Amazon (บริษัท)
- Amazon (บริษัท)
Amazon (อ่านว่า อะ-เม-ซอน) เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในซีแอตเทิล วอชิงตัน ก่อตั้งโดย เจฟฟ์ เบโซส ในปี 1994 ในช่วงแรก Amazon เริ่มต้นจากการเป็นร้านหนังสือออนไลน์ แต่ต่อมาได้ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้งอีคอมเมิร์ซ, คลาวด์คอมพิวติง, สตรีมมิ่งดิจิทัล, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอื่นๆ กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน บทความนี้จะเจาะลึกถึงประวัติความเป็นมา, โครงสร้างธุรกิจ, ผลิตภัณฑ์และบริการ, การวิเคราะห์ทางการเงิน, และความสัมพันธ์กับตลาดไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) สำหรับผู้เริ่มต้น
ประวัติความเป็นมา
จุดเริ่มต้นของ Amazon เกิดขึ้นในปี 1994 เมื่อ เจฟฟ์ เบโซส สังเกตเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของ [อินเทอร์เน็ต] และเห็นโอกาสในการสร้างร้านหนังสือออนไลน์ เขาเชื่อว่าการขายหนังสือผ่านทางอินเทอร์เน็ตจะสะดวกและเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าร้านหนังสือทั่วไป ในปี 1995 Amazon.com เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นจากการขายหนังสือเพียงอย่างเดียว
ในช่วงแรก Amazon เผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า, การจัดการกับปัญหาด้านโลจิสติกส์, และการแข่งขันกับร้านหนังสือรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม Amazon สามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การให้บริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม, การขยายคลังสินค้า, และการลงทุนในเทคโนโลยี
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 Amazon ได้ขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกเหนือจากหนังสือ เช่น เพลง, วิดีโอ, และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2002 Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นบริการคลาวด์คอมพิวติง ได้เปิดตัว และกลายเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่สำคัญของ Amazon ในปัจจุบัน
โครงสร้างธุรกิจ
Amazon มีโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อนและหลากหลาย แบ่งออกเป็นหลายหน่วยธุรกิจหลัก ได้แก่:
- **North America:** หน่วยธุรกิจนี้รับผิดชอบการดำเนินงานในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, และเม็กซิโก
- **International:** หน่วยธุรกิจนี้รับผิดชอบการดำเนินงานในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เช่น ยุโรป, เอเชีย, และอเมริกาใต้
- **Amazon Web Services (AWS):** หน่วยธุรกิจนี้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติงแก่ลูกค้าทั่วโลก ซึ่งรวมถึงบริการต่างๆ เช่น การจัดเก็บข้อมูล, การประมวลผล, และการวิเคราะห์ข้อมูล
- **Advertising:** หน่วยธุรกิจนี้ให้บริการโฆษณาแก่ผู้ขายและผู้โฆษณาบนแพลตฟอร์ม Amazon
- **Physical Stores:** หน่วยธุรกิจนี้บริหารจัดการร้านค้าปลีกของ Amazon เช่น Whole Foods Market และ Amazon Go
Amazon มีรูปแบบธุรกิจที่เน้นการสร้าง [ระบบนิเวศ] (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การสมัครสมาชิก Amazon Prime ที่ให้สิทธิประโยชน์มากมายแก่สมาชิก เช่น การจัดส่งฟรี, การเข้าถึงบริการสตรีมมิ่ง, และข้อเสนอพิเศษ
ผลิตภัณฑ์และบริการ
Amazon นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกด้านของชีวิตประจำวัน ได้แก่:
- **อีคอมเมิร์ซ:** Amazon เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่หนังสือ, เสื้อผ้า, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค
- **คลาวด์คอมพิวติง:** Amazon Web Services (AWS) เป็นผู้นำตลาดบริการคลาวด์คอมพิวติง โดยให้บริการต่างๆ เช่น Amazon EC2, Amazon S3, และ Amazon RDS
- **สตรีมมิ่งดิจิทัล:** Amazon Prime Video เป็นบริการสตรีมมิ่งวิดีโอที่นำเสนอภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์, และคอนเทนต์อื่นๆ
- **ปัญญาประดิษฐ์ (AI):** Amazon Alexa เป็นผู้ช่วยเสมือนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการตอบคำถาม, เล่นเพลง, และควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
- **อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์:** Amazon ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตัวเอง เช่น Kindle e-reader, Echo smart speaker, และ Fire TV streaming device
- **บริการอื่นๆ:** Amazon ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Amazon Music, Amazon Photos, และ Amazon Drive
การวิเคราะห์ทางการเงิน
Amazon มีผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูง แต่รายได้ที่ได้รับก็สูงเช่นกัน
| ปี |!-| รายได้รวม |!-| กำไรสุทธิ |!-| ส่วนแบ่งการตลาดอีคอมเมิร์ซ | | - | 2018 | |- | 232,887 | |- | 10,441 | |- | 49.1% | | - | 2019 | |- | 280,522 | |- | 11,588 | |- | 51.2% | | - | 2020 | |- | 386,064 | |- | 21,331 | |- | 53.7% | | - | 2021 | |- | 469,822 | |- | 33,362 | |- | 54.3% | | - | 2022 | |- | 513,983 | |- | -2,717 | |- | 53.1% | |
