World Health Organization (WHO)

1. 1. องค์การอนามัยโลก (WHO) : ความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มต้น

องค์การอนามัยโลก (WHO) หรือ World Health Organization เป็นหน่วยงานเฉพาะของสหประชาชาติ (UN) ที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1948) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ WHO ในลักษณะที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษา รวมถึงความเชื่อมโยงกับบริบทที่กว้างขึ้น เช่น การลงทุนและการคาดการณ์แนวโน้ม

1. 1. 1. ประวัติความเป็นมาและการก่อตั้ง

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีความตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในระดับนานาชาติเพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดต่างๆ ความพยายามในการจัดตั้งองค์การอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Organization) เริ่มขึ้นก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่สอง แต่มาสำเร็จลุล่วงหลังสงครามเมื่อมีการลงนามในธรรมนูญของ WHO โดยประเทศสมาชิก 61 ประเทศใน ค.ศ. 1948 ธรรมนูญนี้กำหนดเป้าหมายหลักของ WHO ว่าคือ “เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” (the attainment by all peoples of the highest possible level of health) ซึ่งเป็นแนวคิดที่กว้างขวางครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม

1. 1. 1. โครงสร้างองค์กรและบทบาทหน้าที่

โครงสร้างของ WHO ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักหลายส่วน ได้แก่

• **ที่ประชุมผู้แทน (World Health Assembly):** เป็นหน่วยงานสูงสุดของ WHO ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกทั้งหมด ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและงบประมาณขององค์กร
• **คณะกรรมการบริหาร (Executive Board):** ทำหน้าที่ดำเนินการตามนโยบายที่ที่ประชุมผู้แทนกำหนด และเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เตรียมการสำหรับการประชุมต่างๆ
• **สำนักงานเลขาธิการ (Secretariat):** นำโดยผู้อำนวยการใหญ่ (Director-General) ทำหน้าที่บริหารจัดการงานประจำวันของ WHO และดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดไว้
• **สำนักงานภูมิภาค (Regional Offices):** WHO แบ่งโลกออกเป็น 6 ภูมิภาค และมีสำนักงานภูมิภาคในแต่ละภูมิภาค ทำหน้าที่ประสานงานและให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาคนั้นๆ ได้แก่ สำนักงานภูมิภาคแอฟริกา สำนักงานภูมิภาคอเมริกา สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานภูมิภาคยุโรป สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และสำนักงานภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก

บทบาทหน้าที่หลักของ WHO ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่

• **การเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาด:** WHO มีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวังและตอบสนองต่อการระบาดของโรคต่างๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรคโปลิโอ โรคมาลาเรีย และล่าสุดคือ โรคโควิด-19 ([1](https://www.who.int/emergencies))
• **การส่งเสริมสุขภาพ:** WHO สนับสนุนประเทศสมาชิกในการพัฒนาและดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพ เช่น การส่งเสริมการได้รับวัคซีน การส่งเสริมโภชนาการที่ดี และการลดการสูบบุหรี่
• **การพัฒนาระบบสาธารณสุข:** WHO ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกในการพัฒนาระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่งและยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
• **การกำหนดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติ:** WHO กำหนดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข เช่น มาตรฐานยา มาตรฐานอาหาร และมาตรฐานน้ำดื่ม
• **การวิจัยและพัฒนา:** WHO สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านสาธารณสุข เพื่อค้นหาวิธีการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1. 1. 1. แหล่งเงินทุนของ WHO

WHO ได้รับเงินทุนจากหลายแหล่ง ได้แก่

• **เงินสมทบจากประเทศสมาชิก:** ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศจะสมทบเงินทุนให้กับ WHO ตามขนาดเศรษฐกิจและความสามารถในการจ่าย
• **เงินบริจาคจากองค์กรต่างๆ:** WHO ได้รับเงินบริจาคจากองค์กรต่างๆ เช่น มูลนิธิบิลล์และเมลินดาเกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) และธนาคารโลก (World Bank)
• **เงินทุนจากโครงการเฉพาะ:** WHO ได้รับเงินทุนจากโครงการเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข เช่น โครงการกำจัดโรคมาลาเรีย และโครงการป้องกันโรคเอดส์

1. 1. 1. ความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินและการลงทุน (Binary Options)

แม้ว่า WHO จะเป็นองค์กรด้านสาธารณสุข แต่กิจกรรมและข้อมูลที่ WHO เผยแพร่สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและการลงทุนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของ **Binary Options** ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่อาศัยการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์ (เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์) ภายในระยะเวลาที่กำหนด

