กลยุทธ์การเทรด Deriv

1. 1. กลยุทธ์การเทรด Deriv สำหรับผู้เริ่มต้น

Deriv เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) และ CFD (Contracts for Difference) การทำความเข้าใจกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของกลยุทธ์การเทรด Deriv ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการ

1. 1. 1. ทำความเข้าใจ Deriv และเครื่องมือการเทรด

ก่อนที่เราจะเจาะลึกในรายละเอียดของกลยุทธ์ต่างๆ เรามาทำความเข้าใจแพลตฟอร์ม Deriv และเครื่องมือที่ใช้ในการเทรดกันก่อน Deriv มีเครื่องมือหลากหลายให้เลือกใช้ ทั้ง กราฟ (Charts), ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators), และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ที่ช่วยในการตัดสินใจเทรด

• **Binary Options:** การเทรดไบนารี่ออปชั่นบน Deriv เป็นการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์ (เช่น สกุลเงิน, หุ้น, ดัชนี) จะขึ้นหรือลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากคาดการณ์ถูกต้อง จะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนด หากคาดการณ์ผิด จะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
• **CFD:** CFD เป็นสัญญาที่อนุญาตให้เทรดความแตกต่างของราคาของสินทรัพย์ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริงๆ CFD มีความเสี่ยงสูงกว่าไบนารี่ออปชั่น แต่ก็มีโอกาสในการทำกำไรที่สูงกว่าเช่นกัน
• **เครื่องมือวิเคราะห์:** Deriv มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย เช่น Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่), MACD (Moving Average Convergence Divergence), RSI (Relative Strength Index), และ Bollinger Bands (แบนด์โบลิงเจอร์) ที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาและหาจังหวะในการเทรด

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นบน Deriv

1. 1. 1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following)

กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น โดยอาศัยการวิเคราะห์แนวโน้มราคา หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ให้เปิดออปชั่น Call (ซื้อ) หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ให้เปิดออปชั่น Put (ขาย)

• **การระบุแนวโน้ม:** สามารถระบุแนวโน้มได้โดยใช้ เส้นแนวโน้ม (Trend Lines), Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่), และ กราฟแท่งเทียน (Candlestick Patterns)
• **การยืนยันแนวโน้ม:** ควรยืนยันแนวโน้มด้วย ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น ADX (Average Directional Index)

1. 1. 1. 1. 2. กลยุทธ์การเทรด Breakout

กลยุทธ์นี้อาศัยการคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวต้าน (Resistance) หรือแนวรับ (Support) หากราคาทะลุแนวต้าน ให้เปิดออปชั่น Call หากราคาทะลุแนวรับ ให้เปิดออปชั่น Put

• **การระบุแนวต้านและแนวรับ:** สามารถระบุแนวต้านและแนวรับได้โดยดูจากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของราคาในอดีต
• **การยืนยัน Breakout:** ควรยืนยัน Breakout ด้วย ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคา Breakout แสดงว่ามีความน่าเชื่อถือสูง

1. 1. 1. 1. 3. กลยุทธ์การเทรด Pin Bar

กลยุทธ์นี้อาศัยการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar ซึ่งเป็นรูปแบบที่แสดงถึงการกลับตัวของราคา Pin Bar มีลักษณะเป็นแท่งเทียนที่มีลำตัวเล็กและมีเงา (Shadow) ยาว

• **Pin Bar Bullish:** เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น ให้เปิดออปชั่น Call
• **Pin Bar Bearish:** เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลง ให้เปิดออปชั่น Put

1. 1. 1. 1. 4. กลยุทธ์การเทรดตามข่าว (News Trading)

กลยุทธ์นี้อาศัยการวิเคราะห์ข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์

• **ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ:** เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน, และ GDP
• **ข่าวทางการเมือง:** เช่น การเลือกตั้ง, การเปลี่ยนแปลงนโยบาย, และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
• **การคาดการณ์ผลกระทบ:** ต้องคาดการณ์ว่าข่าวสารจะส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อย่างไร และเปิดออปชั่นที่สอดคล้องกับการคาดการณ์

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรด CFD บน Deriv

1. 1. 1. 1. 1. กลยุทธ์ Scalping

กลยุทธ์ Scalping เป็นการเปิดและปิดออปชั่นอย่างรวดเร็ว เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้นๆ