- หมายเหตุ: ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคมของแต่ละปี*
Amazon มี [อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น] (Debt-to-Equity Ratio) ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งบ่งบอกถึงการใช้ leverage ในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม Amazon มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถชำระหนี้สินได้
ความสัมพันธ์กับตลาดไบนารี่ออปชั่น (Binary Options)
การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น Amazon (AMZN) เป็นที่สนใจของนักลงทุนในตลาด [ไบนารี่ออปชั่น] (Binary Options) เป็นอย่างมาก เนื่องจากความผันผวนของราคาหุ้นที่ค่อนข้างสูง นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้องกับหุ้น Amazon ได้แก่:
- **High/Low:** คาดการณ์ว่าราคาหุ้น Amazon จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด
- **Touch/No Touch:** คาดการณ์ว่าราคาหุ้น Amazon จะสัมผัสระดับราคาที่กำหนดหรือไม่
- **Boundary:** คาดการณ์ว่าราคาหุ้น Amazon จะอยู่ในช่วงราคาที่กำหนดหรือไม่
- **One Touch:** คาดการณ์ว่าราคาหุ้น Amazon จะสัมผัสระดับราคาที่กำหนดอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนหมดอายุ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น การใช้ [เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่] (Moving Averages), [ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์] (Relative Strength Index - RSI), และ [MACD] (Moving Average Convergence Divergence) สามารถช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้องกับหุ้น Amazon ได้
นอกจากนี้ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เช่น การรายงานผลประกอบการ, ข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท, และแนวโน้มอุตสาหกรรม ก็มีความสำคัญในการประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในหุ้น Amazon
- กลยุทธ์เพิ่มเติมสำหรับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นในหุ้น Amazon:**
- **การติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและประกาศต่างๆ เกี่ยวกับ Amazon อย่างใกล้ชิด เพราะข่าวเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างรวดเร็ว
- **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อประเมินความสนใจของนักลงทุนในหุ้น Amazon
- **การใช้ Stop-Loss:** กำหนดระดับ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุน
- **การกระจายความเสี่ยง:** กระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ นอกเหนือจากหุ้น Amazon
- **การใช้ Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการกลับตัว
- **การใช้ Fibonacci Retracement:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
- **การใช้ Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
- **การใช้ Elliott Wave Theory:** ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น
- **การใช้ Heikin Ashi:** ใช้ Heikin Ashi เพื่อกรองสัญญาณรบกวนและระบุแนวโน้ม
- **การใช้ Parabolic SAR:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม
- **การใช้ Pivot Points:** ใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
- **การใช้ Volume Weighted Average Price (VWAP):** ใช้ VWAP เพื่อระบุระดับราคาเฉลี่ยที่คำนึงถึงปริมาณการซื้อขาย
- **การใช้ On Balance Volume (OBV):** ใช้ OBV เพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุการสะสมหรือการกระจายหุ้น
- **การใช้ Aroon Indicator:** ใช้ Aroon Indicator เพื่อระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- **การใช้ Keltner Channels:** ใช้ Keltner Channels เพื่อระบุความผันผวนและระดับแนวรับแนวต้าน
- คำเตือน:** การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อนาคตของ Amazon
Amazon ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต บริษัทกำลังลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์, [ความเป็นจริงเสมือน] (Virtual Reality - VR), และ [ความเป็นจริงเสริม] (Augmented Reality - AR) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
Amazon ยังคงขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ทั่วโลก และกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทอื่นๆ เช่น [Microsoft], [Google], และ [Apple]
อย่างไรก็ตาม Amazon มีความแข็งแกร่งในด้าน [แบรนด์] (Brand), [เทคโนโลยี] (Technology), และ [โครงสร้างพื้นฐาน] (Infrastructure) ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันและเติบโตต่อไปในอนาคต
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
