No-Touch Options
- No-Touch Options: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น
No-Touch Options เป็นประเภทหนึ่งของ ไบนารี่ออปชั่น ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากโอกาสในการทำกำไรที่สูงและความซับซ้อนที่ไม่มากนัก บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ No-Touch Options รวมถึงกลไกการทำงาน, ข้อดีข้อเสีย, กลยุทธ์การเทรด, และปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าใจและเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- No-Touch Options คืออะไร?
No-Touch Option เป็นออปชั่นชนิดหนึ่งที่ผู้เทรดจะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่* สัมผัสระดับราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสัมผัสระดับราคาที่กำหนดไว้ ผู้เทรดจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
แตกต่างจาก High/Low Options ที่ผู้เทรดทำกำไรเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่าหรือต่ำกว่า Strike Price ภายในระยะเวลาที่กำหนด No-Touch Option เน้นไปที่การคาดการณ์ว่าราคาจะไม่ทะลุระดับราคาที่กำหนดไว้
- กลไกการทำงานของ No-Touch Options
1. **การเลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** ผู้เทรดเลือกสินทรัพย์อ้างอิงที่ต้องการเทรด เช่น หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หรือสกุลเงิน 2. **การกำหนด Strike Price:** ผู้เทรดเลือก Strike Price ซึ่งเป็นระดับราคาที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่* ควรสัมผัส 3. **การเลือกระยะเวลา:** ผู้เทรดเลือกระยะเวลาของออปชั่น เช่น 5 นาที, 15 นาที, 1 ชั่วโมง, หรือ 1 วัน 4. **การลงทุน:** ผู้เทรดลงทุนจำนวนเงินที่ต้องการ 5. **ผลลัพธ์:**
* **ถ้า** ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่* สัมผัส Strike Price ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ (Payout) * **ถ้า** ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *สัมผัส* Strike Price ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้เทรดจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
- ประเภทของ No-Touch Options
No-Touch Options แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:
- **เหนือ (Above/Up):** ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะไม่สูงกว่า Strike Price ที่กำหนด
- **ต่ำกว่า (Below/Down):** ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะไม่ต่ำกว่า Strike Price ที่กำหนด
- ข้อดีและข้อเสียของ No-Touch Options
- ข้อดี:**
- **โอกาสในการทำกำไรสูง:** No-Touch Options มักมีผลตอบแทน (Payout) ที่สูงกว่าออปชั่นประเภทอื่น
- **ความเสี่ยงที่จำกัด:** ความเสี่ยงของผู้เทรดถูกจำกัดอยู่ที่จำนวนเงินที่ลงทุนเท่านั้น
- **ความเข้าใจง่าย:** กลไกการทำงานของ No-Touch Options ค่อนข้างตรงไปตรงมา
- **ความยืดหยุ่น:** มีสินทรัพย์อ้างอิงและระยะเวลาให้เลือกหลากหลาย
- ข้อเสีย:**
- **ความแม่นยำที่ต้องการ:** การทำกำไรจาก No-Touch Options ต้องการการคาดการณ์ที่แม่นยำว่าราคาจะไม่สัมผัส Strike Price
- **ความผันผวนของตลาด:** ความผันผวนของตลาดอาจทำให้ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสัมผัส Strike Price ได้อย่างรวดเร็ว
- **การจัดการความเสี่ยง:** การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด No-Touch Options
- กลยุทธ์การเทรด No-Touch Options
1. **การวิเคราะห์แนวโน้ม:** การระบุแนวโน้มของตลาด (Trend) เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเลือก No-Touch Option ประเภทใด การวิเคราะห์แนวโน้ม 2. **การใช้ระดับแนวรับและแนวต้าน:** ระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) สามารถช่วยในการกำหนด Strike Price ที่เหมาะสม แนวรับแนวต้าน 3. **การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค:** ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Averages, RSI, และ MACD สามารถช่วยในการวิเคราะห์โมเมนตัมและสัญญาณการกลับตัวของราคา ตัวชี้วัดทางเทคนิค 4. **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** ปริมาณการซื้อขาย (Volume) สามารถบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย 5. **กลยุทธ์ Breakout:** หากคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวรับหรือแนวต้าน อาจเลือก No-Touch Option ที่ Strike Price