Mortgage-Backed Securities (MBS)

1. 1. Mortgage-Backed Securities (MBS)

Mortgage-Backed Securities (MBS) หรือ หลักทรัพย์ที่มีภาระผูกพันกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน แต่มีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ตราสารหนี้ MBS ถูกสร้างขึ้นจากการรวมกลุ่มของ สินเชื่อที่อยู่อาศัย หลายๆ ก้อนเข้าด้วยกัน และขายให้กับนักลงทุนในรูปแบบของหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้สถาบันการเงินสามารถแปลงสินเชื่อระยะยาวให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ บทความนี้จะอธิบาย MBS อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงโครงสร้าง ความเสี่ยง ผลตอบแทน และความสัมพันธ์กับตลาด ไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. โครงสร้างของ Mortgage-Backed Securities (MBS)

MBS ไม่ได้เป็นสินเชื่อเพียงก้อนเดียว แต่เป็นการรวมกลุ่มของสินเชื่อที่อยู่อาศัยจำนวนมากที่เรียกว่า “Pool” หรือ “Trust” สถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร หรือบริษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะเป็นผู้รวบรวมสินเชื่อเหล่านี้ แล้วนำมาทำเป็นหลักทรัพย์เพื่อขายให้กับนักลงทุน

กระบวนการสร้าง MBS สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ได้ดังนี้:

1. **การรวมกลุ่มสินเชื่อ (Pooling):** สถาบันการเงินรวบรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed-rate mortgage) หรืออัตราดอกเบี้ยผันแปร (Adjustable-rate mortgage) ประเภทสินเชื่อ (Conventional, FHA, VA) และระยะเวลาของสินเชื่อ 2. **การแปลงสินเชื่อเป็นหลักทรัพย์ (Securitization):** สินเชื่อที่รวมกลุ่มกันจะถูกโอนไปยังหน่วยงานพิเศษที่เรียกว่า “Special Purpose Vehicle” (SPV) หรือ “Trust” ซึ่ง SPV จะออกหลักทรัพย์ (MBS) เพื่อขายให้กับนักลงทุน โดยรายได้จากการชำระหนี้ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะถูกส่งต่อไปยังนักลงทุนที่ถือ MBS 3. **การแบ่งชั้นความเสี่ยง (Tranching):** เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกัน MBS มักจะถูกแบ่งออกเป็นหลายชั้น หรือ “Tranches” โดยแต่ละ Tranche จะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน Tranche ที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด (Senior Tranche) จะได้รับการชำระเงินก่อน หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (Default) Tranche ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด (Junior Tranche) จะเป็นผู้รับความเสี่ยงก่อน

1. 1. 1. ประเภทของ Mortgage-Backed Securities (MBS)

MBS สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ใช้ในการสร้างหลักทรัพย์ และผู้ค้ำประกันหลักทรัพย์:

• **Agency MBS:** เป็น MBS ที่ออกโดยสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา เช่น Fannie Mae, Freddie Mac และ Ginnie Mae Agency MBS ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาล
• **Non-Agency MBS:** เป็น MBS ที่ออกโดยสถาบันการเงินเอกชน ไม่ได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาล Non-Agency MBS มีความเสี่ยงสูงกว่า Agency MBS แต่ก็มีผลตอบแทนที่สูงกว่าเช่นกัน
• **Pass-Through MBS:** เป็น MBS ที่นักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งจากกระแสเงินสดที่เกิดจากการชำระหนี้ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยตรง
• **Collateralized Mortgage Obligations (CMO):** เป็น MBS ที่ถูกแบ่งออกเป็นหลาย Tranche ซึ่งแต่ละ Tranche จะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน CMO มีความซับซ้อนกว่า Pass-Through MBS

1. 1. 1. ความเสี่ยงของ Mortgage-Backed Securities (MBS)

การลงทุนใน MBS มีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจ:

• **ความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk):** หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด จะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดที่นักลงทุนจะได้รับ
• **ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk):** ราคาของ MBS จะผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย โดยทั่วไปแล้ว เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาของ MBS จะลดลง และในทางกลับกัน
• **ความเสี่ยงด้านการชำระหนี้ก่อนกำหนด (Prepayment Risk):** ผู้กู้สามารถชำระหนี้ก่อนกำหนดได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดที่นักลงทุนจะได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยลดลง
• **ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk):** MBS บางประเภทอาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ยากต่อการซื้อขาย

1. 1. 1. ผลตอบแทนของ Mortgage-Backed Securities (MBS)

ผลตอบแทนของ MBS มาจากกระแสเงินสดที่เกิดจากการชำระหนี้ของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมถึง:

• **ดอกเบี้ย (Interest):** ผู้ถือ MBS จะได้รับดอกเบี้ยจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยใน Pool
• **เงินต้น (Principal):** ผู้ถือ MBS จะได้รับเงินต้นคืนเมื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัยถูกชำระหมด
• **การชำระหนี้ก่อนกำหนด (Prepayments):** หากผู้กู้ชำระหนี้ก่อนกำหนด ผู้ถือ MBS จะได้รับเงินต้นคืนก่อนกำหนด

1. 1. 1. MBS กับตลาดไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่า MBS จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่แตกต่างจาก ไบนารี่ออปชั่น อย่างสิ้นเชิง แต่ก็มีความสัมพันธ์กันในแง่ของความเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยง นักลงทุนที่ถือ MBS สามารถใช้ไบนารี่ออปชั่นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเก็งกำไรจากทิศทางของตลาดอัตราดอกเบี้ยได้

ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนถือ MBS และคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น นักลงทุนสามารถซื้อ Put Option ในตลาดไบนารี่ออปชั่น โดยมีสินทรัพย์อ้างอิงคืออัตราดอกเบี้ย หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นจริง นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจาก Put Option ซึ่งจะช่วยชดเชยผลขาดทุนจาก MBS ได้

นอกจากนี้ การวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด MBS สามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ เช่น หากตลาด MBS มีความผันผวนสูง อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอัตราดอกเบี้ยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. การวิเคราะห์ MBS และกลยุทธ์การเทรด

การวิเคราะห์ MBS จำเป็นต้องมีความเข้าใจในปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และคุณภาพของสินเชื่อที่อยู่อาศัย นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการวิเคราะห์ MBS ได้แก่:

• **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และคุณภาพของสินเชื่อที่อยู่อาศัย
• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การวิเคราะห์กราฟราคาและปริมาณการซื้อขายของ MBS เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบต่างๆ เช่น Moving Averages, Bollinger Bands, และ Fibonacci Retracements
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายของ MBS เพื่อยืนยันแนวโน้มและรูปแบบต่างๆ
• **การวิเคราะห์ Duration และ Convexity:** การวัดความไวของราคา MBS ต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย

กลยุทธ์การเทรด MBS ที่เกี่ยวข้อง:

• **Duration Matching:** การปรับพอร์ตการลงทุนให้มี Duration เท่ากับระยะเวลาการลงทุนที่ต้องการ เพื่อลดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย
• **Bullet Strategy:** การลงทุนใน MBS ที่มีวันครบกำหนดใกล้เคียงกัน เพื่อให้ได้รับกระแสเงินสดจำนวนมากในช่วงเวลาที่กำหนด
• **Barbell Strategy:** การลงทุนใน MBS ที่มีวันครบกำหนดสั้นและยาว เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นและความยืดหยุ่นในการลงทุน
• **Ladder Strategy:** การลงทุนใน MBS ที่มีวันครบกำหนดแตกต่างกัน เพื่อกระจายความเสี่ยงและได้รับกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ

กลยุทธ์ไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้อง:

• **Trend Following:** การใช้ Indicator เช่น MACD หรือ RSI เพื่อระบุแนวโน้มของตลาดอัตราดอกเบี้ย และเปิดตำแหน่งไบนารี่ออปชั่นตามแนวโน้มนั้น
• **Breakout Trading:** การเปิดตำแหน่งไบนารี่ออปชั่นเมื่อราคาของอัตราดอกเบี้ยทะลุแนวต้านหรือแนวรับ
• **Straddle Strategy:** การซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทั้งขึ้นและลง
• **High/Low Option:** การคาดการณ์ว่าราคาของอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นหรือต่ำลงในช่วงเวลาที่กำหนด

1. 1. 1. บทสรุป

Mortgage-Backed Securities (MBS) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน แต่มีความสำคัญในตลาดการเงินโลก นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน MBS ควรทำความเข้าใจโครงสร้าง ความเสี่ยง และผลตอบแทนของ MBS อย่างละเอียด รวมถึงความสัมพันธ์กับตลาดไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ที่รอบคอบและการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนใน MBS เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้

ตัวอย่าง Tranche ของ MBS และความเสี่ยง/ผลตอบแทน

Tranche	ความเสี่ยง	ผลตอบแทน
Senior Tranche	ต่ำ	ต่ำ
Mezzanine Tranche	ปานกลาง	ปานกลาง
Junior Tranche	สูง	สูง

ตลาดตราสารหนี้ อัตราดอกเบี้ย การลงทุน ความเสี่ยง การบริหารความเสี่ยง สินเชื่อที่อยู่อาศัย Special Purpose Vehicle Fannie Mae Freddie Mac Ginnie Mae Put Option Call Option Moving Averages Bollinger Bands Fibonacci Retracements MACD RSI Trend Following Breakout Trading Straddle Strategy High/Low Option Duration Convexity การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Category:Fixed-income markets)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น