Touch/No Touch Options Strategy

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Touch/No Touch Options Strategy

Touch/No Touch Options เป็นประเภทของ Binary Options ที่มีความน่าสนใจและมีความเสี่ยงที่แตกต่างจากประเภทอื่นๆ เช่น High/Low หรือ Call/Put กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *ไม่* ทะลุระดับราคาที่กำหนด (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือ *จะ* ทะลุระดับราคาที่กำหนด (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Touch/No Touch Options รวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, การวิเคราะห์ความเสี่ยง, และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดจริง

      1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Touch/No Touch Options

Touch/No Touch Options มีสองประเภทหลัก:

  • **Touch Option (สัมผัส):** เทรดเดอร์จะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *สัมผัส* หรือ *ทะลุ* ระดับราคา Barrier ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาไม่สัมผัส Barrier ก่อนหมดเวลา เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุน
  • **No Touch Option (ไม่สัมผัส):** เทรดเดอร์จะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่* สัมผัส หรือ *ไม่* ทะลุ ระดับราคา Barrier ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาสัมผัส Barrier ก่อนหมดเวลา เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุน

ระดับราคา Barrier เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดความเสี่ยงและผลตอบแทนของออปชั่นประเภทนี้ การเลือกระดับ Barrier ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของกลยุทธ์

      1. กลไกการทำงานของ Touch/No Touch Options

กลไกการทำงานของ Touch/No Touch Options ค่อนข้างเรียบง่าย เมื่อเปิดออปชั่น เทรดเดอร์จะกำหนด:

1. **สินทรัพย์อ้างอิง:** เช่น EUR/USD, Gold, Apple Stock 2. **ระดับราคา Barrier:** ระดับราคาที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต้องสัมผัส (Touch) หรือไม่สัมผัส (No Touch) 3. **ระยะเวลาหมดอายุ:** ช่วงเวลาที่ออปชั่นมีผลบังคับใช้ 4. **จำนวนเงินลงทุน:** จำนวนเงินที่เทรดเดอร์ต้องการลงทุนในออปชั่น

เมื่อออปชั่นหมดอายุ ระบบจะตรวจสอบว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงได้สัมผัส Barrier หรือไม่ หากเป็น Touch Option และราคาได้สัมผัส Barrier เทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากไม่สัมผัส เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุน ในทางกลับกัน หากเป็น No Touch Option และราคาไม่ได้สัมผัส Barrier เทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทน แต่หากสัมผัส เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุน

      1. กลยุทธ์การเทรด Touch/No Touch Options

มีกลยุทธ์การเทรด Touch/No Touch Options ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ตามสภาวะตลาดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้:

1. **Range Trading with No Touch:** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับสภาวะตลาดที่ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบๆ (Sideways Market) เทรดเดอร์จะเลือก No Touch Option โดยกำหนด Barrier ที่อยู่นอกช่วงการเคลื่อนที่ของราคา หากราคายังคงอยู่ในกรอบ เทรดเดอร์จะทำกำไร 2. **Breakout Trading with Touch:** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับสภาวะตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending Market) เทรดเดอร์จะเลือก Touch Option โดยกำหนด Barrier ที่ระดับแนวต้าน (Resistance) หรือแนวรับ (Support) หากราคา Breakout ผ่าน Barrier เทรดเดอร์จะทำกำไร 3. **Volatility-Based Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาด หากคาดว่าความผันผวนจะสูงขึ้น เทรดเดอร์อาจเลือก Touch Option หากคาดว่าความผันผวนจะลดลง เทรดเดอร์อาจเลือก No Touch Option 4. **Straddle/Strangle Strategy:** กลยุทธ์นี้คล้ายกับการเทรด Straddle/Strangle ในออปชั่นแบบดั้งเดิม โดยเทรดเดอร์จะเปิดทั้ง Touch และ No Touch Option พร้อมกัน โดยมี Barrier ที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน 5. **Hedging Strategy:** Touch/No Touch Options สามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในพอร์ตการลงทุนได้ โดยเทรดเดอร์สามารถใช้ No Touch Option เพื่อปกป้องผลกำไรจากสินทรัพย์อื่นในพอร์ต

      1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับ Touch/No Touch Options

การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกกลยุทธ์และกำหนดระดับ Barrier ที่เหมาะสม เครื่องมือและตัวชี้วัดทางเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ได้แก่:

  • **แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance):** ใช้เพื่อกำหนดระดับ Barrier ในกลยุทธ์ Breakout Trading
  • **เส้นแนวโน้ม (Trend Lines):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของตลาดและกำหนดระดับ Barrier
  • **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของตลาดและกำหนดระดับ Barrier ในกลยุทธ์ Volatility-Based
  • **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของตลาดและกรองสัญญาณรบกวน
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น

การใช้เครื่องมือเหล่านี้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และตัดสินใจ

      1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันสัญญาณจากเครื่องมือทางเทคนิคและประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเมื่อราคา Breakout ผ่าน Barrier อาจบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ในทางกลับกัน การลดลงของปริมาณการซื้อขายอาจบ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้มและเพิ่มความเสี่ยง

      1. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Touch/No Touch Options เนื่องจากออปชั่นประเภทนี้มีความเสี่ยงสูงกว่าออปชั่นประเภทอื่นๆ ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการบริหารความเสี่ยง:

  • **กำหนดขนาดการลงทุน:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ โดยทั่วไปไม่ควรลงทุนเกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละออปชั่น
  • **ใช้ Stop-Loss:** แม้ว่า Touch/No Touch Options จะไม่มี Stop-Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุสั้น
  • **Diversify:** กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง
  • **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **ทำความเข้าใจกับอัตราผลตอบแทน:** ทำความเข้าใจกับอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเปิดออปชั่น
      1. ตัวอย่างการเทรด Touch/No Touch Option

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคา EUR/USD จะไม่สามารถทะลุระดับ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง คุณสามารถเปิด No Touch Option ที่ระดับ Barrier 1.1000 ด้วยเงินลงทุน 100 ดอลลาร์ หากราคา EUR/USD ไม่ทะลุ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับผลตอบแทน 80 ดอลลาร์ (อัตราผลตอบแทน 80%) แต่หากราคาทะลุ 1.1000 คุณจะสูญเสียเงินลงทุน 100 ดอลลาร์

      1. ข้อดีและข้อเสียของ Touch/No Touch Options

| ข้อดี | ข้อเสีย | | :------------------------------------ | :------------------------------------ | | ผลตอบแทนสูง | ความเสี่ยงสูง | | เหมาะสำหรับสภาวะตลาดที่หลากหลาย | ต้องมีการวิเคราะห์ที่แม่นยำ | | สามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงได้ | ระดับ Barrier มีผลต่อผลลัพธ์อย่างมาก | | เข้าใจง่าย | อาจมีความผันผวนสูง |

      1. กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
      1. สรุป

Touch/No Touch Options เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน, การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม, การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย, และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเทรดออปชั่นประเภทนี้ การฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер