กลยุทธ์การใช้ Pivot Points
- กลยุทธ์การใช้ Pivot Points ในไบนารี่ออปชั่น
Pivot Points หรือ จุดหมุน เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดการเงิน รวมถึงตลาดไบนารี่ออปชั่น จุดหมุนถูกคำนวณจากราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วันก่อนหน้า) และใช้เพื่อระบุระดับแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวที่เป็นไปได้ของราคา บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Pivot Points รวมถึงวิธีการคำนวณ การตีความ และกลยุทธ์การนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น
หลักการพื้นฐานของ Pivot Points
แนวคิดพื้นฐานของ Pivot Points คือการที่ราคาจะเคลื่อนไหวรอบๆ ระดับสำคัญที่ถูกสร้างขึ้นจากข้อมูลราคาในอดีต นักเทรดเชื่อว่าระดับเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้าน ซึ่งเป็นจุดที่ราคาอาจหยุดหรือกลับตัวได้ การใช้ Pivot Points ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุระดับราคาที่น่าสนใจสำหรับการเข้าเทรด และกำหนดจุด Stop-Loss และ Take-Profit ที่เหมาะสม
วิธีการคำนวณ Pivot Points
การคำนวณ Pivot Points ทำได้ง่าย โดยใช้สูตรดังต่อไปนี้:
- Pivot Point (PP): (High + Low + Close) / 3
- Resistance Level 1 (R1): (2 x PP) - Low
- Resistance Level 2 (R2): PP + (High - Low)
- Support Level 1 (S1): (2 x PP) - High
- Support Level 2 (S2): PP - (High - Low)
โดยที่:
- High คือ ราคาที่สูงที่สุดของช่วงเวลาที่กำหนด
- Low คือ ราคาที่ต่ำที่สุดของช่วงเวลาที่กำหนด
- Close คือ ราคาปิดของช่วงเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างเช่น หากราคา High = 1.1050, Low = 1.0900, และ Close = 1.1000 การคำนวณจะเป็นดังนี้:
- PP = (1.1050 + 1.0900 + 1.1000) / 3 = 1.0983
- R1 = (2 x 1.0983) - 1.0900 = 1.1066
- R2 = 1.0983 + (1.1050 - 1.0900) = 1.1133
- S1 = (2 x 1.0983) - 1.1050 = 1.0916
- S2 = 1.0983 - (1.1050 - 1.0900) = 1.0833
การตีความ Pivot Points
เมื่อคำนวณ Pivot Points แล้ว นักเทรดจะใช้ระดับเหล่านี้เพื่อตีความแนวโน้มของราคา และระบุจุดเข้าเทรดที่อาจเกิดขึ้น:
- Pivot Point (PP): ระดับนี้ถือเป็นระดับสำคัญที่ราคาอาจมีการทดสอบ หรือกลับตัว หากราคาทะลุผ่าน PP ขึ้นไป อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น และหากราคาทะลุผ่าน PP ลงมา อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง
- Resistance Levels (R1, R2): ระดับเหล่านี้เป็นระดับที่ราคาอาจหยุดการขึ้น และกลับตัวลง นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะ Sell (Put Option) เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ R1 หรือ R2
- Support Levels (S1, S2): ระดับเหล่านี้เป็นระดับที่ราคาอาจหยุดการลง และกลับตัวขึ้น นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะ Buy (Call Option) เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ S1 หรือ S2
กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Pivot Points
มีหลายกลยุทธ์ที่นักเทรดสามารถใช้ Pivot Points ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้ นี่คือตัวอย่างบางส่วน:
1. Breakout Strategy: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเทรดเมื่อราคาทะลุผ่านระดับ Pivot Point หรือ Resistance/Support Levels หากราคาทะลุผ่าน R1 นักเทรดอาจเปิดสถานะ Buy โดยคาดหวังว่าราคาจะยังคงเคลื่อนที่ขึ้นต่อไป หากราคาทะลุผ่าน S1 นักเทรดอาจเปิดสถานะ Sell โดยคาดหวังว่าราคาจะยังคงเคลื่อนที่ลงต่อไป กลยุทธ์นี้ควบคู่กับ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของการทะลุ 2. Bounce Strategy: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเทรดเมื่อราคาเด้งกลับจากระดับ Pivot Point หรือ Resistance/Support Levels หากราคาเข้าใกล้ระดับ S1 และแสดงสัญญาณการกลับตัวขึ้น นักเทรดอาจเปิดสถานะ Buy หากราคาเข้าใกล้ระดับ R1 และแสดงสัญญาณการกลับตัวลง นักเทรดอาจเปิดสถานะ Sell การใช้ Relative Strength Index (RSI) สามารถช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัว 3. Pivot Point Range Trading: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเทรดภายในช่วงราคาที่ถูกกำหนดโดย Pivot Point และ Resistance/Support Levels นักเทรดจะเปิดสถานะ Buy เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ S1 และเปิดสถานะ Sell เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ R1 กลยุทธ์นี้เหมาะกับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบ (Sideways Market) 4. Multiple Timeframe Analysis: การใช้ Pivot Points ร่วมกับการวิเคราะห์ในหลายช่วงเวลา (Multiple Timeframes) สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเทรดได้ ตัวอย่างเช่น นักเทรดอาจใช้ Pivot Points ในช่วงเวลา Daily เพื่อระบุแนวโน้มหลัก และใช้ Pivot Points ในช่วงเวลา Hourly เพื่อระบุจุดเข้าเทรดที่แม่นยำ การวิเคราะห์แนวโน้ม เป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้ 5. Pivot Point and Moving Averages: การรวม Pivot Points กับ Moving Averages สามารถช่วยยืนยันสัญญาณ และลดสัญญาณหลอกได้ ตัวอย่างเช่น หากราคาเด้งกลับจากระดับ S1 และทะลุผ่าน Moving Average ขึ้นไป อาจเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง 6. Pivot Point and Fibonacci Retracement: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ Fibonacci Retracement สามารถช่วยระบุระดับ Support และ Resistance ที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น 7. Pivot Point and Candlestick Patterns: การสังเกต รูปแบบแท่งเทียน บริเวณระดับ Pivot Point สามารถช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัว หรือการทะลุ 8. Pivot Point Reversal Patterns: มองหารูปแบบการกลับตัว เช่น Double Top หรือ Double Bottom ที่เกิดขึ้นบริเวณระดับ Pivot Point เพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดที่แม่นยำ 9. Pivot Point Confirmation with Volume: ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาเข้าใกล้หรือทะลุผ่านระดับ Pivot Point ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นสามารถยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณ 10. Pivot Point and Support and Resistance Levels: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ แนวรับแนวต้าน ที่วาดด้วยวิธีอื่นสามารถช่วยยืนยันระดับราคาสำคัญ 11. Pivot Point and Trendlines: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ เส้นแนวโน้ม เพื่อระบุจุดตัดกันที่อาจเป็นจุดเข้าเทรด 12. Pivot Point and Bollinger Bands: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง 13. Pivot Point and MACD: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย 14. Pivot Point and Stochastic Oscillator: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ Stochastic Oscillator เพื่อระบุสภาวะ Overbought หรือ Oversold 15. Pivot Point and Ichimoku Cloud: การใช้ Pivot Points ร่วมกับ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | สัญญาณเข้าเทรด | สัญญาณออกเทรด | ระดับความเสี่ยง |
| Breakout Strategy | เทรดเมื่อราคาทะลุผ่านระดับ Pivot Point หรือ Resistance/Support Levels | ราคาทะลุผ่าน R1 (Buy) หรือ S1 (Sell) | ราคาถึงเป้าหมาย หรือ Stop-Loss | ปานกลาง |
| Bounce Strategy | เทรดเมื่อราคาเด้งกลับจากระดับ Pivot Point หรือ Resistance/Support Levels | ราคาเด้งกลับจาก S1 (Buy) หรือ R1 (Sell) พร้อมสัญญาณการกลับตัว | ราคาถึงเป้าหมาย หรือ Stop-Loss | ปานกลาง |
| Pivot Point Range Trading | เทรดภายในช่วงราคาที่ถูกกำหนดโดย Pivot Point และ Resistance/Support Levels | ราคาเข้าใกล้ S1 (Buy) หรือ R1 (Sell) | ราคาถึงเป้าหมาย หรือ Stop-Loss | ต่ำ |
ข้อควรระวังในการใช้ Pivot Points
- Pivot Points ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และอาจให้สัญญาณหลอกได้ ดังนั้นควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Japanese Candlesticks หรือ Indicators ต่างๆ
- การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการคำนวณ Pivot Points มีความสำคัญ ช่วงเวลาที่นิยมใช้คือ Daily, Weekly, และ Monthly
- ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การกำหนดจุด Stop-Loss และ Take-Profit ที่ชัดเจน
สรุป
Pivot Points เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจวิธีการคำนวณ การตีความ และการนำไปใช้ในการเทรด สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าไม่มีกลยุทธ์ใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้เสมอไป ดังนั้นการฝึกฝน การเรียนรู้ และการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การเทรดไบนารี่ออปชั่น | แนวรับแนวต้าน | การจัดการความเสี่ยง | กลยุทธ์การเทรด | Japanese Candlesticks | Moving Averages | Relative Strength Index (RSI) | MACD | Stochastic Oscillator | Bollinger Bands | Fibonacci Retracement | Trendlines | Ichimoku Cloud | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | แนวโน้มของตลาด | Double Top | Double Bottom | รูปแบบแท่งเทียน (Category:Technical Analysis) -]]
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

