กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Fibonacci

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Fibonacci

บทนำ

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความง่ายต่อการเข้าใจและมีโอกาสในการทำกำไรที่สูง อย่างไรก็ตาม การเทรดอย่างประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในเครื่องมือและกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะช่วยในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่นักเทรดหลายคนให้ความสนใจและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Fibonacci หรือลำดับฟีโบนักชี ซึ่งเป็นชุดตัวเลขที่มีความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาได้ บทความนี้จะอธิบายถึงหลักการของ Fibonacci, การนำมาใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น, และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น

Fibonacci คืออะไร?

Fibonacci หรือ Leonardo Pisano Fibonacci เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 12 ถึง 13 เขาเป็นที่รู้จักกันดีจากลำดับตัวเลขที่ตั้งชื่อตามเขา ซึ่งเริ่มต้นด้วย 0 และ 1 และตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า:

0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, ...

แม้ว่าจะเป็นลำดับตัวเลขที่เรียบง่าย แต่ก็มีความสัมพันธ์กับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหลายอย่าง เช่น การจัดเรียงของเกลียวในดอกทานตะวัน, รูปทรงของเปลือกหอย, และสัดส่วนของร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ ลำดับ Fibonacci ยังมีความสัมพันธ์กับ อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ซึ่งมีค่าประมาณ 1.618 หรือ φ (phi) ซึ่งเป็นสัดส่วนที่พบได้บ่อยในศิลปะ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติ

Fibonacci Retracements

ในโลกของการเทรด Fibonacci Retracements คือเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น โดยอิงจากลำดับ Fibonacci นักเทรดจะใช้ Fibonacci Retracements เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นหรือลงมากน้อยเพียงใดก่อนที่จะเปลี่ยนแนวโน้ม

การคำนวณ Fibonacci Retracements ทำได้โดยการวาดเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุดของแนวโน้ม (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุดของแนวโน้ม (สำหรับแนวโน้มขาลง) จากนั้น จะมีการสร้างเส้นระดับต่างๆ โดยอิงจากอัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ:

  • 23.6%
  • 38.2%
  • 50%
  • 61.8%
  • 78.6%

ระดับเหล่านี้ถือเป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่ศักยภาพ ซึ่งราคาอาจหยุดหรือกลับตัวเมื่อเข้าใกล้ระดับเหล่านี้

Fibonacci Extensions

Fibonacci Extensions เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุเป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวกลับ (retracement) แล้ว นักเทรดจะใช้ Fibonacci Extensions เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะไปถึงระดับใดหลังจากที่ได้ฟื้นตัวจากแนวรับหรือแนวต้าน

การคำนวณ Fibonacci Extensions ทำได้โดยการใช้จุดเริ่มต้น (จุดต่ำสุด), จุดสิ้นสุด (จุดสูงสุด), และจุดกลับตัว (retracement point) จากนั้น จะมีการสร้างเส้นระดับต่างๆ โดยอิงจากอัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ:

  • 61.8%
  • 100%
  • 161.8%
  • 261.8%

ระดับเหล่านี้ถือเป็นเป้าหมายราคาที่ศักยภาพ ซึ่งราคาอาจพุ่งสูงขึ้นหรือลดลงไปถึงระดับเหล่านี้

การนำ Fibonacci มาใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การใช้ Fibonacci ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และความชอบของนักเทรด ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน:

1. **การระบุแนวรับและแนวต้าน:** ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น หากราคาทดสอบระดับแนวรับ Fibonacci Retracements และแสดงสัญญาณของการกลับตัว (เช่น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว) นักเทรดอาจเปิดสถานะ Call Option (ซื้อ) หากราคาทดสอบระดับแนวต้าน Fibonacci Retracements และแสดงสัญญาณของการกลับตัว (เช่น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว) นักเทรดอาจเปิดสถานะ Put Option (ขาย)

2. **การกำหนดเป้าหมายราคา:** ใช้ Fibonacci Extensions เพื่อกำหนดเป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้น หากราคาทะลุระดับแนวต้านและกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น นักเทรดอาจใช้ Fibonacci Extensions เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะไปถึงระดับใด และเปิดสถานะ Call Option หากราคาทะลุระดับแนวรับและกำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง นักเทรดอาจใช้ Fibonacci Extensions เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะไปถึงระดับใด และเปิดสถานะ Put Option

3. **การยืนยันสัญญาณ:** ใช้ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, MACD, RSI, และ Bollinger Bands เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรด ตัวอย่างเช่น หากราคาทดสอบระดับแนวรับ Fibonacci Retracements และ RSI กำลังอยู่ในสภาวะ Oversold นักเทรดอาจเปิดสถานะ Call Option

4. **การใช้ร่วมกับ Price Action:** สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณระดับ Fibonacci เพื่อหา confirmation signals เช่น การเกิดรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Fibonacci

ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Fibonacci ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้:

1. **Fibonacci Retracement Pullback Strategy:**

   *   ระบุแนวโน้มที่ชัดเจน (ขาขึ้นหรือขาลง)
   *   วาด Fibonacci Retracements จากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (สำหรับแนวโน้มขาลง)
   *   รอให้ราคาย่อตัว (pullback) กลับไปยังระดับ Fibonacci Retracements ที่สำคัญ (เช่น 38.2%, 50%, หรือ 61.8%)
   *   เปิดสถานะ Call Option หากราคากลับตัวขึ้นจากระดับ Fibonacci Retracements ในแนวโน้มขาขึ้น
   *   เปิดสถานะ Put Option หากราคากลับตัวลงจากระดับ Fibonacci Retracements ในแนวโน้มขาลง
   *   ตั้ง Stop Loss ที่ต่ำกว่าระดับ Fibonacci Retracements เล็กน้อย
   *   ตั้ง Take Profit ที่ระดับ Fibonacci Extensions ที่สูงกว่า (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือต่ำกว่า (สำหรับแนวโน้มขาลง)

2. **Fibonacci Extension Breakout Strategy:**

   *   ระบุแนวโน้มที่ชัดเจน (ขาขึ้นหรือขาลง)
   *   วาด Fibonacci Extensions โดยใช้จุดเริ่มต้น, จุดสิ้นสุด, และจุดกลับตัว
   *   รอให้ราคาทะลุระดับแนวต้าน (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือระดับแนวรับ (สำหรับแนวโน้มขาลง)
   *   เปิดสถานะ Call Option หากราคาทะลุระดับแนวต้านและกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
   *   เปิดสถานะ Put Option หากราคาทะลุระดับแนวรับและกำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง
   *   ตั้ง Stop Loss ที่ต่ำกว่าระดับแนวต้าน (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือสูงกว่าระดับแนวรับ (สำหรับแนวโน้มขาลง) เล็กน้อย
   *   ตั้ง Take Profit ที่ระดับ Fibonacci Extensions ที่สูงกว่า (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือต่ำกว่า (สำหรับแนวโน้มขาลง)

3. **Fibonacci Confluence Strategy:**

   *   ค้นหาระดับ Fibonacci ที่สอดคล้องกับแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญ, เส้นแนวโน้ม, หรือระดับ Moving Averages
   *   ระดับที่เกิด confluence (การบรรจบกัน) จะมีความสำคัญเป็นพิเศษและมีแนวโน้มที่จะเป็นจุดกลับตัวของราคา
   *   ใช้กลยุทธ์ Pullback หรือ Breakout ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น โดยเน้นที่ระดับ confluence

ข้อควรระวังและคำแนะนำ

  • Fibonacci ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100% และไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเทรด ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
  • การเลือกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแนวโน้มมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเลือกผิด อาจทำให้การวิเคราะห์ Fibonacci ไม่ถูกต้อง
  • ฝึกฝนการใช้ Fibonacci ในบัญชี Demo ก่อนที่จะนำไปใช้ในการเทรดจริง
  • ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อตลาด
  • อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้

สรุป

Fibonacci เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยให้นักเทรด ไบนารี่ออปชั่น ระบุแนวรับ, แนวต้าน, และเป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้นได้ การทำความเข้าใจหลักการของ Fibonacci และการนำไปประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรดต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Fibonacci ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

การวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียน การบริหารความเสี่ยง การเทรดตามแนวโน้ม การเทรดแบบ Scalping การเทรดแบบ Day Trading กลยุทธ์ Martingale กลยุทธ์ Anti-Martingale การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Moving Average Convergence Divergence (MACD) Relative Strength Index (RSI) Bollinger Bands Ichimoku Cloud Pivot Points Support and Resistance Levels Trend Lines Chart Patterns

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер