ไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch

ภาพประกอบไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch

ไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น

ไบนารี่ออปชั่นเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและศักยภาพในการทำกำไรที่สูง อย่างไรก็ตาม มีไบนารี่ออปชั่นหลายประเภท และการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างแต่ละประเภทเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเข้าไปในไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch ซึ่งเป็นประเภทที่น่าสนใจและมีกลยุทธ์ที่หลากหลาย

ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร?

ก่อนที่เราจะเข้าสู่รายละเอียดของ Touch/No Touch เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของไบนารี่ออปชั่นกันก่อน ไบนารี่ออปชั่นเป็นการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น สกุลเงิน ดัชนีหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์) จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้อง คุณจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Payout) แต่หากผิดพลาด คุณจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด (Investment) หรือบางส่วน ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม การจัดการความเสี่ยงในไบนารี่ออปชั่น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Touch/No Touch คืออะไร?

ไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch (หรือที่เรียกว่า "Barrier Options") เป็นประเภทของไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้องกับ "Barrier" หรือ "ระดับอุปสรรค" ซึ่งเป็นราคาที่สินทรัพย์อ้างอิงต้อง "แตะ" หรือ "ไม่แตะ" ภายในระยะเวลาที่กำหนด

**Touch (แตะ):** ในออปชั่น Touch เทรดเดอร์จะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *แตะ* ระดับอุปสรรคที่กำหนดไว้ก่อนหมดอายุ ไม่ว่าราคาจะแตะอุปสรรคในช่วงเวลาใดก็ตาม (แม้จะเพียงชั่วครู่) เทรดเดอร์ก็จะได้รับผลตอบแทน
**No Touch (ไม่แตะ):** ในออปชั่น No Touch เทรดเดอร์จะทำกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่แตะ* ระดับอุปสรรคที่กำหนดไว้ก่อนหมดอายุ หากราคาแตะอุปสรรค เทรดเดอร์จะเสียเงินลงทุน

ความแตกต่างหลักระหว่าง Touch และ No Touch

| คุณสมบัติ | Touch | No Touch | |---|---|---| | **เงื่อนไขการทำกำไร** | ราคาต้องแตะระดับอุปสรรค | ราคาต้องไม่แตะระดับอุปสรรค | | **ความเสี่ยง** | ค่อนข้างสูง | ค่อนข้างต่ำ | | **ผลตอบแทน** | โดยทั่วไปต่ำกว่า No Touch | โดยทั่วไปสูงกว่า Touch | | **เหมาะสำหรับ** | ตลาดที่มีความผันผวนสูง | ตลาดที่มีความผันผวนต่ำ |

กลไกการทำงานของ Touch/No Touch

ลองพิจารณาตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใลไกการทำงาน:

**Touch:** คุณเชื่อว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ คุณซื้อออปชั่น Touch โดยกำหนดระดับอุปสรรคไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากราคาทองคำแตะ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหมดอายุ (เช่น 1 ชั่วโมง) คุณจะได้รับผลตอบแทน แม้ว่าหลังจากนั้นราคาจะลดลงก็ตาม
**No Touch:** คุณเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะไม่ทะลุ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ คุณซื้อออปชั่น No Touch โดยกำหนดระดับอุปสรรคไว้ที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากราคาน้ำมันดิบไม่แตะ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหมดอายุ (เช่น 1 สัปดาห์) คุณจะได้รับผลตอบแทน แต่หากราคาน้ำมันดิบแตะ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ คุณจะเสียเงินลงทุน

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาของ Touch/No Touch

**ความผันผวนของตลาด (Market Volatility):** ความผันผวนที่สูงขึ้นมักจะส่งผลให้ราคาของ Touch สูงขึ้น และราคาของ No Touch ต่ำลง เนื่องจากมีโอกาสมากขึ้นที่ราคาจะแตะระดับอุปสรรค
**ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ (Time to Expiration):** ยิ่งระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุยาวนานขึ้น ราคาของทั้ง Touch และ No Touch ก็จะสูงขึ้น เนื่องจากมีโอกาสมากขึ้นที่ราคาจะเปลี่ยนแปลง
**ระดับอุปสรรค (Strike Price/Barrier Level):** ยิ่งระดับอุปสรรคอยู่ห่างจากราคาปัจจุบันมากเท่าไหร่ ราคาของทั้ง Touch และ No Touch ก็จะต่ำลง
**อัตราดอกเบี้ย (Interest Rates):** อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อราคาของออปชั่นโดยรวม แต่ผลกระทบต่อ Touch/No Touch อาจไม่ชัดเจนเท่ากับออปชั่นประเภทอื่นๆ

กลยุทธ์การเทรด Touch/No Touch

**การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following):** หากคุณระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งในตลาด คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Touch เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะแตะระดับอุปสรรคที่สูงขึ้น (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือต่ำลง (ในแนวโน้มขาลง) การวิเคราะห์แนวโน้ม เป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้
**การเทรดสวนทางกับแนวโน้ม (Counter-Trend Trading):** หากคุณเชื่อว่าแนวโน้มกำลังจะสิ้นสุดลง คุณสามารถใช้กลยุทธ์ No Touch เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะไม่แตะระดับอุปสรรคที่สูงขึ้น (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือต่ำลง (ในแนวโน้มขาลง) การระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม เป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้
**การใช้ประโยชน์จากช่วงการซื้อขาย (Trading Ranges):** หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่อยู่ในช่วงการซื้อขายที่แคบ คุณสามารถใช้กลยุทธ์ No Touch เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะไม่แตะระดับอุปสรรคที่อยู่นอกช่วงการซื้อขาย การระบุช่วงการซื้อขาย เป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้
**การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** ใช้เครื่องมือเช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (RSI), และ MACD เพื่อระบุโอกาสในการเทรด Touch/No Touch การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ก็สามารถช่วยในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
**การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้ม On Balance Volume (OBV) เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
**กลยุทธ์ Straddle/Strangle:** ใช้ผสมผสาน Touch และ No Touch เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด (แต่ต้องมีการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ)

การจัดการความเสี่ยงในการเทรด Touch/No Touch

**กำหนดขนาดการลงทุน (Position Sizing):** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
**ใช้ Stop-Loss:** แม้ว่า Touch/No Touch จะไม่มี stop-loss แบบดั้งเดิม คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุน้อยลง
**กระจายความเสี่ยง (Diversification):** อย่าลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงเพียงอย่างเดียว
**ทำความเข้าใจกับความเสี่ยง (Understand the Risks):** Touch/No Touch เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับความเสี่ยงก่อนที่จะทำการเทรด การประเมินความเสี่ยงในการเทรดไบนารี่ออปชั่น เป็นสิ่งสำคัญ

แพลตฟอร์มการเทรด Touch/No Touch

มีแพลตฟอร์มการเทรดไบนารี่ออปชั่นหลายแห่งที่ให้บริการออปชั่น Touch/No Touch แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ การเลือกโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ การกำกับดูแล และค่าธรรมเนียม

ข้อดีและข้อเสียของ Touch/No Touch

- ข้อดี:**

ศักยภาพในการทำกำไรสูง
กลยุทธ์ที่หลากหลาย
เหมาะสำหรับทั้งตลาดที่มีความผันผวนสูงและต่ำ

- ข้อเสีย:**

ความเสี่ยงสูง
อาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
ต้องมีการวิเคราะห์ตลาดที่ละเอียดถี่ถ้วน

สรุป

ไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch เป็นเครื่องมือทางการเงินที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน กลยุทธ์ และการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเทรด Touch/No Touch การศึกษา การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) และ การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณได้อย่างมาก

ตัวอย่างการเปรียบเทียบ Touch และ No Touch
สินทรัพย์	เงื่อนไข	ประเภทออปชั่น	ผลลัพธ์
EUR/USD	ราคาทะลุ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง	Touch	ทำกำไร
EUR/USD	ราคาทะลุ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง	No Touch	เสียเงินลงทุน
ทองคำ	ราคาไม่ทะลุ 1900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 วัน	No Touch	ทำกำไร
ทองคำ	ราคาไม่ทะลุ 1900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 1 วัน	Touch	เสียเงินลงทุน

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

ไบนารี่ออปชั่นแบบ Touch/No Touch

Contents