Options Chain

1. 1. Options Chain

Options Trading เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน แต่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในตลาดได้ หนึ่งในองค์ประกอบหลักของการซื้อขาย Options คือความเข้าใจใน **Options Chain** หรือ ตารางออปชั่น ซึ่งเป็นรายการออปชั่นทั้งหมดที่มีสำหรับสินทรัพย์อ้างอิง (underlying asset) หนึ่งๆ ในช่วงเวลาที่กำหนด บทความนี้จะอธิบาย Options Chain อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมโครงสร้าง ข้อมูลที่แสดง และวิธีใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจซื้อขาย

1. 1. 1. ความหมายของ Options Chain

Options Chain คือตารางที่แสดงรายการออปชั่นซื้อ (Call Option) และออปชั่นขาย (Put Option) ที่มีอยู่ทั้งหมดสำหรับสินทรัพย์อ้างอิง เช่น หุ้น ดัชนี หรือสกุลเงิน ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไป จะมีการแสดงออปชั่นที่มีวันหมดอายุ (expiration date) ที่แตกต่างกัน และราคาใช้สิทธิ (strike price) ที่หลากหลาย

1. 1. 1. โครงสร้างของ Options Chain

Options Chain โดยทั่วไปจะถูกจัดเรียงตามราคาใช้สิทธิ (Strike Price) โดยออปชั่นซื้อ (Call Option) จะอยู่ด้านบน และออปชั่นขาย (Put Option) จะอยู่ด้านล่าง แต่ละแถวในตารางแสดงออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิเฉพาะ และแต่ละคอลัมน์แสดงข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับออปชั่นนั้นๆ

ตัวอย่างโครงสร้าง Options Chain สำหรับหุ้น ABC

Strike Price	Call Bid	Call Ask	Call Volume	Call Open Interest	Put Bid	Put Ask	Put Volume	Put Open Interest
100	2.50	2.60	100	500	0.50	0.60	50	200
105	1.50	1.60	80	400	0.30	0.40	30	150
110	0.75	0.85	50	250	0.10	0.20	20	100
115	0.25	0.35	20	100	0.05	0.15	10	50

• • คำอธิบาย:**

• **Strike Price:** ราคาที่ผู้ถือออปชั่นมีสิทธิ์ซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิง
• **Call Bid:** ราคาที่ผู้ซื้อออปชั่นซื้อยินดีจ่ายเพื่อซื้อ Call Option
• **Call Ask:** ราคาที่ผู้ขายออปชั่นขายยินดีขาย Call Option
• **Call Volume:** จำนวนสัญญา Call Option ที่ซื้อขายในวันนั้น
• **Call Open Interest:** จำนวนสัญญา Call Option ที่ยังไม่ได้ถูกใช้สิทธิ (outstanding)
• **Put Bid:** ราคาที่ผู้ซื้อออปชั่นซื้อยินดีจ่ายเพื่อซื้อ Put Option
• **Put Ask:** ราคาที่ผู้ขายออปชั่นขายยินดีขาย Put Option
• **Put Volume:** จำนวนสัญญา Put Option ที่ซื้อขายในวันนั้น
• **Put Open Interest:** จำนวนสัญญา Put Option ที่ยังไม่ได้ถูกใช้สิทธิ (outstanding)

1. 1. 1. ข้อมูลที่แสดงใน Options Chain และความหมาย

• **Underlying Asset:** สินทรัพย์อ้างอิงที่ออปชั่นอิงอยู่ (เช่น หุ้น, ดัชนี, สกุลเงิน)
• **Expiration Date:** วันที่ออปชั่นหมดอายุและไม่สามารถใช้สิทธิได้อีกต่อไป
• **Strike Price:** ราคาที่ผู้ถือออปชั่นมีสิทธิ์ซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง
• **Bid Price:** ราคาที่ผู้ซื้อออปชั่นยินดีจ่ายเพื่อซื้อออปชั่น
• **Ask Price:** ราคาที่ผู้ขายออปชั่นยินดีขายออปชั่น
• **Bid-Ask Spread:** ความแตกต่างระหว่าง Bid Price และ Ask Price ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สภาพคล่องของออปชั่น
• **Volume:** จำนวนสัญญาออปชั่นที่ซื้อขายในวันนั้น
• **Open Interest:** จำนวนสัญญาออปชั่นที่ยังไม่ได้ถูกใช้สิทธิ (outstanding) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความสนใจในออปชั่นนั้นๆ
• **Implied Volatility (IV):** การคาดการณ์ความผันผวนของราคาในอนาคตของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งได้รวมอยู่ในราคาของออปชั่น
• **Delta:** การเปลี่ยนแปลงของราคาออปชั่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย
• **Gamma:** การเปลี่ยนแปลงของ Delta เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป
• **Theta:** การลดลงของมูลค่าออปชั่นเมื่อเวลาผ่านไป (time decay)
• **Vega:** การเปลี่ยนแปลงของราคาออปชั่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อ Implied Volatility เปลี่ยนแปลงไป