• **การระบาดของโรคและตลาดหุ้น:** การระบาดของโรคต่างๆ เช่น โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ([2](https://www.investopedia.com/terms/b/binary-options.asp)) หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข เช่น บริษัทผลิตยาและบริษัทผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ มักจะได้รับความสนใจและมีแนวโน้มราคาเป็นขาขึ้น ในขณะที่หุ้นของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ เช่น บริษัทสายการบินและบริษัทโรงแรม มีแนวโน้มราคาเป็นขาลง ข้อมูลจาก WHO เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค ความรุนแรงของโรค และประสิทธิภาพของวัคซีน สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นและตัดสินใจลงทุนใน Binary Options ได้
• **นโยบายสาธารณสุขและตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex):** นโยบายสาธารณสุขที่ WHO สนับสนุนหรือแนะนำสามารถส่งผลกระทบต่อค่าเงินของประเทศต่างๆ ตัวอย่างเช่น หาก WHO แนะนำให้ประเทศหนึ่งใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและค่าเงินของประเทศนั้นๆ นักเทรด Binary Options สามารถใช้ข้อมูลจาก WHO เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินและตัดสินใจลงทุนในตลาด Forex ได้
• **การวิจัยและพัฒนาและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์:** การวิจัยและพัฒนาด้านสาธารณสุขที่ WHO สนับสนุนสามารถส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์บางชนิด เช่น ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ นักเทรด Binary Options สามารถใช้ข้อมูลจาก WHO เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และตัดสินใจลงทุนได้
• **การใช้ Indicator ทางเทคนิค:** การวิเคราะห์ข้อมูลจาก WHO ร่วมกับ **Indicator ทางเทคนิค** เช่น Moving Averages, RSI (Relative Strength Index), MACD (Moving Average Convergence Divergence) สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์แนวโน้มราคาของสินทรัพย์ต่างๆ ในตลาด Binary Options ตัวอย่างเช่น หาก WHO ประกาศการระบาดของโรคใหม่ นักเทรดสามารถใช้ RSI เพื่อประเมินว่าสินทรัพย์นั้นๆ ถูกซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือถูกขายมากเกินไป (Oversold) หรือไม่
• **การวิเคราะห์ Volume การซื้อขาย:** การติดตาม **Volume การซื้อขาย** ควบคู่ไปกับข้อมูลจาก WHO สามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา ตัวอย่างเช่น หากมีการประกาศข่าวร้ายเกี่ยวกับโรคระบาดและ Volume การซื้อขายสูงขึ้น แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่งและแนวโน้มราคาอาจเป็นขาลง
• **กลยุทธ์การเทรด:** นักเทรด Binary Options สามารถใช้ **กลยุทธ์การเทรด** ต่างๆ เช่น **Trend Following**, **Range Trading**, **Breakout Trading** ร่วมกับข้อมูลจาก WHO เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ตัวอย่างเช่น หาก WHO ประกาศว่ามีการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ Trend Following เพื่อลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ผลิตวัคซีนนั้น
• **การจัดการความเสี่ยง:** การลงทุนใน Binary Options มีความเสี่ยงสูง นักเทรดควรใช้ **การจัดการความเสี่ยง** ที่เหมาะสม เช่น การกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม การใช้ Stop-Loss และการกระจายความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุน

1. 1. 1. ความท้าทายและวิพากษ์วิจารณ์

WHO เผชิญกับความท้าทายและวิพากษ์วิจารณ์หลายประการ ได้แก่

• **การขาดแคลนเงินทุน:** WHO มักประสบปัญหาการขาดแคลนเงินทุน ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• **การเมืองและการแทรกแซง:** WHO อาจถูกแทรกแซงทางการเมืองจากประเทศสมาชิกหรือองค์กรต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือขององค์กร
• **ความล่าช้าในการตอบสนอง:** ในบางกรณี WHO ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขได้ล่าช้า
• **ความโปร่งใส:** บางครั้ง WHO ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความโปร่งใสในการดำเนินงานและการตัดสินใจ

1. 1. 1. บทสรุป

องค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรโลก แม้ว่า WHO จะเผชิญกับความท้าทายและวิพากษ์วิจารณ์หลายประการ แต่ก็ยังคงเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขระดับโลก ข้อมูลและกิจกรรมของ WHO สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของ Binary Options นักเทรดที่เข้าใจความเชื่อมโยงเหล่านี้สามารถใช้ข้อมูลจาก WHO เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ควรระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงและควรมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

การลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) สินค้าโภคภัณฑ์ การวิเคราะห์ทางเทคนิค Indicator ทางเทคนิค RSI (Relative Strength Index) MACD (Moving Average Convergence Divergence) Volume การซื้อขาย กลยุทธ์การเทรด Trend Following Range Trading Breakout Trading การจัดการความเสี่ยง Stop-Loss Binary Options Strategies Technical Analysis Trading Volume Analysis Risk Management Market Trends WHO Emergency Response Global Health Security Pandemic Preparedness Vaccine Development Public Health Policy

• • เหตุผล:**

• **ตรงประเด็น:** ชื่อบทความคือ "World Health Organization (WHO)" และหมวดหมู่ "องค์กรอนามัยโลก" หรือ "WHO" เป็นหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงและเหมาะสมที่สุด

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น