Risk/Reward ratio

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Risk/Reward Ratio ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

บทนำ

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงได้เช่นกัน หนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดที่นักเทรดทุกคนต้องเข้าใจคือ **อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio)** อัตราส่วนนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินว่าการเทรดใดๆ คุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรือไม่ บทความนี้จะอธิบายแนวคิดนี้อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการคำนวณ การนำไปใช้ และปัจจัยที่ควรพิจารณา

ความหมายของ Risk/Reward Ratio

Risk/Reward Ratio คือ การเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณเสี่ยงต่อจำนวนเงินที่คุณคาดว่าจะได้รับจากการเทรด หากคุณคาดว่าจะได้รับผลตอบแทน 2 เท่าของจำนวนเงินที่คุณเสี่ยง นั่นหมายความว่า Risk/Reward Ratio ของคุณคือ 1:2 โดยทั่วไปจะแสดงในรูปแบบนี้:

  • **Risk : Reward**

ตัวอย่างเช่น:

  • **1:1** หมายความว่าคุณเสี่ยงเงิน 1 หน่วยเพื่อหวังผลตอบแทน 1 หน่วย
  • **1:2** หมายความว่าคุณเสี่ยงเงิน 1 หน่วยเพื่อหวังผลตอบแทน 2 หน่วย
  • **1:3** หมายความว่าคุณเสี่ยงเงิน 1 หน่วยเพื่อหวังผลตอบแทน 3 หน่วย
  • **2:1** หมายความว่าคุณเสี่ยงเงิน 2 หน่วยเพื่อหวังผลตอบแทน 1 หน่วย (ซึ่งโดยทั่วไปไม่แนะนำ)

วิธีการคำนวณ Risk/Reward Ratio

การคำนวณ Risk/Reward Ratio นั้นค่อนข้างง่าย:

Risk/Reward Ratio = (จำนวนเงินที่เสี่ยง) / (จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับ)

ตัวอย่าง:

สมมติว่าคุณต้องการเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วยเงินลงทุน 100 บาท และคาดว่าจะได้รับผลตอบแทน 200 บาท

  • จำนวนเงินที่เสี่ยง = 100 บาท
  • จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับ = 200 บาท

ดังนั้น:

Risk/Reward Ratio = 100 / 200 = 0.5 หรือ 1:2

ความสำคัญของ Risk/Reward Ratio ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การเข้าใจและใช้ Risk/Reward Ratio อย่างถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วยเหตุผลหลายประการ:

  • **การจัดการเงินทุน (Money Management):** ช่วยให้คุณกำหนดขนาดการเทรดที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่เสี่ยงเงินทุนมากเกินไปในการเทรดแต่ละครั้ง การจัดการเงินทุนเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการเทรด การจัดการความเสี่ยง
  • **การตัดสินใจเทรด:** ช่วยให้คุณตัดสินใจว่าการเทรดใดๆ คุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรือไม่ หาก Risk/Reward Ratio ไม่ดีพอ (เช่น น้อยกว่า 1:1) อาจไม่คุ้มค่าที่จะเทรด
  • **การประเมินกลยุทธ์:** ช่วยให้คุณประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์การเทรดของคุณ หากกลยุทธ์ของคุณมี Risk/Reward Ratio ที่ดีอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่ากลยุทธ์นั้นมีประสิทธิภาพ
  • **การควบคุมอารมณ์:** ช่วยให้คุณเทรดอย่างมีเหตุผลและไม่ตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ การมี Risk/Reward Ratio ที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณยึดมั่นในแผนการเทรดของคุณ

Risk/Reward Ratio ที่เหมาะสม

ไม่มี Risk/Reward Ratio ที่ "เหมาะสม" อย่างตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับ:

  • **กลยุทธ์การเทรดของคุณ:** กลยุทธ์การเทรดบางประเภทอาจต้องการ Risk/Reward Ratio ที่สูงกว่ากลยุทธ์อื่นๆ ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์ Scalping อาจใช้ Risk/Reward Ratio ที่ต่ำกว่า กลยุทธ์ Trend Following
  • **ความเสี่ยงที่คุณรับได้:** หากคุณเป็นนักเทรดที่รับความเสี่ยงได้สูง คุณอาจยินดีที่จะเทรดด้วย Risk/Reward Ratio ที่ต่ำกว่า
  • **ความน่าจะเป็นในการชนะ:** หากคุณเชื่อว่าการเทรดของคุณมีโอกาสชนะสูง คุณอาจยินดีที่จะเทรดด้วย Risk/Reward Ratio ที่ต่ำกว่า

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดส่วนใหญ่จะมองหา Risk/Reward Ratio ที่อย่างน้อย 1:1 หรือสูงกว่า 1:2

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อประเมิน Risk/Reward Ratio

นอกเหนือจากอัตราส่วนตัวเลขแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่คุณควรพิจารณาเมื่อประเมิน Risk/Reward Ratio:

  • **ความน่าเชื่อถือของสัญญาณ:** สัญญาณการเทรดที่คุณใช้มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน หากสัญญาณมีความน่าเชื่อถือสูง คุณอาจยินดีที่จะเทรดด้วย Risk/Reward Ratio ที่ต่ำกว่า
  • **สภาพตลาด:** สภาพตลาดมีผลต่อความน่าจะเป็นในการชนะของคุณ หากตลาดมีความผันผวนสูง คุณอาจต้องการ Risk/Reward Ratio ที่สูงกว่า
  • **ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น:** อย่าลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นเมื่อคำนวณผลตอบแทนของคุณ
  • **เวลาหมดอายุของออปชั่น:** เวลาหมดอายุของออปชั่นมีผลต่อความเสี่ยงของคุณ ออปชั่นที่มีเวลาหมดอายุสั้นกว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า

ตัวอย่างการนำ Risk/Reward Ratio ไปใช้ในการเทรด

สมมติว่าคุณกำลังวิเคราะห์กราฟราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิค และพบสัญญาณการซื้อ (Buy Signal) สำหรับคู่เงิน EUR/USD

  • คุณคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น
  • คุณตัดสินใจที่จะซื้อ Call Option
  • คุณลงทุน 50 บาท
  • ราคาปัจจุบันของ Call Option คือ 0.80 (หมายความว่าคุณจะได้รับ 0.80 บาทสำหรับทุกๆ 1 บาทที่คุณลงทุน)
  • คุณตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ 100 บาท
  • คุณตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ 50 บาท

ในการคำนวณ Risk/Reward Ratio:

  • Risk = 50 บาท (จำนวนเงินที่คุณเสี่ยง)
  • Reward = 100 บาท (จำนวนเงินที่คุณคาดว่าจะได้รับ)

Risk/Reward Ratio = 50 / 100 = 0.5 หรือ 1:2

ในกรณีนี้ Risk/Reward Ratio คือ 1:2 ซึ่งถือว่าดีพอสมควร คุณอาจตัดสินใจที่จะเทรด

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับ Risk/Reward Ratio

  • **Martingale Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขนาดการเทรดของคุณหลังจากที่ขาดทุน แต่ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้
  • **Anti-Martingale Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขนาดการเทรดของคุณหลังจากที่ชนะ
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อกำหนดจุดเข้าและออกที่เหมาะสม และคำนวณ Risk/Reward Ratio
  • **Support and Resistance:** ใช้ระดับ Support และ Resistance เพื่อกำหนดจุดเข้าและออกที่เหมาะสม และคำนวณ Risk/Reward Ratio
  • **Trend Following:** เทรดตามแนวโน้มของตลาด และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Breakout Strategy:** เทรดเมื่อราคา Breakout จากช่วงการซื้อขาย และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Pin Bar Strategy:** ใช้รูปแบบ Pin Bar เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Engulfing Pattern:** ใช้รูปแบบ Engulfing เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Moving Average Crossover:** ใช้ Moving Average Crossover เพื่อระบุแนวโน้ม และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวน และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุแนวโน้ม และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Elliott Wave Theory:** ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อระบุรูปแบบของราคา และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง
  • **Volume Spread Analysis (VSA):** ใช้ VSA เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย และใช้ Risk/Reward Ratio เพื่อจัดการความเสี่ยง

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

  • **ละเลย Risk/Reward Ratio:** การเทรดโดยไม่คำนึงถึง Risk/Reward Ratio เป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง
  • **ตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป:** การตั้งเป้าหมายทำกำไรที่สูงเกินไปอาจทำให้คุณเสี่ยงมากเกินไป
  • **ไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน:** การไม่ตั้งจุดตัดขาดทุนอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
  • **ไม่ปรับ Risk/Reward Ratio ตามสภาพตลาด:** สภาพตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คุณควรปรับ Risk/Reward Ratio ของคุณให้เหมาะสมกับสภาพตลาด

สรุป

Risk/Reward Ratio เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักเทรด ไบนารี่ออปชั่น ทุกคน การเข้าใจและใช้ Risk/Reward Ratio อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณจัดการเงินทุน ตัดสินใจเทรด และประเมินกลยุทธ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฝึกฝนและประสบการณ์จะช่วยให้คุณพัฒนาความสามารถในการประเมิน Risk/Reward Ratio และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การจัดการความเสี่ยง กลยุทธ์การเทรด จิตวิทยาการเทรด การเลือกโบรกเกอร์ การเปิดบัญชีเทรด การถอนเงิน การฝากเงิน ข่าวสารตลาด ศัพท์เฉพาะไบนารี่ออปชั่น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер