Pivot Point Scalping

1. 1. Pivot Point Scalping

• • Pivot Point Scalping** คือกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ใช้ Pivot Point เป็นเครื่องมือหลักในการระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ และใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาในระยะสั้นๆ หรือที่เรียกว่า “Scalping” กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาขนาดเล็ก และต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็ว

1. 1. 1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Pivot Point

Pivot Point คือจุดสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคต โดยคำนวณจากราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน) จุด Pivot Point และระดับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะทำหน้าที่เป็นแนวรับแนวต้านที่สำคัญสำหรับราคา

• • การคำนวณ Pivot Point:**

• **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
• **Resistance Level 1 (R1):** (2 x PP) - Low
• **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High - Low)
• **Support Level 1 (S1):** (2 x PP) - High
• **Support Level 2 (S2):** PP - (High - Low)

การใช้ Pivot Point ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุระดับราคาที่น่าจะเกิดการกลับตัวหรือการพักตัวของราคาได้

1. 1. 1. หลักการของ Pivot Point Scalping

Pivot Point Scalping อาศัยหลักการที่ว่า เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Pivot Point หรือระดับ Support/Resistance ที่สำคัญ จะมีแนวโน้มที่จะเกิดการเด้งตัวหรือการปรับตัวในทิศทางตรงกันข้าม เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้จะเปิด Position ในทิศทางที่คาดว่าจะเกิดการเด้งตัว โดยมีเป้าหมายทำกำไรเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ

• • ขั้นตอนการซื้อขาย Pivot Point Scalping:**

1. **ระบุ Pivot Point:** คำนวณ Pivot Point และระดับ Support/Resistance ที่สำคัญสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการ (เช่น วันปัจจุบัน) 2. **รอการเข้าใกล้ระดับ:** รอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ Pivot Point, Support หรือ Resistance ที่สำคัญ 3. **สังเกตสัญญาณการกลับตัว:** สังเกตสัญญาณการกลับตัวของราคา เช่น Candlestick Pattern ที่บ่งบอกถึงการกลับตัว หรือการเกิด Divergence กับ Indicator 4. **เปิด Position:** เมื่อได้รับสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน ให้เปิด Position ในทิศทางที่คาดว่าจะเกิดการเด้งตัว 5. **ตั้ง Stop Loss และ Take Profit:** ตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง และตั้ง Take Profit เพื่อล็อคกำไรตามเป้าหมายที่กำหนด 6. **บริหารจัดการ Position:** ติดตามราคาอย่างใกล้ชิด และปรับ Stop Loss ตามความเหมาะสม

1. 1. 1. การเลือกกรอบเวลา (Timeframe) ที่เหมาะสม

การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์ Pivot Point Scalping โดยทั่วไปแล้ว กรอบเวลาที่สั้นกว่า เช่น 5 นาที, 15 นาที หรือ 30 นาที จะเหมาะสำหรับการ Scalping มากกว่ากรอบเวลาที่ยาวกว่า เนื่องจากจะมีความผันผวนของราคาที่สูงกว่า

• **5 นาที:** เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรอย่างรวดเร็ว และสามารถเฝ้าหน้าจอได้ตลอดเวลา
• **15 นาที:** เป็นกรอบเวลาที่สมดุลระหว่างความผันผวนของราคาและความถี่ในการซื้อขาย
• **30 นาที:** เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการลดความถี่ในการซื้อขาย และต้องการสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้น

1. 1. 1. การใช้ Indicator เสริม

การใช้ Indicator เสริมสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขาย Pivot Point Scalping ได้ ตัวอย่าง Indicator ที่นิยมใช้ร่วมกับกลยุทธ์นี้ ได้แก่:

• **Moving Average (MA):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคา และเป็นระดับ Support/Resistance ที่สำคัญ
• **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และระบุภาวะ Overbought/Oversold
• **Stochastic Oscillator:** ใช้เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา
• **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา และระบุระดับ Overbought/Oversold
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและโมเมนตัมของราคา

1. 1. 1. ตัวอย่างการซื้อขาย Pivot Point Scalping

สมมติว่าเรากำลังวิเคราะห์กราฟราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD ในกรอบเวลา 15 นาที และพบว่า:

• Pivot Point (PP): 1.1000
• Support Level 1 (S1): 1.0980
• Resistance Level 1 (R1): 1.1020

ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.1010 และกำลังเข้าใกล้ระดับ Resistance 1 (R1) เราสังเกตเห็นว่าเกิด Bearish Engulfing Pattern บริเวณใกล้เคียงกับ R1 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคา

จากสถานการณ์นี้ เราสามารถเปิด Position **Put** (คาดว่าราคาจะลดลง) โดยมี:

• **Entry Point:** 1.1010
• **Stop Loss:** 1.1030 (เหนือ R1 เล็กน้อย)
• **Take Profit:** 1.0990 (ใกล้กับ Pivot Point)

หากราคาลดลงตามที่คาดการณ์ เราจะทำกำไรได้ 20 pips แต่หากราคาสูงขึ้นเกิน Stop Loss เราจะขาดทุน 20 pips

1. 1. 1. ความเสี่ยงและการบริหารจัดการความเสี่ยง

Pivot Point Scalping เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นการซื้อขายในระยะสั้นๆ และต้องใช้การตัดสินใจที่รวดเร็ว ความผันผวนของราคาที่สูงอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว

• • ข้อควรระวังและวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยง:**

• **ใช้ Stop Loss เสมอ:** Stop Loss เป็นเครื่องมือสำคัญในการจำกัดความเสี่ยง
• **บริหารจัดการขนาด Position:** ไม่ควรลงทุนเกิน 2-5% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละ Position
• **หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงข่าวสำคัญ:** การประกาศข่าวสำคัญอาจทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรง
• **มีวินัยในการซื้อขาย:** ปฏิบัติตามแผนการซื้อขายอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามอารมณ์
• **ฝึกฝนด้วยบัญชี Demo:** ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายด้วยเงินจริง ควรฝึกฝนด้วยบัญชี Demo เพื่อทำความเข้าใจกลยุทธ์และทดสอบความสามารถในการซื้อขาย

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• Support and Resistance – การเข้าใจแนวรับแนวต้านเป็นพื้นฐานสำคัญ
• Trend Following – การซื้อขายตามแนวโน้ม
• Breakout Trading – การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับแนวต้าน
• Moving Average Crossover – การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย
• Fibonacci Retracement – การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อคาดการณ์แนวรับแนวต้าน
• Bollinger Band Squeeze – การซื้อขายเมื่อความผันผวนลดลง
• Ichimoku Cloud – การใช้ระบบ Ichimoku เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม
• Harmonic Patterns – การใช้รูปแบบ Harmonic เพื่อคาดการณ์การกลับตัวของราคา
• Price Action – การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ใช้ Indicator
• Candlestick Patterns – การใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย
• Options Strategies – การใช้กลยุทธ์ออปชั่นต่างๆ เพื่อบริหารความเสี่ยง
• Binary Options Basics – ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่น
• Risk Management – การบริหารจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย
• Technical Analysis – การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคา
• Fundamental Analysis – การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อราคา

1. 1. 1. สรุป

Pivot Point Scalping เป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้หากใช้ได้อย่างถูกต้อง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจหลักการของ Pivot Point, การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสม, การใช้ Indicator เสริม, และการบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการซื้อขายด้วยกลยุทธ์นี้ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการมีวินัยในการซื้อขายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน

ตัวอย่างการตั้งค่า Pivot Point Scalping

Timeframe	Indicator	Entry Signal	Stop Loss	Take Profit
5 นาที	Pivot Point, RSI	ราคาเข้าใกล้ S1/R1 และ RSI Oversold/Overbought	เหนือ R1/ใต้ S1	ใกล้ PP
15 นาที	Pivot Point, MACD	ราคาเข้าใกล้ S1/R1 และ MACD Crossover	เหนือ R1/ใต้ S1	ใกล้ PP
30 นาที	Pivot Point, Moving Average	ราคาเข้าใกล้ S1/R1 และ MA เป็น Support/Resistance	เหนือ R1/ใต้ S1	ใกล้ PP

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น