กลยุทธ์การสแกน

1. กลยุทธ์การสแกน ในไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น

บทนำ

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น จำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ตลาดอย่างถี่ถ้วน เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การวิเคราะห์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการดู กราฟราคา หรือ ข่าวสารเศรษฐกิจ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้ "กลยุทธ์การสแกน" ซึ่งเป็นกระบวนการค้นหาโอกาสในการซื้อขายที่มีศักยภาพ โดยการตรวจสอบตลาดอย่างเป็นระบบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์การสแกนสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการใช้งาน เครื่องมือที่จำเป็น และข้อควรระวังต่างๆ

ความสำคัญของกลยุทธ์การสแกน

ทำไมเราต้องใช้กลยุทธ์การสแกน? คำตอบคือ ตลาด Forex และตลาดอื่นๆ ที่ไบนารี่ออปชั่นอ้างอิง มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเฝ้าดูตลาดตลอดเวลาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และการพยายามคาดการณ์ทิศทางตลาดโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนก็มีความเสี่ยงสูง กลยุทธ์การสแกนช่วยให้เรา:

**ประหยัดเวลา:** แทนที่จะนั่งเฝ้าดูกราฟราคาตลอดเวลา เราสามารถตั้งค่าระบบการสแกนให้ค้นหาโอกาสในการซื้อขายให้เราได้
**ลดอคติ:** การสแกนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าช่วยลดอคติส่วนตัวในการตัดสินใจซื้อขาย
**เพิ่มโอกาสในการทำกำไร:** การค้นหาโอกาสในการซื้อขายที่มีความน่าจะเป็นสูงขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
**ปรับปรุงวินัยในการซื้อขาย:** การใช้กลยุทธ์การสแกนช่วยให้เรามีวินัยในการซื้อขายมากขึ้น โดยการซื้อขายเฉพาะเมื่อมีสัญญาณที่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

ประเภทของกลยุทธ์การสแกน

มีกลยุทธ์การสแกนหลากหลายประเภท แต่โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่:

1. **การสแกนตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิค**: กลยุทธ์นี้ใช้ ตัวชี้วัดทางเทคนิค ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average), ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI), MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อค้นหาโอกาสในการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น เราสามารถตั้งค่าระบบการสแกนให้แจ้งเตือนเมื่อ RSI มีค่าต่ำกว่า 30 (ภาวะขายมากเกินไป) หรือ MACD เกิดการตัดขึ้น (สัญญาณซื้อ) 2. **การสแกนตาม การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน**: กลยุทธ์นี้ใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน, GDP (Gross Domestic Product) เพื่อค้นหาโอกาสในการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น เราสามารถตั้งค่าระบบการสแกนให้แจ้งเตือนเมื่อมีการประกาศตัวเลข GDP ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ (สัญญาณบวกสำหรับสกุลเงินของประเทศนั้นๆ) 3. **การสแกนตาม รูปแบบราคา (Price Patterns)**: กลยุทธ์นี้ใช้การจดจำรูปแบบราคาต่างๆ เช่น หัวและไหล่ (Head and Shoulders), สามเหลี่ยม (Triangles), ธง (Flags) เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา ตัวอย่างเช่น เราสามารถตั้งค่าระบบการสแกนให้แจ้งเตือนเมื่อเกิดรูปแบบ Head and Shoulders ที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง

เครื่องมือที่ใช้ในการสแกน

มีเครื่องมือมากมายที่สามารถใช้ในการสแกนตลาดไบนารี่ออปชั่นได้ ทั้งเครื่องมือฟรีและเครื่องมือเสียเงิน เครื่องมือที่นิยมใช้ ได้แก่:

**TradingView:** แพลตฟอร์มกราฟที่ได้รับความนิยม มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย และสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้
**MetaTrader 4/5 (MT4/MT5):** แพลตฟอร์มซื้อขายที่ได้รับความนิยม สามารถใช้ร่วมกับ Expert Advisors (EAs) เพื่อทำการสแกนตลาดได้
**Binary Options Robot:** ซอฟต์แวร์อัตโนมัติที่สามารถทำการสแกนและซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้โดยอัตโนมัติ (ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง)
**เว็บไซต์ข่าวสารเศรษฐกิจ:** เช่น Investing.com, Forex Factory ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ
**Broker Platform:** หลายๆ โบรกเกอร์มีเครื่องมือสแกนพื้นฐานให้ใช้งานในแพลตฟอร์มของตน

ตัวอย่างกลยุทธ์การสแกน: การสแกน RSI

กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่ง่ายและได้รับความนิยม เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

- หลักการ:**

RSI (Relative Strength Index) เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคา
RSI มีค่าระหว่าง 0 ถึง 100
RSI ที่สูงกว่า 70 บ่งบอกถึงภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และอาจมีการปรับฐานราคา
RSI ที่ต่ำกว่า 30 บ่งบอกถึงภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และอาจมีการดีดตัวของราคา

- การตั้งค่าการสแกน:**

1. เลือกคู่สกุลเงินที่ต้องการซื้อขาย 2. ตั้งค่า Timeframe (เช่น 15 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง) 3. ตั้งค่า RSI Period (เช่น 14) 4. ตั้งค่าเงื่อนไขการแจ้งเตือน:

   *   RSI ต่ำกว่า 30 (สัญญาณซื้อ)
   *   RSI สูงกว่า 70 (สัญญาณขาย)

- การซื้อขาย:**

เมื่อระบบแจ้งเตือนว่า RSI ต่ำกว่า 30 ให้เปิด Position Call (ซื้อ)
เมื่อระบบแจ้งเตือนว่า RSI สูงกว่า 70 ให้เปิด Position Put (ขาย)
กำหนดระยะเวลาหมดอายุของออปชั่น (Expiry Time) ที่เหมาะสม (เช่น 30 นาที, 1 ชั่วโมง)
บริหารความเสี่ยงโดยการลงทุนไม่เกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง