Retracement Strategy
- กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Retracement ในไบนารี่ออปชั่น
บทนำ
กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Retracement เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาด ไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้ได้กับกรอบเวลาที่หลากหลาย กลยุทธ์นี้อาศัยหลักการที่ว่าราคาจะมีการปรับฐาน (Retracement) หรือเคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มหลักชั่วคราว ก่อนที่จะกลับไปเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิมอีกครั้ง การเข้าใจกลไกนี้และการนำไปประยุกต์ใช้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ Retracement อย่างละเอียด ตั้งแต่พื้นฐาน แนวคิดสำคัญ วิธีการใช้งาน ตัวอย่างการซื้อขาย และข้อควรระวังสำหรับผู้เริ่มต้น
ความหมายของ Retracement
Retracement หมายถึง การที่ราคาของสินทรัพย์เคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มหลักชั่วคราว ก่อนที่จะกลับไปเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิมอีกครั้ง ในทางเทคนิค การ Retracement ไม่ได้หมายความว่าแนวโน้มหลักได้เปลี่ยนไป แต่เป็นเพียงการพักตัวหรือปรับฐานเพื่อสะสมพลังก่อนที่จะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิม การระบุระดับ Retracement ที่สำคัญสามารถช่วยให้นักเทรดคาดการณ์จุดกลับตัวของราคาและวางเดิมพันได้อย่างแม่นยำ
แนวคิดพื้นฐานของกลยุทธ์ Retracement
กลยุทธ์ Retracement อาศัยการวิเคราะห์ แนวโน้ม (Trend) และการระบุระดับ Retracement ที่สำคัญ โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น Fibonacci Retracement หรือ Support และ Resistance เพื่อช่วยในการระบุระดับเหล่านี้
- แนวโน้ม (Trend): การระบุแนวโน้มหลักเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้กลยุทธ์ Retracement แนวโน้มสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend), แนวโน้มขาลง (Downtrend) และแนวโน้ม Sideways (Ranging)
- Fibonacci Retracement: เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับ Retracement ที่สำคัญ โดยอิงจากลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับทางคณิตศาสตร์ที่พบได้บ่อยในธรรมชาติและตลาดการเงิน ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ ได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6%
- Support และ Resistance: ระดับ Support คือระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อเกิดขึ้น ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดลง หรือเด้งกลับขึ้น ในขณะที่ระดับ Resistance คือระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขายเกิดขึ้น ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดลง หรือเด้งกลับลง
วิธีการใช้งานกลยุทธ์ Retracement
กลยุทธ์ Retracement สามารถใช้งานได้ทั้งในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นและแนวโน้มขาลง โดยมีขั้นตอนดังนี้:
1. ระบุแนวโน้มหลัก: พิจารณาจาก กราฟราคา และเครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ เช่น Moving Average เพื่อระบุแนวโน้มหลักของสินทรัพย์ 2. ระบุระดับ Retracement: ใช้เครื่องมือ เช่น Fibonacci Retracement หรือ Support และ Resistance เพื่อระบุระดับ Retracement ที่สำคัญ 3. รอสัญญาณยืนยัน: รอสัญญาณยืนยันการกลับตัวของราคา เช่น รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) หรือ Indicator ที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม 4. เข้าทำการซื้อขาย: เมื่อได้รับสัญญาณยืนยัน ให้เข้าทำการซื้อขายในทิศทางเดียวกับแนวโน้มหลัก โดยเลือกประเภทของออปชั่นที่เหมาะสม (Call หรือ Put)
ตัวอย่างการซื้อขายแบบ Retracement ในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้น
สมมติว่าเรากำลังวิเคราะห์กราฟราคาของสินทรัพย์ที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และเราสังเกตเห็นว่าราคาได้ปรับฐานลงมาที่ระดับ Fibonacci Retracement 38.2% จากนั้นเราสังเกตเห็นว่ามีรูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing เกิดขึ้นที่ระดับนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยันการกลับตัวของราคา
| ขั้นตอน | คำอธิบาย |
|---|---|
| 1. | ระบุแนวโน้มขาขึ้นจากกราฟราคา |
| 2. | ระบุระดับ Fibonacci Retracement 38.2% |
| 3. | รอสัญญาณยืนยัน: เกิดรูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing ที่ระดับ 38.2% |
| 4. | เข้าทำการซื้อขาย: ซื้อ Call Option โดยมีเป้าหมายกำไรที่ระดับ Fibonacci Retracement 61.8% หรือสูงกว่า |
ตัวอย่างการซื้อขายแบบ Retracement ในตลาดที่มีแนวโน้มขาลง
สมมติว่าเรากำลังวิเคราะห์กราฟราคาของสินทรัพย์ที่อยู่ในแนวโน้มขาลง และเราสังเกตเห็นว่าราคาได้ปรับฐานขึ้นมาที่ระดับ Support ที่แข็งแกร่ง จากนั้นเราสังเกตเห็นว่ามีรูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing เกิดขึ้นที่ระดับนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยันการกลับตัวของราคา
| ขั้นตอน | คำอธิบาย |
|---|---|
| 1. | ระบุแนวโน้มขาลงจากกราฟราคา |
| 2. | ระบุระดับ Support ที่แข็งแกร่ง |
| 3. | รอสัญญาณยืนยัน: เกิดรูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing ที่ระดับ Support |
| 4. | เข้าทำการซื้อขาย: ซื้อ Put Option โดยมีเป้าหมายกำไรที่ระดับ Support ถัดไป หรือต่ำกว่า |
ข้อควรระวังในการใช้กลยุทธ์ Retracement
แม้ว่ากลยุทธ์ Retracement จะมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อควรระวังที่นักเทรดควรคำนึงถึง:
- การระบุแนวโน้มที่ผิดพลาด: การระบุแนวโน้มหลักผิดพลาดอาจทำให้การซื้อขายผิดพลาดได้
- สัญญาณหลอก (False Signal): สัญญาณยืนยันการกลับตัวของราคาอาจเป็นสัญญาณหลอกได้ ดังนั้นควรใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อยืนยัน
- การบริหารความเสี่ยง (Risk Management): กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมและตั้งค่า Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
- ความผันผวนของตลาด: ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้กลยุทธ์ Retracement ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Trend Following: การซื้อขายตามแนวโน้มหลักของตลาด Trend Following
- Breakout Strategy: การซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับ Support หรือ Resistance Breakout Strategy
- Scalping: การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย Scalping
- Day Trading: การซื้อขายภายในวันเดียว Day Trading
- Swing Trading: การซื้อขายระยะกลางเพื่อทำกำไรจาก Swing ของราคา Swing Trading
- Price Action: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา Price Action
- Elliott Wave Theory: ทฤษฎีคลื่นของเอลเลียตต์ Elliott Wave Theory
- Harmonic Patterns: รูปแบบ Harmonic ที่ใช้ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา Harmonic Patterns
- Ichimoku Cloud: ระบบ Ichimoku Cloud ที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและระดับ Support/Resistance Ichimoku Cloud
- Bollinger Bands: แถบ Bollinger ที่ใช้ในการวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
- MACD (Moving Average Convergence Divergence): ตัวชี้วัด MACD ที่ใช้ในการระบุโมเมนตัมของราคา MACD
- RSI (Relative Strength Index): ตัวชี้วัด RSI ที่ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของราคา RSI
- Stochastic Oscillator: ตัวชี้วัด Stochastic ที่ใช้ในการระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) Stochastic Oscillator
- Volume Spread Analysis (VSA): การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread ของราคา Volume Spread Analysis
- Pivot Points: การใช้ Pivot Points ในการระบุระดับ Support และ Resistance Pivot Points
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม
- Candlestick Patterns: การศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ Candlestick Patterns
- Chart Patterns: การศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบ Chart ต่างๆ เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottom Chart Patterns
- Gap Analysis: การวิเคราะห์ช่องว่างของราคา (Gap) Gap Analysis
สรุป
กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Retracement เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น แต่จำเป็นต้องมีความเข้าใจในแนวคิดพื้นฐานและวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง รวมถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การฝึกฝนและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการซื้อขาย
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
