Fibonacci Retracements

From binary option
Revision as of 08:21, 31 March 2025 by Admin (talk | contribs) (@pipegas_WP)
(diff) ← Older revision | Latest revision (diff) | Newer revision → (diff)
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Fibonacci Retracements

Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาดไบนารี่ออปชั่น เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ โดยอิงจากลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับของตัวเลขที่พบได้บ่อยในธรรมชาติ และเชื่อกันว่ามีผลต่อพฤติกรรมของตลาด

ประวัติและความเป็นมา

Leonardo Pisano (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fibonacci) เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 13 ที่ทำให้ลำดับ Fibonacci เป็นที่รู้จักในยุโรป ลำดับ Fibonacci เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 และแต่ละตัวเลขถัดไปคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, ...)

นักวิเคราะห์ทางเทคนิค Ralph Nelson Elliott ได้นำลำดับ Fibonacci มาใช้ในการวิเคราะห์ตลาดหุ้นในช่วงทศวรรษ 1930 โดยเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปตามรูปแบบที่สามารถทำนายได้โดยใช้ลำดับ Fibonacci และอัตราส่วนที่เกี่ยวข้อง

อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ

อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญที่สุดที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่:

  • 61.8% (Golden Ratio): อัตราส่วนนี้ได้มาจากผลหารของตัวเลขสองตัวที่อยู่ติดกันในลำดับ Fibonacci (เช่น 8/13 ≈ 0.618) ถือเป็นอัตราส่วนที่สำคัญที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลาย
  • 38.2% ได้มาจากผลหารของตัวเลข Fibonacci ที่ไม่ใช่ตัวเลขติดกัน (เช่น 34/89 ≈ 0.382)
  • 23.6% ได้มาจากผลหารของตัวเลข Fibonacci ที่ไม่ใช่ตัวเลขติดกัน (เช่น 21/89 ≈ 0.236)
  • 50% ไม่ใช่อัตราส่วน Fibonacci โดยตรง แต่เป็นระดับที่สำคัญทางจิตวิทยา เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางของการเคลื่อนไหวของราคา

การคำนวณ Fibonacci Retracements

ในการคำนวณ Fibonacci Retracements คุณต้องระบุจุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ของแนวโน้มที่สำคัญ จากนั้นใช้ระดับ Fibonacci เพื่อหาจุดแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้

1. ระบุแนวโน้ม: ระบุแนวโน้มที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขึ้น (Uptrend) หรือแนวโน้มลง (Downtrend) 2. ระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด: ในแนวโน้มขึ้น ให้ระบุจุดต่ำสุดก่อนหน้า (Swing Low) และจุดสูงสุดล่าสุด (Swing High) ในแนวโน้มลง ให้ระบุจุดสูงสุดก่อนหน้า (Swing High) และจุดต่ำสุดล่าสุด (Swing Low) 3. คำนวณระดับ Retracement: ใช้ระดับ Fibonacci (23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%) เพื่อคำนวณจุด Retracement โดยการคูณส่วนต่างระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดด้วยแต่ละระดับ

ตัวอย่าง:

สมมติว่าแนวโน้มขึ้นมีจุดต่ำสุดที่ 100 และจุดสูงสุดที่ 150 ส่วนต่างคือ 50 (150 - 100 = 50)

  • 23.6% Retracement: 150 - (50 * 0.236) = 138.2
  • 38.2% Retracement: 150 - (50 * 0.382) = 130.9
  • 50% Retracement: 150 - (50 * 0.5) = 125
  • 61.8% Retracement: 150 - (50 * 0.618) = 119.1

การใช้ Fibonacci Retracements ในไบนารี่ออปชั่น

Fibonacci Retracements สามารถใช้ในไบนารี่ออปชั่นเพื่อระบุจุดเข้าและออกจากตลาดได้หลายวิธี:

  • จุดเข้า (Entry Point): เมื่อราคา Retrace กลับไปยังระดับ Fibonacci ที่สำคัญ อาจเป็นสัญญาณการซื้อ (Buy) ในแนวโน้มขึ้น หรือสัญญาณการขาย (Sell) ในแนวโน้มลง ตัวอย่างเช่น หากราคาทดสอบระดับ 61.8% Retracement ในแนวโน้มขึ้น อาจเป็นโอกาสในการซื้อ โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับขึ้นไปในทิศทางเดิม
  • จุดทำกำไร (Take Profit): สามารถตั้งจุดทำกำไรที่ระดับ Fibonacci ถัดไป หรือที่จุดสูงสุด/ต่ำสุดก่อนหน้า
  • จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): สามารถตั้งจุดตัดขาดทุนที่ระดับ Fibonacci ถัดไป หรือต่ำกว่าระดับ Retracement ที่ใช้เป็นจุดเข้า
  • การยืนยันสัญญาณ: ใช้ Fibonacci Retracements ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages หรือ Relative Strength Index (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ

รูปแบบ Fibonacci ที่สำคัญ

นอกเหนือจาก Fibonacci Retracements แล้ว ยังมีรูปแบบ Fibonacci อื่นๆ ที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้:

  • Fibonacci Extensions: ใช้เพื่อระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ โดยการขยายระดับ Fibonacci เกิน 100%
  • Fibonacci Arcs: วาดเป็นส่วนโค้งจากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของแนวโน้ม เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
  • Fibonacci Fan Lines: วาดเป็นเส้นทแยงมุมจากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของแนวโน้ม เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
  • Fibonacci Time Zones: ใช้เพื่อระบุช่วงเวลาที่สำคัญที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา

ข้อควรระวังและข้อจำกัด

แม้ว่า Fibonacci Retracements จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดที่ควรทราบ:

  • ไม่ใช่การรับประกัน: Fibonacci Retracements ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าราคาจะเคลื่อนที่ตามที่คาดการณ์ไว้
  • อัตวิสัย: การระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของแนวโน้มอาจเป็นอัตวิสัยและแตกต่างกันไปในแต่ละนักวิเคราะห์
  • การยืนยัน: ควรใช้ Fibonacci Retracements ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
  • ความผิดพลาด: บางครั้งราคาอาจทะลุผ่านระดับ Fibonacci โดยไม่หยุด ทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้

การรวม Fibonacci Retracements กับกลยุทธ์อื่นๆ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ Fibonacci Retracements ควรนำไปรวมกับกลยุทธ์การวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ:

  • Trend Following: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อระบุจุดเข้าที่ดีในทิศทางของแนวโน้มหลัก (ดู Trend Following Strategy)
  • Support and Resistance: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อยืนยันระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ (ดู Support and Resistance Trading)
  • Chart Patterns: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อระบุเป้าหมายราคาสำหรับรูปแบบ Chart ที่แตกต่างกัน (ดู Chart Pattern Recognition)
  • Candlestick Patterns: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อยืนยันสัญญาณจากรูปแบบแท่งเทียน (ดู Candlestick Pattern Trading)
  • Volume Analysis: ใช้ Volume Analysis เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสัญญาณจาก Fibonacci Retracements (ดู Volume Spread Analysis)
  • Moving Average Crossover: ใช้ Fibonacci Retracements ร่วมกับสัญญาณ Moving Average Crossover เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าเทรด (ดู Moving Average Strategy)
  • Bollinger Bands: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อระบุจุดกลับตัวภายใน Bollinger Bands (ดู Bollinger Bands Strategy)
  • MACD (Moving Average Convergence Divergence): ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อยืนยันสัญญาณจาก MACD (ดู MACD Trading Strategy)
  • Stochastic Oscillator: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อยืนยันสัญญาณ Overbought/Oversold จาก Stochastic Oscillator (ดู Stochastic Oscillator Strategy)
  • Ichimoku Cloud: ใช้ Fibonacci Retracements เพื่อระบุจุดเข้าที่แข็งแกร่งภายใน Ichimoku Cloud (ดู Ichimoku Cloud Strategy)
  • Elliott Wave Theory: Fibonacci Retracements เป็นส่วนสำคัญของ Elliott Wave Theory (ดู Elliott Wave Analysis)
  • Pivot Points: ใช้ Fibonacci Retracements ร่วมกับ Pivot Points เพื่อระบุระดับสำคัญ (ดู Pivot Point Trading)
  • Average True Range (ATR): ใช้ Average True Range (ATR) เพื่อประเมินความผันผวนและปรับขนาด Position (ดู ATR Trading Strategy)
  • Fibonacci Clusters: มองหาบริเวณที่ระดับ Fibonacci หลายระดับมาบรรจบกัน ซึ่งมักจะเป็นจุด Return ที่แข็งแกร่ง (ดู Fibonacci Cluster Trading)
  • Harmonic Patterns: เรียนรู้และใช้ Harmonic Patterns ซึ่งเป็นรูปแบบที่ซับซ้อนที่ใช้ Fibonacci Retracements เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง (ดู Harmonic Pattern Trading)

สรุป

Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาดการเงิน การทำความเข้าใจหลักการและวิธีการใช้งาน Fibonacci Retracements จะช่วยให้นักเทรดไบนารี่ออปชั่นสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่า Fibonacci Retracements ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยง

ตัวอย่างระดับ Fibonacci Retracements
ระดับ Fibonacci ! คำอธิบาย ! การใช้งานในไบนารี่ออปชั่น
Retracement ระดับแรกที่มักจะเกิดขึ้น | ใช้เป็นจุดเข้าซื้อในแนวโน้มขึ้น หรือจุดเข้าขายในแนวโน้มลง
Retracement ระดับที่สองที่มักจะเกิดขึ้น | ใช้เป็นจุดเข้าซื้อในแนวโน้มขึ้น หรือจุดเข้าขายในแนวโน้มลง
ระดับจิตวิทยาที่สำคัญ | ใช้เป็นจุดเข้าซื้อในแนวโน้มขึ้น หรือจุดเข้าขายในแนวโน้มลง
Golden Ratio ที่สำคัญที่สุด | ใช้เป็นจุดเข้าซื้อในแนวโน้มขึ้น หรือจุดเข้าขายในแนวโน้มลง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер