Retail Foreign Exchange Dealers (RFEDs)

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Retail Foreign Exchange Dealers (RFEDs)
    • Retail Foreign Exchange Dealers (RFEDs)** หรือ ตัวแทนค้าปลีกแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นบริษัทที่ให้บริการแก่เทรดเดอร์รายย่อยในการซื้อขาย อัตราแลกเปลี่ยน ในตลาด ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก บทความนี้จะให้ภาพรวมอย่างละเอียดเกี่ยวกับ RFEDs ครอบคลุมถึงบทบาทของพวกเขา ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง กฎระเบียบ และสิ่งที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาก่อนเลือก RFED
      1. บทนำสู่ตลาด Forex และ RFEDs

ตลาด Forex เดิมทีเปิดให้เฉพาะสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ธนาคารกลาง และบริษัทข้ามชาติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ได้เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดนี้ได้โดยตรง RFEDs ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์รายย่อยเหล่านี้กับตลาดระหว่างธนาคาร (Interbank Market) ซึ่งเป็นเครือข่ายของธนาคารและสถาบันการเงินที่ทำการซื้อขายกันเอง

RFEDs ไม่ได้ทำการซื้อขายโดยตรงกับตลาดระหว่างธนาคารเสมอไป หลายแห่งเป็นตัวแทน (Agent) หรือผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Provider) ที่รวบรวมราคาจากหลายแหล่งและเสนอราคาที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของตน

      1. บทบาทของ RFEDs

RFEDs ทำหน้าที่หลายอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขาย Forex สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย:

  • **การเข้าถึงตลาด:** RFEDs ให้แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้อย่างง่ายดาย
  • **การเสนอราคา:** RFEDs เสนอราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) สำหรับคู่สกุลเงินต่างๆ
  • **การดำเนินการซื้อขาย:** RFEDs ดำเนินการคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์
  • **เลเวอเรจ:** RFEDs มักจะเสนอเลเวอเรจ (Leverage) ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเงินทุนของตนได้
  • **เครื่องมือการซื้อขาย:** RFEDs มักจะจัดหาเครื่องมือการซื้อขาย เช่น กราฟราคา ตัวชี้วัดทางเทคนิค และ ข่าวสารทางการเงิน
  • **การสนับสนุนลูกค้า:** RFEDs ให้การสนับสนุนลูกค้าเพื่อช่วยเหลือเทรดเดอร์ในการใช้งานแพลตฟอร์มและแก้ปัญหาต่างๆ
      1. ประเภทของ RFEDs

RFEDs สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามรูปแบบธุรกิจ:

  • **Dealing Desk (DD) / Market Maker:** RFEDs ประเภทนี้ทำหน้าที่เป็นคู่แข่งในการซื้อขายกับลูกค้าของตน พวกเขาจะสร้างตลาดโดยการเสนอราคาซื้อและราคาขายของตนเอง และทำกำไรจากส่วนต่างของราคา (Spread) รูปแบบนี้อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เนื่องจาก RFEDs อาจได้รับประโยชน์จากการที่เทรดเดอร์ขาดทุน
  • **No Dealing Desk (NDD):** RFEDs ประเภทนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคู่แข่งในการซื้อขายกับลูกค้าของตน พวกเขาจะส่งคำสั่งซื้อขายของลูกค้าไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องภายนอก (External Liquidity Providers) NDD สามารถแบ่งออกได้อีก 2 ประเภท:
   *   **Straight Through Processing (STP):** คำสั่งซื้อขายจะถูกส่งไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง
   *   **Electronic Communication Network (ECN):** คำสั่งซื้อขายจะถูกส่งไปยังเครือข่ายของผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายรายเพื่อหาราคาที่ดีที่สุด
  • **Hybrid:** RFEDs บางแห่งใช้รูปแบบผสมผสานระหว่าง DD และ NDD
      1. ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ RFEDs

การซื้อขาย Forex ผ่าน RFEDs มีความเสี่ยงหลายประการที่เทรดเดอร์ควรตระหนัก:

  • **ความเสี่ยงด้านเลเวอเรจ:** เลเวอเรจสามารถขยายผลกำไรได้ แต่ก็สามารถขยายความสูญเสียได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
  • **ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง:** สภาพคล่องในตลาด Forex อาจผันผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
  • **ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ:** RFEDs บางแห่งอาจไม่ได้อยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์มีความเสี่ยง
  • **ความเสี่ยงด้านการฉ้อโกง:** มี RFEDs ที่ไม่น่าเชื่อถือบางแห่งที่อาจทำการฉ้อโกงหรือหลอกลวงเทรดเดอร์
  • **Slippage:** ความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ดำเนินการจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดผันผวน
  • **การขยาย Spread:** การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างราคาซื้อขายในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง
      1. การเลือก RFED ที่น่าเชื่อถือ

การเลือก RFED ที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  • **กฎระเบียบ:** เลือก RFED ที่ได้รับการควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่มีชื่อเสียง เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร หรือ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐอเมริกา
  • **ชื่อเสียง:** ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ RFED จากแหล่งต่างๆ เช่น ฟอรัมออนไลน์ บทวิจารณ์ และโซเชียลมีเดีย
  • **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** เลือก RFED ที่มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติที่จำเป็น
  • **ค่าธรรมเนียม:** เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น Spread ค่าคอมมิชชั่น และค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอนเงิน
  • **เลเวอเรจ:** พิจารณาเลเวอเรจที่ RFED เสนอ และใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง
  • **การสนับสนุนลูกค้า:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่า RFED มีการสนับสนุนลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
      1. กฎระเบียบ RFEDs

กฎระเบียบเกี่ยวกับ RFEDs แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยทั่วไป หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินจะกำหนดข้อกำหนดต่างๆ เช่น:

  • **ข้อกำหนดด้านเงินทุน:** RFEDs ต้องมีเงินทุนขั้นต่ำเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง
  • **ข้อกำหนดด้านการรายงาน:** RFEDs ต้องรายงานข้อมูลการซื้อขายให้กับหน่วยงานกำกับดูแล
  • **ข้อกำหนดด้านการป้องกันการฟอกเงิน:** RFEDs ต้องมีมาตรการในการป้องกันการฟอกเงิน
  • **ข้อกำหนดด้านการคุ้มครองลูกค้า:** RFEDs ต้องมีมาตรการในการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้า
      1. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง

RFEDs ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลาย:

  • **Scalping:** การทำกำไรจากความผันผวนของราคาขนาดเล็ก
  • **Day Trading:** การเปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน
  • **Swing Trading:** การถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
  • **Position Trading:** การถือครองตำแหน่งเป็นเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี
  • **Breakout Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้าน
  • **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
  • **Mean Reversion:** การซื้อขายโดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
  • **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุจุดเข้าและออก
  • **Elliott Wave Theory:** การวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคาเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคา
  • **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา
  • **Moving Averages:** การใช้ Moving Averages เพื่อระบุแนวโน้มของราคา
  • **Relative Strength Index (RSI):** การใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** การใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณซื้อและขาย
  • **Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและระดับแนวรับ/แนวต้าน
  • **Price Action Trading:** การวิเคราะห์รูปแบบราคาและแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคา
      1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) เป็นเครื่องมือสำคัญที่เทรดเดอร์ใช้ในการตัดสินใจซื้อขายผ่าน RFEDs การวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับการศึกษา กราฟราคา และ ตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเกี่ยวข้องกับการศึกษาปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุจุดกลับตัวที่เป็นไปได้

      1. สรุป

RFEDs มีบทบาทสำคัญในการทำให้ตลาด Forex สามารถเข้าถึงได้สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและเลือก RFED ที่น่าเชื่อถืออย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจกฎระเบียบและใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย Forex

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน Financial Conduct Authority (FCA) Commodity Futures Trading Commission (CFTC) กราฟราคา ตัวชี้วัดทางเทคนิค ข่าวสารทางการเงิน Scalping Day Trading Swing Trading Position Trading Breakout Trading Trend Following Mean Reversion Fibonacci Retracement Elliott Wave Theory Bollinger Bands Moving Averages Relative Strength Index (RSI) MACD (Moving Average Convergence Divergence) Ichimoku Cloud Price Action Trading การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

ตัวอย่าง RFEDs ที่ได้รับการควบคุม (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2566)
RFED หน่วยงานกำกับดูแล เว็บไซต์
IG FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย) [[1]]
OANDA CFTC (สหรัฐอเมริกา), FCA (สหราชอาณาจักร) [[2]]
Forex.com CFTC (สหรัฐอเมริกา), FCA (สหราชอาณาจักร) [[3]]
CMC Markets FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย) [[4]]

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер