อ Put Option ของหุ้น XYZ ที่ราคาใช้สิทธิ 48 บาท โดยจ่ายค่าพรีเมียม 1 บาทต่อหุ้น (รวม 100 บาท)
• **ขาย Call Option:** คุณขาย Call Option ของหุ้น XYZ ที่ราคาใช้สิทธิ 52 บาท โดยได้รับค่าพรีเมียม 0.50 บาทต่อหุ้น (รวม 50 บาท)

• • สถานการณ์ที่เป็นไปได้:**

• **ราคาหุ้น XYZ เพิ่มขึ้นเป็น 53 บาท:** Call Option ที่คุณขายจะถูกใช้สิทธิ์ ผู้ซื้อ Call Option จะซื้อหุ้น XYZ จากคุณในราคา 52 บาทต่อหุ้น คุณจะได้กำไร 2 บาทต่อหุ้น (52 - 50) บวกกับค่าพรีเมียมที่ได้รับ 0.50 บาทต่อหุ้น รวมเป็น 2.50 บาทต่อหุ้น หรือ 250 บาทสำหรับ 100 หุ้น อย่างไรก็ตาม ผลกำไรสูงสุดของคุณถูกจำกัดไว้ที่ 52 บาทต่อหุ้น
• **ราคาหุ้น XYZ ลดลงเป็น 47 บาท:** Put Option ที่คุณซื้อจะถูกใช้สิทธิ์ คุณสามารถขายหุ้น XYZ ในราคา 48 บาทต่อหุ้น แม้ว่าราคาตลาดจะอยู่ที่ 47 บาท คุณจะขาดทุนเพียง 2 บาทต่อหุ้น (50 - 48) เนื่องจาก Put Option ช่วยลดผลกระทบจากการลดลงของราคา
• **ราคาหุ้น XYZ อยู่ที่ 50 บาท:** ทั้ง Put Option และ Call Option จะหมดอายุโดยไม่มีการใช้สิทธิ์ คุณจะขาดทุนค่าพรีเมียมสุทธิ 50 บาท (100 บาท - 50 บาท)

1. 1. 1. ข้อดีของกลยุทธ์ Collar

• **จำกัดความเสี่ยง:** กลยุทธ์ Collar ช่วยลดความเสี่ยงจากการลดลงของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• **สร้างรายได้:** การขาย Call Option ช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการถือครองสินทรัพย์อ้างอิง
• **ความยืดหยุ่น:** สามารถปรับเปลี่ยนราคาใช้สิทธิและระยะเวลาของออปชั่นเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและมุมมองของนักลงทุน
• **เหมาะสำหรับตลาด Sideways:** กลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน หรือคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ

1. 1. 1. ข้อเสียของกลยุทธ์ Collar

• **จำกัดผลกำไร:** การขาย Call Option จะจำกัดผลกำไรสูงสุดที่คุณสามารถได้รับหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
• **ค่าใช้จ่าย:** การซื้อ Put Option ต้องเสียค่าพรีเมียม ซึ่งจะลดผลตอบแทนโดยรวมของคุณ
• **ความซับซ้อน:** กลยุทธ์ Collar มีความซับซ้อนกว่ากลยุทธ์การซื้อขายแบบง่าย และต้องมีความเข้าใจในออปชั่นอย่างละเอียด
• **โอกาสในการพลาดผลกำไร:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณอาจพลาดโอกาสในการทำกำไรที่สูงขึ้น

1. 1. 1. การนำกลยุทธ์ Collar ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ในการนำกลยุทธ์ Collar ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น คุณต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

• **ราคาใช้สิทธิของ Put Option:** เลือกราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิงในระดับที่คุณสามารถยอมรับความเสี่ยงได้
• **ราคาใช้สิทธิของ Call Option:** เลือกราคาใช้สิทธิที่สูงกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิงในระดับที่คุณสามารถยอมรับการจำกัดผลกำไรได้
• **ระยะเวลาของออปชั่น:** เลือกระยะเวลาของออปชั่นที่สอดคล้องกับระยะเวลาที่คุณคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ
• **ค่าพรีเมียม:** พิจารณาค่าพรีเมียมของออปชั่นทั้งสองประเภท และเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่อาจได้รับ

ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์ Collar ในไบนารี่ออปชั่น

สินทรัพย์อ้างอิง	หุ้น ABC
ราคาปัจจุบัน	100 บาท
ซื้อ Put Option	ราคาใช้สิทธิ 95 บาท, ค่าพรีเมียม 2 บาท/หุ้น
ขาย Call Option	ราคาใช้สิทธิ 105 บาท, ค่าพรีเมียม 1 บาท/หุ้น
ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
Call Option ถูกใช้สิทธิ์, กำไรสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 5 บาท/หุ้น + ค่าพรีเมียม 1 บาท/หุ้น = 6 บาท/หุ้น
Put Option ถูกใช้สิทธิ์, ขาดทุนจำกัดไว้ที่ 5 บาท/หุ้น - ค่าพรีเมียม 2 บาท/หุ้น = 3 บาท/หุ้น
ออปชั่นหมดอายุ, ขาดทุนค่าพรีเมียมสุทธิ 1 บาท/หุ้น

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• **Covered Call:** การขาย Call Option บนหุ้นที่คุณถือครองอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Collar
• **Protective Put:** การซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาหุ้น เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Collar
• **Straddle:** การซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน โดยคาดการณ์ว่าราคาจะมีความผันผวนสูง
• **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน
• **Butterfly Spread:** กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นหลายประเภทที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน
• **Iron Condor:** กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขาย Call Option และ Put Option พร้อมกัน
• **Volatility Trading:** การซื้อขายโดยอิงจากความผันผวนของสินทรัพย์
• **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
• **Mean Reversion:** การซื้อขายโดยคาดการณ์ว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
• **Momentum Trading:** การซื้อขายโดยอิงจากความเร็วและทิศทางของราคา
• **Breakout Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้าน
• **Range Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ
• **Scalping:** การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
• **Day Trading:** การซื้อขายภายในวันเดียว
• **Swing Trading:** การถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยให้คุณสามารถระบุโอกาสในการใช้กลยุทธ์ Collar ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น:

• **การวิเคราะห์แนวโน้ม:** หากคุณคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ กลยุทธ์ Collar อาจเป็นทางเลือกที่ดี
• **การวิเคราะห์ความผันผวน:** หากคุณคาดการณ์ว่าความผันผวนจะสูง กลยุทธ์ Collar จะช่วยลดความเสี่ยงของคุณได้
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอาจบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ

1. 1. 1. สรุป

กลยุทธ์ Collar เป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการจำกัดความเสี่ยงและจำกัดผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้ต้องมีความเข้าใจในออปชั่นอย่างละเอียด และต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

การจัดการความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น และกลยุทธ์ Collar เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถช่วยคุณในการจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นอื่นๆ และการวิเคราะห์ตลาด จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาด

คำเตือนความเสี่ยง การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่นและกลยุทธ์การซื้อขาย

การเริ่มต้นซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น

แพลตฟอร์มการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่นที่แนะนำ

คำศัพท์สำคัญ ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์ตลาด ไบนารี่ออปชั่น

การเลือกโบรกเกอร์ ไบนารี่ออปชั่น

การวางแผนการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น

การบันทึกผลการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น

การปรับปรุงกลยุทธ์ การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การจัดการเงินทุน ไบนารี่ออปชั่น

การควบคุมอารมณ์ ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การใช้เครื่องมือ วิเคราะห์ทางเทคนิค

การทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

การประเมินความเสี่ยง ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การฝึกฝน กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การติดตามข่าวสาร ตลาดการเงิน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น