1. 1. 1. การใช้ข้อมูล Options Chain ในการตัดสินใจซื้อขาย

ข้อมูลใน Options Chain สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจซื้อขายได้หลายวิธี:

• **การระบุโอกาสในการซื้อขาย:** การเปรียบเทียบ Bid และ Ask Price สามารถช่วยระบุโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้
• **การประเมินความเสี่ยง:** Open Interest และ Volume สามารถช่วยประเมินสภาพคล่องและความเสี่ยงของออปชั่นได้
• **การวิเคราะห์ Implied Volatility:** การเปลี่ยนแปลงของ Implied Volatility สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนของราคาในอนาคต
• **การสร้างกลยุทธ์การซื้อขาย:** Options Chain สามารถใช้ในการสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลาย เช่น Straddle, Strangle, Covered Call, และ Protective Put
• **การหาจุด Break-Even:** การคำนวณจุด Break-Even ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงราคาที่สินทรัพย์อ้างอิงจะต้องเคลื่อนที่เพื่อให้ได้กำไร
• **การวิเคราะห์ Greeks:** การวิเคราะห์ Delta, Gamma, Theta, และ Vega ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่างๆ

1. 1. 1. การอ่านและตีความข้อมูล Options Chain

การอ่านและตีความข้อมูล Options Chain อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขายออปชั่นที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น:

• **Call Option ที่มี Bid-Ask Spread แคบ:** บ่งบอกถึงสภาพคล่องสูงและโอกาสในการซื้อขายที่ดี
• **Put Option ที่มี Open Interest สูง:** บ่งบอกว่ามีนักลงทุนจำนวนมากที่คาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง
• **Implied Volatility ที่สูง:** บ่งบอกว่าตลาดคาดหวังความผันผวนของราคาที่สูง
• **Delta ที่ใกล้ 1:** บ่งบอกว่าราคาออปชั่นจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกับราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเกือบทั้งหมด

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้งาน Options Chain ในกลยุทธ์การซื้อขาย

• **Straddle Strategy:** ซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อคาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นหรือลง
• **Covered Call Strategy:** ขาย Call Option บนหุ้นที่ถืออยู่แล้ว กลยุทธ์นี้ใช้เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากหุ้นที่ถืออยู่
• **Protective Put Strategy:** ซื้อ Put Option บนหุ้นที่ถืออยู่แล้ว กลยุทธ์นี้ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาหุ้น
• **Bull Call Spread:** ซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิหนึ่ง และขาย Call Option ที่ราคาใช้สิทธิที่สูงกว่า กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อคาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
• **Bear Put Spread:** ซื้อ Put Option ที่ราคาใช้สิทธิหนึ่ง และขาย Put Option ที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่า กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อคาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลงเล็กน้อย

1. 1. 1. แหล่งข้อมูล Options Chain

มีแหล่งข้อมูลมากมายที่ให้บริการข้อมูล Options Chain ได้แก่:

• เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์: เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ([1](https://www.set.or.th/))
• โบรกเกอร์ออนไลน์: โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ให้บริการข้อมูล Options Chain แก่ลูกค้าของตน
• เว็บไซต์ทางการเงิน: เช่น Yahoo Finance, Google Finance, และ Bloomberg

1. 1. 1. ข้อควรระวังในการใช้ Options Chain

• การซื้อขายออปชั่นมีความเสี่ยงสูง และอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้
• การทำความเข้าใจข้อมูล Options Chain อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะทำการซื้อขาย
• ควรมีการวางแผนการซื้อขายและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายควบคู่กับ Options Chain

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน, รูปแบบกราฟ, และ ตัวชี้วัดทางเทคนิค ควบคู่ไปกับข้อมูลจาก Options Chain สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้ นอกจากนี้ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (volume) สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค

1. 1. 1. การใช้ Indicators และ Trends ร่วมกับ Options Chain

การใช้ Indicators เช่น Moving Averages, MACD, และ RSI ร่วมกับข้อมูล Options Chain สามารถช่วยระบุโอกาสในการซื้อขายและประเมินความเสี่ยงได้ การติดตาม Trends ในตลาดก็มีความสำคัญเช่นกันในการตัดสินใจซื้อขายออปชั่น

1. 1. 1. กลยุทธ์ Binary Options ที่เกี่ยวข้องกับ Options Chain

แม้ว่า Options Chain จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการซื้อขายออปชั่นแบบ Traditional แต่แนวคิดบางอย่างสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขาย Binary Options ได้ เช่น การวิเคราะห์ Implied Volatility เพื่อประเมินความเสี่ยง และการใช้ Greeks เพื่อทำความเข้าใจถึงความไวของราคา Binary Option ต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่างๆ

1. 1. 1. สรุป

Options Chain เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อขายออปชั่น การทำความเข้าใจโครงสร้าง ข้อมูลที่แสดง และวิธีใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจซื้อขาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้ การศึกษาอย่างต่อเนื่องและการฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นนักซื้อขายออปชั่นที่ประสบความสำเร็จ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น