กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot Points
- กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot Points ในไบนารี่ออปชั่น
Pivot Points หรือ จุดหมุน เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย จุดหมุนถูกคำนวณจากราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน) และใช้เพื่อระบุระดับแนวรับ แนวต้าน และจุดที่อาจเกิดการกลับตัวของราคา กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot Points สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจเข้าซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Pivot Points รวมถึงวิธีการคำนวณ การใช้งาน และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง
- ความหมายและที่มาของ Pivot Points
แนวคิดของ Pivot Points มีต้นกำเนิดมาจากตลาดหุ้น และได้รับการพัฒนาโดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อ Joseph de Lange ในช่วงทศวรรษ 1930 จุดประสงค์หลักของ Pivot Points คือการระบุระดับราคาที่สำคัญซึ่งนักเทรดสามารถใช้ในการวางแผนการซื้อขาย โดยอิงจากราคาในอดีตและคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต
- วิธีการคำนวณ Pivot Points
การคำนวณ Pivot Points ทำได้ง่าย โดยใช้สูตรดังนี้:
- **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
- **Resistance Level 1 (R1):** (2 x PP) - Low
- **Support Level 1 (S1):** (2 x PP) - High
- **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High - Low)
- **Support Level 2 (S2):** PP - (High - Low)
- ตัวอย่าง:**
สมมติว่าราคาของสินทรัพย์ในวันก่อนหน้าคือ:
- High: 1.1200
- Low: 1.1000
- Close: 1.1100
ดังนั้น การคำนวณ Pivot Points จะเป็นดังนี้:
- PP = (1.1200 + 1.1000 + 1.1100) / 3 = 1.1100
- R1 = (2 x 1.1100) - 1.1000 = 1.1200
- S1 = (2 x 1.1100) - 1.1200 = 1.1000
- R2 = 1.1100 + (1.1200 - 1.1000) = 1.1300
- S2 = 1.1100 - (1.1200 - 1.1000) = 1.0900
- การใช้งาน Pivot Points ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
Pivot Points สามารถนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี ดังนี้:
- **แนวรับและแนวต้าน:** ระดับ Pivot Point, R1, S1, R2 และ S2 สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ หากราคาทะลุแนวต้าน อาจเป็นสัญญาณการซื้อ (Call Option) และหากราคาทะลุแนวรับ อาจเป็นสัญญาณการขาย (Put Option)
- **จุดกลับตัว:** Pivot Points สามารถใช้เพื่อระบุจุดที่อาจเกิดการกลับตัวของราคา หากราคาเข้าใกล้แนวรับและเกิดการเด้งตัว อาจเป็นโอกาสในการซื้อ และหากราคาเข้าใกล้แนวต้านและเกิดการปรับตัวลง อาจเป็นโอกาสในการขาย
- **การยืนยันแนวโน้ม:** หากราคาเคลื่อนที่เหนือแนวต้านหลายระดับ แสดงว่าแนวโน้มเป็นขาขึ้น และหากราคาเคลื่อนที่ต่ำกว่าแนวรับหลายระดับ แสดงว่าแนวโน้มเป็นขาลง
- **การกำหนดจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุน:** สามารถใช้ระดับ Pivot Points เพื่อกำหนดจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุนได้อย่างเหมาะสม
- กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot Points
มีหลายกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ Pivot Points เป็นพื้นฐาน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ที่นิยมใช้:
1. **Pivot Point Bounce:** กลยุทธ์นี้อาศัยการเด้งตัวของราคาจากแนวรับและแนวต้าน เมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ S1 หรือ S2 ให้พิจารณาเปิดสถานะ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งตัวขึ้น และเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน R1 หรือ R2 ให้พิจารณาเปิดสถานะ Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลง 2. **Pivot Point Breakout:** กลยุทธ์นี้อาศัยการทะลุแนวรับและแนวต้าน เมื่อราคาทะลุแนวต้าน R1 หรือ R2 ให้พิจารณาเปิดสถานะ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะยังคงปรับตัวขึ้น และเมื่อราคาทะลุแนวรับ S1 หรือ S2 ให้พิจารณาเปิดสถานะ Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะยังคงปรับตัวลง 3. **Pivot Point Confluence:** กลยุทธ์นี้ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Fibonacci Retracement, Moving Averages หรือ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย หากระดับ Pivot Point ตรงกับระดับ Fibonacci หรือแนว Moving Average จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ 4. **Pivot Point and Candlestick Patterns:** กลยุทธ์นี้ใช้ร่วมกับรูปแบบแท่งเทียน เช่น Engulfing Pattern, Hammer หรือ Doji เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย หากรูปแบบแท่งเทียนเกิดขึ้นใกล้กับระดับ Pivot Point จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ 5. **Pivot Point Scalping:** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรระยะสั้น โดยการเปิดและปิดสถานะอย่างรวดเร็วเมื่อราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้ระดับ Pivot Point
- ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Pivot Points
- ข้อดี:**
- **ใช้งานง่าย:** การคำนวณและใช้งาน Pivot Points ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
- **มีความแม่นยำ:** Pivot Points สามารถระบุระดับราคาที่สำคัญได้อย่างแม่นยำ
- **ใช้ได้กับทุกตลาด:** Pivot Points สามารถใช้ได้กับตลาดการเงินทุกประเภท
- **สามารถปรับใช้ได้:** สามารถปรับใช้ Pivot Points ให้เข้ากับสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคลได้
- ข้อเสีย:**
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Pivot Points ไม่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ 100%
- **อาจเกิดสัญญาณหลอก:** บางครั้งราคาอาจทะลุแนวรับหรือแนวต้านแล้วกลับตัว ทำให้เกิดสัญญาณหลอก
- **ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ ควรใช้ Pivot Points ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
- การบริหารความเสี่ยงในการเทรดโดยใช้ Pivot Points
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่น แม้ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ Pivot Points ที่มีประสิทธิภาพก็ตาม ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการบริหารความเสี่ยง:
- **กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนในแต่ละครั้งอย่างเหมาะสม ไม่ควรลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมด
- **ใช้ Stop Loss:** ใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาเคลื่อนที่สวนทางกับที่คุณคาดการณ์ไว้
- **Diversify:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท
- **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
- **ฝึกฝน:** ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
- การรวม Pivot Points กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ควรใช้ Pivot Points ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:
- **Trend Lines:** ใช้ Trend Lines เพื่อระบุแนวโน้มของราคา และยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Pivot Points
- **Moving Averages:** ใช้ Moving Averages เพื่อกรองสัญญาณรบกวน และระบุแนวโน้มระยะยาว
- **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold)
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม และยืนยันสัญญาณการซื้อขาย
- **Volume Analysis:** วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และระบุสัญญาณการกลับตัว
- สรุป
Pivot Points เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจวิธีการคำนวณ การใช้งาน และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณตัดสินใจเข้าซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่า Pivot Points ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และควรใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยงและการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | การบริหารความเสี่ยง | กลยุทธ์การเทรด | ไบนารี่ออปชั่น | แนวรับแนวต้าน | Fibonacci Retracement | Moving Averages | RSI (Relative Strength Index) | MACD (Moving Average Convergence Divergence) | Candlestick Patterns | Engulfing Pattern | Hammer | Doji | Trend Lines | Volume Analysis | การเทรดระยะสั้น | การเทรดระยะยาว | การเทรดแบบ Scalping | การเทรดแบบ Day Trading | การเทรดแบบ Swing Trading | กลยุทธ์ Martingale | กลยุทธ์ Anti-Martingale | กลยุทธ์ Hedging | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