• **กรอบเวลา:** ใช้กรอบเวลาที่สั้นมากๆ เช่น 1 นาที หรือ 5 นาที
• **ตัวบ่งชี้:** ใช้ ตัวบ่งชี้ (Indicators) ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว เช่น Stochastic Oscillator (Stochastic Oscillator) และ Bollinger Bands (แบนด์โบลิงเจอร์)
• **การบริหารความเสี่ยง:** ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เนื่องจาก Scalping มีความเสี่ยงสูง

1. 1. 1. 1. 2. กลยุทธ์ Day Trading

กลยุทธ์ Day Trading เป็นการเปิดและปิดออปชั่นภายในวันเดียวกัน โดยไม่ถือออปชั่นข้ามคืน

• **การวิเคราะห์:** ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานในการตัดสินใจเทรด
• **การบริหารเวลา:** ต้องมีการบริหารเวลาที่ดี เนื่องจาก Day Trading ต้องใช้เวลาในการติดตามราคาและวิเคราะห์ตลาด
• **การบริหารความเสี่ยง:** ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เนื่องจาก Day Trading มีความเสี่ยงสูง

1. 1. 1. 1. 3. กลยุทธ์ Swing Trading

กลยุทธ์ Swing Trading เป็นการถือออปชั่นไว้หลายวัน หรือหลายสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจาก Swing (การแกว่งตัว) ของราคา

• **การวิเคราะห์:** ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานในการตัดสินใจเทรด
• **การอดทน:** ต้องมีความอดทนในการรอคอยให้ราคาถึงเป้าหมาย
• **การบริหารความเสี่ยง:** ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เนื่องจาก Swing Trading มีความเสี่ยงสูง

1. 1. 1. การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Deriv

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Deriv ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม

• **กำหนดขนาดการลงทุน:** ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
• **ใช้ Stop Loss:** Stop Loss เป็นคำสั่งที่ปิดออปชั่นโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด เพื่อจำกัดความเสียหาย
• **ใช้ Take Profit:** Take Profit เป็นคำสั่งที่ปิดออปชั่นโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด เพื่อล็อคกำไร
• **กระจายความเสี่ยง:** ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง
• **ควบคุมอารมณ์:** ไม่ควรเทรดด้วยอารมณ์ ควรเทรดตามแผนที่วางไว้

1. 1. 1. เครื่องมือเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์

นอกเหนือจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคแล้ว ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ตลาดได้

• **Fibonacci Retracements:** ใช้ในการระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
• **Elliott Wave Theory:** ใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคา
• **Market Sentiment Analysis:** ใช้ในการวัดความรู้สึกของนักลงทุน

1. 1. 1. สรุป

การเทรด Deriv ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในกลยุทธ์ต่างๆ และการบริหารความเสี่ยงที่ดี ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุด และค่อยๆ เรียนรู้และพัฒนาทักษะของตนเอง การฝึกฝนและการทดลองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Deriv อย่าลืมว่าการเทรดมีความเสี่ยง และคุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้

ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรด Deriv

คำอธิบาย | ความเสี่ยง | เหมาะสำหรับ |
เทรดตามแนวโน้มราคา | ต่ำ | ผู้เริ่มต้น |	เทรดเมื่อราคาทะลุแนวต้าน/รับ | ปานกลาง | ผู้มีประสบการณ์ |	เทรดตามรูปแบบแท่งเทียน Pin Bar | ปานกลาง | ผู้มีประสบการณ์ |	เทรดตามข่าวสารเศรษฐกิจ | สูง | ผู้เชี่ยวชาญ |	เทรดระยะสั้นๆ | สูง | ผู้เชี่ยวชาญ |	เทรดภายในวันเดียวกัน | สูง | ผู้มีประสบการณ์ |	เทรดระยะกลาง | ปานกลาง | ผู้มีประสบการณ์ |

การเทรดไบนารี่ออปชั่น | การเทรด CFD | การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การบริหารความเสี่ยง | กลยุทธ์การเทรด | กราฟ | ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค | Moving Averages | MACD | RSI | Bollinger Bands | เส้นแนวโน้ม | กราฟแท่งเทียน | ADX | ปริมาณการซื้อขาย | Stochastic Oscillator | Fibonacci Retracements | Elliott Wave Theory | Market Sentiment Analysis | Stop Loss | Take Profit

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น