High/Low

(ประมาณ 8,000 โทเค็น)

High / Low: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้นในไบนารี่ออปชั่น

บทนำ

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นเป็นตลาดการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและความสามารถในการทำกำไรที่รวดเร็ว ทำให้ดึงดูดผู้เทรดทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ หนึ่งในประเภทของไบนารี่ออปชั่นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “High/Low” หรือ “สูง/ต่ำ” บทความนี้จะให้คำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ High/Low สำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐาน กลยุทธ์ การจัดการความเสี่ยง และเคล็ดลับในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย

High/Low คืออะไร?

High/Low เป็นรูปแบบไบนารี่ออปชั่นที่ง่ายที่สุดรูปแบบหนึ่ง ในการซื้อขาย High/Low ผู้เทรดจะคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น สกุลเงิน ดัชนีหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์) จะสูงหรือต่ำกว่าราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Time)

• **High (สูง):** ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะสูงกว่า Strike Price เมื่อถึงเวลาหมดอายุ
• **Low (ต่ำ):** ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะต่ำกว่า Strike Price เมื่อถึงเวลาหมดอายุ

หากการคาดการณ์ถูกต้อง ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Payout) หากการคาดการณ์ผิดพลาด ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด (Investment)

วิธีการทำงานของ High/Low

การซื้อขาย High/Low ทำงานดังนี้:

1. **เลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อขาย เช่น EUR/USD, ทองคำ, หรือดัชนี S&P 500 2. **เลือกระยะเวลาหมดอายุ:** เลือกระยะเวลาที่คุณต้องการให้การซื้อขายมีผล เช่น 60 วินาที, 5 นาที, 30 นาที, หรือ 1 ชั่วโมง 3. **เลือก Strike Price:** แพลตฟอร์มการซื้อขายจะแสดง Strike Price ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือบางแพลตฟอร์มอาจอนุญาตให้คุณเลือก Strike Price เองได้ 4. **เลือจำนวนเงินลงทุน:** กำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุนในการซื้อขาย 5. **เลือก High หรือ Low:** ตัดสินใจว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาจะสูงกว่าหรือต่ำกว่า Strike Price 6. **ยืนยันการซื้อขาย:** ยืนยันการซื้อขายของคุณ และรอจนกว่าจะถึงเวลาหมดอายุ

เมื่อถึงเวลาหมดอายุ แพลตฟอร์มการซื้อขายจะตรวจสอบว่าการคาดการณ์ของคุณถูกต้องหรือไม่ หากถูกต้อง คุณจะได้รับผลตอบแทน หากไม่ถูกต้อง คุณจะเสียเงินลงทุน

กลยุทธ์การซื้อขาย High/Low

มีกลยุทธ์มากมายที่สามารถใช้ในการซื้อขาย High/Low ได้ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมบางส่วน:

• **กลยุทธ์แนวโน้ม (Trend Following):** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุแนวโน้มในตลาด และทำการซื้อขายตามแนวโน้มนั้น หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) คุณอาจเลือก High หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) คุณอาจเลือก Low ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การวิเคราะห์แนวโน้ม
• **กลยุทธ์ช่วง (Range Trading):** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุช่วงราคาที่สินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่อยู่ หากราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น คุณอาจเลือก High เมื่อราคาใกล้ขีดจำกัดบนของช่วง และเลือก Low เมื่อราคาใกล้ขีดจำกัดล่างของช่วง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การซื้อขายช่วง
• **กลยุทธ์ Breakout:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการรอให้ราคา Breakout จากช่วงราคาที่กำหนดไว้ หากราคา Breakout ขึ้น คุณอาจเลือก High หากราคา Breakout ลง คุณอาจเลือก Low การวิเคราะห์ Breakout
• **การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators):** ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD, และ Bollinger Bands เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หาก RSI แสดงว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) คุณอาจเลือก Low ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ทางเทคนิค
• **กลยุทธ์ Pin Bar:** รูปแบบ Pin Bar เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม สามารถใช้เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย High/Low ได้ รูปแบบแท่งเทียน
• **กลยุทธ์ Engulfing:** รูปแบบ Engulfing (การกลืนกิน) เป็นรูปแบบแท่งเทียนอีกรูปแบบหนึ่งที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการซื้อขาย High/Low ได้เช่นกัน รูปแบบแท่งเทียน
• **กลยุทธ์ Price Action:** การวิเคราะห์ Price Action คือการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ Price Action Trading
• **กลยุทธ์ News Trading:** การซื้อขายตามข่าว (News Trading) คือการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาดที่เกิดจากข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ News Trading
• **กลยุทธ์ Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement
• **กลยุทธ์ Elliott Wave:** ใช้ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต Elliott Wave Theory
• **กลยุทธ์ Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับ/แนวต้าน Ichimoku Cloud
• **การวิเคราะห์ Volume:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume) สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัวได้ Volume Analysis
• **กลยุทธ์ Scalping:** การ Scalping คือการเปิดและปิดการซื้อขายอย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อย Scalping Strategy
• **กลยุทธ์ Day Trading:** การ Day Trading คือการเปิดและปิดการซื้อขายทั้งหมดภายในวันเดียวกัน Day Trading Strategy
• **กลยุทธ์ Swing Trading:** การ Swing Trading คือการถือการซื้อขายเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์เพื่อทำกำไรจาก Swing ของราคา Swing Trading Strategy

การจัดการความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น High/Low ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางส่วน:

• **ลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถเสียได้:** อย่าลงทุนเงินที่คุณต้องการใช้สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น
• **กำหนดขนาดการซื้อขาย:** กำหนดขนาดการซื้อขายที่เหมาะสมกับเงินทุนของคุณ โดยทั่วไป ไม่ควรลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง
• **ใช้ Stop Loss:** แม้ว่า High/Low จะไม่มี Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกเวลาหมดอายุที่สั้นลง
• **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนทั้งหมดในสินทรัพย์อ้างอิงเดียว กระจายความเสี่ยงของคุณโดยการซื้อขายในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
• **มีวินัย:** ปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณอย่างเคร่งครัด และอย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของคุณ

ตัวอย่างการจัดการความเสี่ยง

เงินทุนเริ่มต้น	1000 USD
เปอร์เซ็นต์การลงทุนต่อการซื้อขาย	5%
จำนวนเงินลงทุนต่อการซื้อขาย	50 USD
ผลตอบแทนที่คาดหวัง (Payout)	80%
ผลตอบแทนที่คาดหวังต่อการซื้อขาย (ถ้าชนะ)	40 USD

เคล็ดลับในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย High/Low

• **เรียนรู้พื้นฐาน:** ทำความเข้าใจวิธีการทำงานของ High/Low และปัจจัยที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
• **ฝึกฝน:** ใช้บัญชี Demo เพื่อฝึกฝนกลยุทธ์ของคุณก่อนที่จะเริ่มซื้อขายด้วยเงินจริง บัญชี Demo
• **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินที่อาจมีผลต่อตลาด
• **วิเคราะห์ตลาด:** ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย
• **มีวินัย:** ปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณอย่างเคร่งครัด และอย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของคุณ
• **เรียนรู้จากความผิดพลาด:** วิเคราะห์การซื้อขายที่ผิดพลาดของคุณ และเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

• Investopedia - Binary Options
• Babypips - Binary Options
• Binary Options Trading Guide

ข้อควรระวัง

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง และคุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนที่จะเริ่มซื้อขาย

การวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารจัดการเงินทุน จิตวิทยาการเทรด การเลือกโบรกเกอร์ การทำความเข้าใจ Payout การวิเคราะห์ความผันผวน การใช้เครื่องมือ Trading การป้องกันความเสี่ยง การซื้อขายในช่วงเวลาต่างๆ การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ การอ่านข่าวสารทางการเงิน การบริหารเวลาในการเทรด

.

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น