Touch/No Touch Option

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Touch/No Touch Option

Touch/No Touch Option เป็นประเภทหนึ่งของ ไบนารี่ออปชั่น ที่มีความซับซ้อนกว่าแบบ High/Low ทั่วไป โดยมีลักษณะเฉพาะที่เน้นการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ “แตะ” หรือ “ไม่แตะ” ระดับราคาที่กำหนดไว้ก่อนหมดอายุของสัญญา บทความนี้จะอธิบาย Touch/No Touch Option อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงกลไกการทำงาน ความเสี่ยง โอกาส และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

กลไกการทำงานของ Touch/No Touch Option

Touch/No Touch Option แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:

  • **Touch Option (แทงขึ้น/ลง):** ผู้เทรดจะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *แตะ* ระดับราคาที่กำหนดไว้ (Barrier Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาไม่แตะ Barrier Price ก่อนหมดอายุ ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
  • **No Touch Option (ไม่แทงขึ้น/ลง):** ผู้เทรดจะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่แตะ* ระดับราคาที่กำหนดไว้ (Barrier Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาแตะ Barrier Price ก่อนหมดอายุ ผู้เทรดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

Barrier Price เป็นจุดสำคัญที่กำหนดผลลัพธ์ของออปชั่นประเภทนี้ โดย Barrier Price มักจะถูกตั้งไว้สูงกว่า (สำหรับ Touch Call Option) หรือต่ำกว่า (สำหรับ Touch Put Option) ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง Touch/No Touch Option กับ High/Low Option

| คุณสมบัติ | High/Low Option | Touch/No Touch Option | |---|---|---| | **เงื่อนไขการทำกำไร** | ราคาต้องสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคา Strike Price ณ เวลาหมดอายุ | ราคาต้องแตะ (Touch) หรือไม่แตะ (No Touch) Barrier Price ภายในระยะเวลาที่กำหนด | | **ความซับซ้อน** | น้อยกว่า | มากกว่า | | **ความผันผวน** | ผลกระทบน้อยกว่า | ผลกระทบสูงกว่า | | **ศักยภาพในการทำกำไร** | โดยทั่วไปต่ำกว่า | โดยทั่วไปสูงกว่า | | **ความเสี่ยง** | โดยทั่วไปต่ำกว่า | โดยทั่วไปสูงกว่า |

Touch/No Touch Option เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ถึงความผันผวนของราคาที่สูง และสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ราคา ณ เวลาหมดอายุอย่างแม่นยำ

ประเภทของ Touch/No Touch Option

นอกเหนือจาก Touch Call/Put และ No Touch Call/Put แล้ว ยังมีรูปแบบอื่นๆ ของ Touch/No Touch Option ที่เทรดเดอร์ควรทราบ:

  • **Double Touch Option:** ราคาต้องแตะ Barrier Price สองครั้งก่อนหมดอายุ
  • **Double No Touch Option:** ราคาต้องไม่แตะ Barrier Price สองครั้งก่อนหมดอายุ
  • **Any Touch Option:** ราคาต้องแตะ Barrier Price อย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนหมดอายุ (คล้ายกับ Touch Option)
  • **No Touch Until Time Option:** ราคามีเวลาที่จำกัดในการไม่แตะ Barrier Price

ปัจจัยที่มีผลต่อราคา Touch/No Touch Option

ราคาของ Touch/No Touch Option ถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายประการ ได้แก่:

  • **เวลาจนถึงวันหมดอายุ:** ยิ่งมีเวลามากเท่าไร โอกาสที่ราคาจะแตะหรือ不แตะ Barrier Price ก็ยิ่งสูงขึ้น
  • **ความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง:** ความผันผวนที่สูงขึ้นจะเพิ่มโอกาสที่ราคาจะแตะ Barrier Price
  • **ระยะห่างระหว่างราคาปัจจุบันและ Barrier Price:** ระยะห่างที่น้อยลงจะเพิ่มโอกาสที่ราคาจะแตะ Barrier Price
  • **อัตราดอกเบี้ย:** อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อต้นทุนการถือครองสินทรัพย์อ้างอิง และอาจส่งผลต่อราคาของออปชั่น
  • **อุปสงค์และอุปทาน:** ความต้องการซื้อขายออปชั่นประเภทนี้ก็มีผลต่อราคาเช่นกัน

กลยุทธ์การเทรด Touch/No Touch Option

การเทรด Touch/No Touch Option จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้:

  • **Trend Following:** หากสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในช่วงขาขึ้น (Uptrend) ที่แข็งแกร่ง อาจพิจารณาซื้อ Touch Call Option ในขณะที่หากอยู่ในช่วงขาลง (Downtrend) ที่แข็งแกร่ง อาจพิจารณาซื้อ Touch Put Option การวิเคราะห์แนวโน้ม
  • **Breakout Trading:** หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงกำลังเข้าใกล้ระดับแนวต้านหรือแนวรับ อาจพิจารณาซื้อ Touch Option ในทิศทางของการ Breakout แนวรับแนวต้าน
  • **Volatility Trading:** ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง อาจพิจารณาซื้อ Touch Option เนื่องจากมีโอกาสสูงที่ราคาจะแตะ Barrier Price การวัดความผันผวน
  • **Range Trading:** หากสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่อยู่ในช่วงราคาที่จำกัด อาจพิจารณาซื้อ No Touch Option การเทรดในกรอบราคา
  • **Hedging:** Touch/No Touch Option สามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในพอร์ตการลงทุนได้ เช่น หากมีหุ้นอยู่ในพอร์ต อาจซื้อ No Touch Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่ลดลง การป้องกันความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Touch/No Touch Option

การเทรด Touch/No Touch Option มีความเสี่ยงสูงกว่าการเทรดไบนารี่ออปชั่นแบบ High/Low ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง:

  • **กำหนดขนาดการลงทุน:** ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
  • **ใช้ Stop Loss:** แม้ว่า Touch/No Touch Option จะไม่มี Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุสั้น
  • **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในออปชั่นประเภทเดียวหรือสินทรัพย์อ้างอิงเพียงอย่างเดียว
  • **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **ทำความเข้าใจกับความเสี่ยง:** ก่อนที่จะลงทุนใน Touch/No Touch Option คุณควรทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ ความเสี่ยงในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

เครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้ในการเทรด Touch/No Touch Option

เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Touch/No Touch Option เทรดเดอร์สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ได้แก่:

  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้ Indicator เช่น Moving Averages, RSI, MACD, Fibonacci Retracements เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและรูปแบบราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** พิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่อาจมีผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ข่าวเศรษฐกิจ, รายงานผลประกอบการของบริษัท, และเหตุการณ์ทางการเมือง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
  • **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัว การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
  • **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนและระบุระดับราคาที่อาจมีการแตะ Bollinger Bands
  • **Pivot Points:** ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ Pivot Points

ตัวอย่างการเทรด Touch/No Touch Option

สมมติว่าราคาปัจจุบันของทองคำอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ และคุณคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะมีความผันผวนสูงในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า คุณอาจพิจารณาซื้อ No Touch Call Option ที่ Barrier Price 1,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากราคาทองคำไม่แตะ 1,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา แต่หากราคาทองคำแตะ 1,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ คุณจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

สรุป

Touch/No Touch Option เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน, กลยุทธ์, และการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเทรดออปชั่นประเภทนี้ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่เหมาะสมและการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้

Binary Option Call Option Put Option Risk Management Technical Analysis Fundamental Analysis Trading Strategy Volatility Barrier Option Exotic Options Options Trading Trading Psychology Money Management Market Analysis Trend Analysis Candlestick Patterns Support and Resistance Bollinger Bands MACD RSI

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер