Touch Binary Options

From binary option
Revision as of 23:44, 2 May 2025 by Admin (talk | contribs) (@pipegas_WP)
(diff) ← Older revision | Latest revision (diff) | Newer revision → (diff)
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Touch Binary Options

Touch Binary Options หรือ ไบนารี่ออปชั่นแบบสัมผัส คือรูปแบบหนึ่งของ ไบนารี่ออปชั่น ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ เนื่องจากมีโอกาสในการทำกำไรที่สูง และมีความยืดหยุ่นในการเทรดที่หลากหลาย บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Touch Binary Options สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงกลไกการทำงาน, ประเภท, กลยุทธ์, การบริหารความเสี่ยง และข้อควรระวังต่างๆ

      1. กลไกการทำงานของ Touch Binary Options

Touch Binary Options แตกต่างจาก ไบนารี่ออปชั่นแบบ High/Low ตรงที่การทำกำไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าราคาจะสูงหรือต่ำกว่าราคาเป้าหมาย ณ เวลาหมดอายุ แต่ขึ้นอยู่กับว่าราคาจะ “สัมผัส” หรือ “แตะ” ราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ ภายในระยะเวลาที่กำหนด

  • **ราคาเป้าหมาย (Target Price):** คือระดับราคาที่ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะสัมผัสก่อนหมดอายุ
  • **ระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time):** คือระยะเวลาที่สัญญา Touch Binary Options มีผลบังคับใช้ ซึ่งอาจมีตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายวัน
  • **การจ่ายผลตอบแทน (Payout):** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสัมผัสราคาเป้าหมายก่อนหมดอายุ ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ (เช่น 70-90%) แต่หากราคาไม่สัมผัสราคาเป้าหมาย ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

Touch Binary Options มีสองประเภทหลัก ได้แก่:

1. **Touch/No Touch:** ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสราคาเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด (Touch) หรือจะไม่สัมผัสราคาเป้าหมาย (No Touch) 2. **Double Touch/No Double Touch:** ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสราคาเป้าหมายทั้งสองระดับที่กำหนดไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Double Touch) หรือจะไม่สัมผัสทั้งสองราคาเป้าหมาย (No Double Touch)

      1. ประเภทของ Touch Binary Options
        1. 1. Touch/No Touch

นี่คือประเภทที่ง่ายที่สุดของ Touch Binary Options ผู้เทรดเพียงแค่คาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสราคาเป้าหมายที่กำหนดหรือไม่ภายในระยะเวลาที่กำหนด

  • **Touch:** คาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสราคาเป้าหมาย
  • **No Touch:** คาดการณ์ว่าราคาจะไม่สัมผัสราคาเป้าหมาย
        1. 2. Double Touch/No Double Touch

ประเภทนี้มีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ผู้เทรดต้องคาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสราคาเป้าหมายทั้งสองระดับที่กำหนดไว้หรือไม่ภายในระยะเวลาที่กำหนด

  • **Double Touch:** คาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสราคาเป้าหมายทั้งสองระดับ
  • **No Double Touch:** คาดการณ์ว่าราคาจะไม่สัมผัสราคาเป้าหมายทั้งสองระดับ
      1. กลยุทธ์การเทรด Touch Binary Options

การเทรด Touch Binary Options จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้:

1. **กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม (Trend Following):** ใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อระบุแนวโน้มของราคา หากราคามีแนวโน้มที่จะขึ้น และราคาเป้าหมายอยู่เหนือราคาปัจจุบัน อาจพิจารณาเลือก Touch Option หากราคามีแนวโน้มที่จะลง และราคาเป้าหมายอยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน อาจพิจารณาเลือก Touch Option 2. **กลยุทธ์การ Breakout:** ใช้ รูปแบบราคา เช่น สามเหลี่ยม, ธง, หรือ Head and Shoulders เพื่อคาดการณ์การ Breakout หากคาดการณ์ว่าราคาจะ Breakout และสัมผัสราคาเป้าหมาย อาจพิจารณาเลือก Touch Option 3. **กลยุทธ์การใช้ Support และ Resistance:** ระบุระดับ Support และ Resistance ที่สำคัญ หากราคาเข้าใกล้ระดับ Resistance อาจพิจารณาเลือก Touch Option (หากคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุ Resistance) หรือ No Touch Option (หากคาดการณ์ว่าราคาจะเด้งกลับ) 4. **กลยุทธ์การใช้ Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา หากราคาเข้าใกล้ขอบบนของ Bollinger Bands อาจพิจารณาเลือก Touch Option หรือ No Touch Option ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 5. **กลยุทธ์การใช้ RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หาก RSI อยู่ในระดับ Overbought อาจพิจารณาเลือก No Touch Option หรือ Touch Option ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 6. **กลยุทธ์ Scalping:** เป็นกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรเล็กน้อยจากความผันผวนของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว 7. **กลยุทธ์ Martingale:** เป็นกลยุทธ์การเพิ่มเงินลงทุนเป็นสองเท่าทุกครั้งที่ขาดทุน แต่กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงและอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ 8. **กลยุทธ์ Anti-Martingale:** เป็นกลยุทธ์การลดเงินลงทุนลงครึ่งหนึ่งทุกครั้งที่ขาดทุน และเพิ่มเงินลงทุนเป็นสองเท่าทุกครั้งที่ทำกำไร กลยุทธ์นี้ช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนจำนวนมาก 9. **กลยุทธ์ตามข่าวเศรษฐกิจ:** การติดตามและวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ย หรือรายงานตัวเลขการจ้างงาน 10. **กลยุทธ์ตามฤดูกาล:** บางสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามฤดูกาล เช่น ราคาน้ำมันอาจสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน 11. **กลยุทธ์ Harmonic Patterns:** การใช้ Harmonic Patterns เช่น Butterfly, Crab, หรือ Bat เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา 12. **กลยุทธ์ Elliot Wave:** การวิเคราะห์ Elliot Wave เพื่อระบุรูปแบบราคาและคาดการณ์ทิศทางของราคา 13. **กลยุทธ์ Fibonacci Retracement:** การใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับ Support และ Resistance ที่อาจเกิดขึ้น 14. **กลยุทธ์ Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance 15. **กลยุทธ์ Volume Spread Analysis (VSA):** การวิเคราะห์ Volume Spread Analysis เพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย

      1. การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Touch Binary Options

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Touch Binary Options เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

  • **กำหนดเงินลงทุนสูงสุด:** กำหนดจำนวนเงินที่คุณพร้อมที่จะเสียได้ในการเทรดแต่ละครั้ง และไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนด
  • **ใช้ Stop Loss:** แม้ว่า Touch Binary Options จะไม่มี Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถบริหารความเสี่ยงได้โดยการเลือกสัญญาที่มีระยะเวลาหมดอายุสั้น
  • **กระจายความเสี่ยง:** ไม่ลงทุนในสัญญา Touch Binary Options เพียงอย่างเดียว แต่กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ และรูปแบบการเทรดอื่นๆ
  • **ศึกษาและทำความเข้าใจ:** ทำความเข้าใจกลไกการทำงานของ Touch Binary Options และกลยุทธ์ต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มเทรด
  • **ควบคุมอารมณ์:** ไม่เทรดด้วยอารมณ์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
      1. ข้อควรระวังในการเทรด Touch Binary Options
  • **ความผันผวนของราคา:** Touch Binary Options มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาอาจผันผวนอย่างรวดเร็ว
  • **ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียม:** ตรวจสอบค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บก่อนที่จะเริ่มเทรด
  • **โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน
  • **การหลอกลวง:** ระวังการหลอกลวงและการตลาดที่เกินจริง
      1. ตารางเปรียบเทียบ Touch/No Touch และ Double Touch/No Double Touch
เปรียบเทียบ Touch/No Touch และ Double Touch/No Double Touch
ประเภท คำอธิบาย ความเสี่ยง ผลตอบแทน
Touch/No Touch คาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัส (Touch) หรือไม่สัมผัส (No Touch) ราคาเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ปานกลาง ปานกลาง
Double Touch/No Double Touch คาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัส (Double Touch) หรือไม่สัมผัส (No Double Touch) ราคาเป้าหมายทั้งสองระดับภายในระยะเวลาที่กำหนด สูง สูง
      1. สรุป

Touch Binary Options เป็นรูปแบบการเทรดที่น่าสนใจและมีโอกาสในการทำกำไรที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน, กลยุทธ์, การบริหารความเสี่ยง และข้อควรระวังต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเทรด Touch Binary Options การศึกษาอย่างต่อเนื่องและการฝึกฝนเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง ไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์การเทรด โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น ข่าวสารทางการเงิน ตลาดการเงิน Forex หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี การลงทุน การซื้อขาย Option Futures สกุลเงินดิจิทัล Trend Analysis Volume Analysis Candlestick Patterns

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер