Forex Trading Strategies for Scalpers

1. Forex Trading Strategies for Scalpers

1. 1. บทนำ

การเทรด Forex หรือ Foreign Exchange คือการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ ในตลาดโลก ซึ่งเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดและเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้นๆ การ Scalping หรือการเทรดแบบ Scalp จึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก บทความนี้จะเจาะลึกถึงกลยุทธ์การเทรด Forex สำหรับ Scalpers โดยอธิบายถึงหลักการพื้นฐาน กลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วไป การจัดการความเสี่ยง และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จ

1. 1. Scalping คืออะไร?

Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นมาก โดยมีเป้าหมายในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเพียงเล็กน้อย โดยทั่วไป Scalpers จะถือครองสถานะ (Position) เพียงไม่กี่วินาทีหรือนาทีเท่านั้น กลยุทธ์นี้ต้องการความเร็ว ความแม่นยำ และวินัยในการเทรดสูง เนื่องจาก Scalpers จะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อทำกำไรจากโอกาสเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ความเร็วในการดำเนินการ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

1. 1. ทำไมต้อง Scalping?

• **โอกาสในการทำกำไรบ่อย:** เนื่องจาก Scalpers เปิดและปิดสถานะบ่อยครั้ง จึงมีโอกาสในการทำกำไรหลายครั้งต่อวัน
• **ความเสี่ยงต่ำต่อสถานะแต่ละครั้ง:** เนื่องจากเป้าหมายกำไรต่อสถานะมีขนาดเล็ก ความเสี่ยงต่อสถานะแต่ละครั้งจึงค่อนข้างต่ำ
• **ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ตลาดในระยะยาว:** Scalpers เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคระยะสั้นและรูปแบบราคามากกว่าการวิเคราะห์พื้นฐานในระยะยาว
• **เหมาะสำหรับตลาดที่มีสภาพคล่องสูง:** ตลาด Forex ที่มีสภาพคล่องสูงช่วยให้ Scalpers สามารถเข้าและออกจากสถานะได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคามากนัก

1. 1. เครื่องมือและเทคนิคที่จำเป็นสำหรับ Scalping

1. 1. 1. 1. แพลตฟอร์มการเทรด

การเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Scalpers แพลตฟอร์มควรมีคุณสมบัติดังนี้:

• **ความเร็วในการดำเนินการ:** แพลตฟอร์มควรมีระบบการส่งคำสั่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้
• **สเปรดที่แคบ:** สเปรดที่แคบจะช่วยลดต้นทุนในการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
• **เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค:** แพลตฟอร์มควรมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลาย เช่น Indicator ต่างๆ เช่น Moving Averages, RSI, MACD, และ Bollinger Bands
• **การเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์:** ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ช่วยให้ Scalpers สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

1. 1. 1. 2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค

Scalpers พึ่งพาการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลักในการตัดสินใจเทรด เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่:

• **การอ่านกราฟราคา:** การวิเคราะห์รูปแบบราคา (Price Patterns) เช่น Double Top, Double Bottom, Head and Shoulders, และ Triangles
• **Indicator:** การใช้ Indicator ต่างๆ เพื่อระบุแนวโน้ม (Trends), ระดับแนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance Levels), และสัญญาณการซื้อขาย
• **การวิเคราะห์ Volume:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัว
• **Fibonacci Retracement:** การใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
• **Pivot Points:** การใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ

1. 1. 1. 3. การจัดการความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Scalpers เนื่องจาก Scalpers เปิดและปิดสถานะบ่อยครั้ง ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจึงสูงขึ้น หากไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

• **Stop-Loss Order:** การตั้ง Stop-Loss Order เพื่อจำกัดความเสี่ยงในแต่ละสถานะ
• **Take-Profit Order:** การตั้ง Take-Profit Order เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
• **ขนาด Position:** การกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• **Risk/Reward Ratio:** การรักษาสัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
• **การกระจายความเสี่ยง:** การเทรดหลายคู่สกุลเงินเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม

1. 1. กลยุทธ์ Scalping ที่ได้รับความนิยม

1. 1. 1. 1. Moving Average Crossover

กลยุทธ์นี้ใช้ Moving Averages สองเส้นที่มีระยะเวลาแตกต่างกัน (เช่น เส้น 5-period และเส้น 20-period) เมื่อเส้น 5-period ตัดขึ้นเหนือเส้น 20-period จะถือเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อเส้น 5-period ตัดลงต่ำกว่าเส้น 20-period จะถือเป็นสัญญาณขาย Moving Average เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในการระบุแนวโน้ม

1. 1. 1. 2. RSI Divergence

กลยุทธ์นี้ใช้ Relative Strength Index (RSI) เพื่อระบุสัญญาณ Divergence เมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ จะถือเป็นสัญญาณขาย และเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ จะถือเป็นสัญญาณซื้อ RSI ช่วยระบุภาวะ Overbought และ Oversold ของตลาด

1. 1. 1. 3. Bollinger Bands Squeeze

กลยุทธ์นี้ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงเวลาที่ความผันผวนของราคาต่ำ เมื่อ Bollinger Bands แคบลง (Squeeze) จะบ่งบอกว่าความผันผวนของราคาอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต Scalpers จะรอการ Breakout จาก Bollinger Bands เพื่อเข้าเทรด Bollinger Bands เป็นเครื่องมือวัดความผันผวนของราคา

1. 1. 1. 4. London Breakout

กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาด London ซึ่งมักจะมีความผันผวนสูง Scalpers จะรอการ Breakout ของราคาจากช่วง Consolidation ในช่วงเช้าตรู่ และเข้าเทรดตามทิศทางของการ Breakout

1. 1. 1. 5. News Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ Scalpers จะติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเข้าเทรดทันทีที่ข่าวถูกประกาศ โดยคาดการณ์ว่าข่าวจะส่งผลกระทบต่อราคาของสกุลเงิน

1. 1. 1. 6. Support and Resistance Bounce

กลยุทธ์นี้ใช้การระบุแนวรับและแนวต้านเพื่อเข้าเทรด เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวรับ Scalpers จะมองหาโอกาสในการซื้อ และเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวต้าน Scalpers จะมองหาโอกาสในการขาย

1. 1. 1. 7. Ichimoku Cloud Breakout

กลยุทธ์นี้ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน เมื่อราคา Breakout เหนือ Ichimoku Cloud จะถือเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อราคา Breakout ใต้ Ichimoku Cloud จะถือเป็นสัญญาณขาย

1. 1. 1. 8. Pivot Point Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ Scalpers จะเข้าเทรดเมื่อราคา Breakout เหนือหรือใต้ Pivot Points

1. 1. 1. 9. MACD Histogram Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้ MACD Histogram เพื่อระบุสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม เมื่อ MACD Histogram เปลี่ยนทิศทาง จะถือเป็นสัญญาณซื้อหรือขาย MACD เป็นเครื่องมือวัดโมเมนตัมของราคา

1. 1. 1. 10. Volume Spread Analysis (VSA) Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ร่วมกับ Spread ของแท่งเทียนเพื่อระบุสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน Volume Spread Analysis ช่วยให้เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

1. 1. 1. 11. Three Inside Bar Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Bar เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม Scalpers จะรอการ Breakout จากรูปแบบ Three Inside Bar เพื่อเข้าเทรด

1. 1. 1. 12. Harmonic Pattern Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้ Harmonic Patterns เช่น Gartley, Butterfly, และ Crab เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Scalpers จะเข้าเทรดเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่ระบุโดย Harmonic Patterns

1. 1. 1. 13. Renko Chart Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้ Renko Charts ซึ่งเป็นกราฟที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาโดยไม่คำนึงถึงเวลา ทำให้ง่ายต่อการระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย Renko Chart ช่วยลดสัญญาณรบกวนและทำให้การวิเคราะห์ง่ายขึ้น

1. 1. 1. 14. Heikin Ashi Scalping

กลยุทธ์นี้ใช้ Heikin Ashi Charts ซึ่งเป็นกราฟที่คำนวณราคาโดยใช้ค่าเฉลี่ยของราคา ทำให้สัญญาณการซื้อขายชัดเจนยิ่งขึ้น Heikin Ashi ช่วยระบุแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัวได้ง่ายขึ้น

1. 1. 1. 15. Binary Options Scalping (Using Forex Signals)

แม้ว่าบทความนี้เน้นที่ Forex แต่ Scalpers สามารถใช้สัญญาณจาก Forex เพื่อเทรด Binary Options ได้ โดยการวิเคราะห์สัญญาณจาก Forex แล้วใช้สัญญาณเหล่านั้นในการตัดสินใจเทรด Binary Options

1. 1. ข้อควรระวังในการ Scalping

• **ความเครียด:** Scalping เป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้สมาธิและความเร็วสูง อาจทำให้เกิดความเครียดได้
• **ค่าคอมมิชชั่น:** ค่าคอมมิชชั่นอาจมีผลกระทบต่อกำไรของ Scalpers เนื่องจาก Scalpers เปิดและปิดสถานะบ่อยครั้ง
• **Slippage:** Slippage อาจเกิดขึ้นเมื่อราคาที่ได้จริงแตกต่างจากราคาที่คาดหวัง
• **ความผันผวนที่ไม่คาดคิด:** ความผันผวนของราคาที่ไม่คาดคิดอาจทำให้ Scalpers สูญเสียเงินได้

1. 1. สรุป

Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ที่ท้าทายแต่ก็สามารถทำกำไรได้หากทำอย่างถูกต้อง การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค การจัดการความเสี่ยง และการมีวินัยในการเทรดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ Scalpers ควรฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ ก่อนที่จะนำไปใช้ในการเทรดจริง

การเทรด Forex การวิเคราะห์ทางเทคนิค การจัดการความเสี่ยง Bollinger Bands MACD RSI Ichimoku Cloud Volume Spread Analysis Heikin Ashi Renko Chart Binary Options Moving Average Support and Resistance Fibonacci Retracement Pivot Points News Trading Trading Psychology Forex Broker Market Liquidity Forex Risk Management

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น