ใกล้กับแนวรับหรือแนวต้านนั้น 6. **กลยุทธ์ Range Trading:** หากคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ อาจเลือก No-Touch Option ที่ Strike Price อยู่เหนือหรือต่ำกว่าช่วงราคา 7. **Straddle Strategy:** ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวนสูง แต่ไม่แน่ใจว่าจะไปในทิศทางใด (ซื้อทั้ง Call และ Put Option) Straddle Strategy 8. **Strangle Strategy:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน (Call Option ที่ Strike Price สูงกว่า และ Put Option ที่ Strike Price ต่ำกว่า) Strangle Strategy 9. **Butterfly Spread:** ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ และไม่น่าจะเคลื่อนที่มากนัก Butterfly Spread 10. **Iron Condor:** ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ และไม่น่าจะมีความผันผวนมากนัก Iron Condor 11. **การใช้ Fibonacci Retracement:** ช่วยในการหาจุดกลับตัวของราคา Fibonacci Retracement 12. **การใช้ Elliott Wave Theory:** ช่วยในการทำนายทิศทางของราคา Elliott Wave Theory 13. **การวิเคราะห์ Price Action:** การอ่านรูปแบบแท่งเทียนและรูปแบบราคา Price Action 14. **การใช้ Bollinger Bands:** ช่วยในการระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการ Overbought หรือ Oversold Bollinger Bands 15. **การใช้ Ichimoku Cloud:** ช่วยในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน Ichimoku Cloud
- ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนการเทรด No-Touch Options
- **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้ No-Touch Option มีความเสี่ยงสูง
- **ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ:** ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
- **สภาพคล่องของตลาด:** ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงจะช่วยให้การซื้อขายเป็นไปได้อย่างราบรื่น
- **ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น:** พิจารณาค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
- **เงินทุน:** จัดสรรเงินทุนอย่างเหมาะสมและอย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
- การจัดการความเสี่ยงในการเทรด No-Touch Options
- **กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนในแต่ละออปชั่นอย่างเหมาะสม
- **ใช้ Stop-Loss:** แม้ว่า No-Touch Option จะไม่มี Stop-Loss โดยตรง แต่คุณสามารถใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงอื่นๆ เช่น การลงทุนเพียงส่วนน้อยของพอร์ต
- **กระจายความเสี่ยง:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลาย
- **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
- **ฝึกฝนการเทรด:** ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง
- ตัวอย่างการเทรด No-Touch Options
สมมติว่าคุณเชื่อว่าราคาของทองคำจะไม่สูงกว่า 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 ชั่วโมง คุณสามารถซื้อ No-Touch Option ประเภท "Above" ที่ Strike Price 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง หากราคาของทองคำ *ไม่* สูงกว่า 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ แต่ถ้าหากราคาของทองคำสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
- สรุป
No-Touch Options เป็นเครื่องมือการเทรดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสในการทำกำไรที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน, กลยุทธ์การเทรด, และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถเทรด No-Touch Options ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
| ! เงื่อนไขการทำกำไร |! เงื่อนไขการขาดทุน | | - | |- | | ราคาขึ้นหรือลงเกิน Strike Price | ราคาไม่ขึ้นหรือลงเกิน Strike Price | | ราคาแตะ Strike Price | ราคาไม่แตะ Strike Price | | ราคาไม่แตะ Strike Price | ราคาแตะ Strike Price | |
ออปชั่น ไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การจัดการความเสี่ยง กลยุทธ์การเทรด แนวรับแนวต้าน Moving Averages RSI MACD การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Straddle Strategy Strangle Strategy Butterfly Spread Iron Condor Fibonacci Retracement Elliott Wave Theory Price Action Bollinger Bands Ichimoku Cloud
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
