การใช้ Parabolic SAR (Parabolic SAR)

1. 1. การใช้ Parabolic SAR (Parabolic SAR)

Parabolic SAR หรือ Parabolic Stop and Reverse เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม (Trend) ในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย ผู้พัฒนาคือ J. Welles Wilder Jr. ผู้เดียวกับที่สร้างเครื่องมือ Relative Strength Index (RSI) และ Average Directional Index (ADX) บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงาน วิธีการใช้งาน และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Parabolic SAR สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

หลักการทำงานของ Parabolic SAR

Parabolic SAR แสดงผลเป็นชุดของจุดที่วางอยู่เหนือหรือใต้กราฟราคา จุดเหล่านี้จะปรับตัวตามแนวโน้มปัจจุบัน โดยจุดที่อยู่ใต้กราฟราคาจะใช้สำหรับแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และจุดที่อยู่เหนือกราฟราคาจะใช้สำหรับแนวโน้มขาลง (Downtrend) หลักการสำคัญคือ เมื่อราคาตัดผ่านจุด SAR จะบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

สูตรการคำนวณ Parabolic SAR มีดังนี้:

• **แนวโน้มขาขึ้น:** SAR_t+1 = SAR_t + α(Extreme Point_t – SAR_t)
• **แนวโน้มขาลง:** SAR_t+1 = SAR_t – α(Extreme Point_t – SAR_t)

โดยที่:

• SAR_t+1 คือค่า SAR ในช่วงเวลาถัดไป
• SAR_t คือค่า SAR ในช่วงเวลาปัจจุบัน
• α (Alpha) คือค่าตัวคูณเร่งความเร็ว (Acceleration Factor) โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 0.02 และเพิ่มขึ้น 0.02 ทุกครั้งที่เกิดการกลับตัวของแนวโน้ม (สูงสุด 0.20)
• Extreme Point_t คือราคาสูงสุดในช่วงแนวโน้มขาขึ้น หรือราคาต่ำสุดในช่วงแนวโน้มขาลง

ค่า α ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Parabolic SAR ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วขึ้นในช่วงที่แนวโน้มแข็งแกร่ง และจะเริ่มกลับตัวเร็วขึ้นในช่วงที่แนวโน้มอ่อนแอลง

การติดตั้งค่าเริ่มต้น (Initial Values)

การกำหนดค่าเริ่มต้นของ Parabolic SAR มีความสำคัญต่อความแม่นยำของสัญญาณ

• **แนวโน้มขาขึ้น:** SAR₀ = ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 14 วัน)
• **แนวโน้มขาลง:** SAR₀ = ราคาสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 14 วัน)

โดยทั่วไป เทรดเดอร์นิยมใช้ช่วงเวลา 14 วันในการคำนวณค่าเริ่มต้น

การตีความสัญญาณ Parabolic SAR

• **สัญญาณซื้อ (Buy Signal):** เมื่อราคาตัดผ่านจุด SAR จากด้านล่างขึ้นไป (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือเมื่อจุด SAR เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว (ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มการเทรด)
• **สัญญาณขาย (Sell Signal):** เมื่อราคาตัดผ่านจุด SAR จากด้านบนลงมา (ในแนวโน้มขาลง) หรือเมื่อจุด SAR เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง (ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มการเทรด)
• **การกลับตัวของแนวโน้ม:** เมื่อจุด SAR เริ่มกลับทิศทาง (จากด้านล่างไปด้านบน หรือจากด้านบนลงมา) บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มปัจจุบันและอาจเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม

การใช้ Parabolic SAR ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Parabolic SAR สามารถนำมาใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายรูปแบบ:

1. **การเทรดตามแนวโน้ม:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อยืนยันแนวโน้มปัจจุบัน และเปิดออปชั่นตามแนวโน้มนั้น เช่น หาก Parabolic SAR แสดงสัญญาณซื้อในแนวโน้มขาขึ้น ให้เปิดออปชั่น Call (ซื้อ) 2. **การเทรดเมื่อเกิดการกลับตัว:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อจับสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม และเปิดออปชั่นตามทิศทางใหม่ เช่น หาก Parabolic SAR แสดงสัญญาณขายหลังจากแนวโน้มขาขึ้น ให้เปิดออปชั่น Put (ขาย) 3. **การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** Parabolic SAR มักถูกใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average (MA), MACD หรือ RSI เพื่อเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณ

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Parabolic SAR

• • กลยุทธ์ที่ 1: Parabolic SAR และ Moving Average**

• **หลักการ:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Moving Average
• **ขั้นตอน:**

   1.  คำนวณ Moving Average (เช่น SMA 20 วัน)
   2.  เมื่อราคาตัดเหนือ Moving Average และ Parabolic SAR แสดงสัญญาณซื้อ ให้เปิดออปชั่น Call
   3.  เมื่อราคาตัดใต้ Moving Average และ Parabolic SAR แสดงสัญญาณขาย ให้เปิดออปชั่น Put

• **ข้อดี:** ลดสัญญาณหลอก (False Signal) โดยการยืนยันสัญญาณจากทั้งสองเครื่องมือ
• **ข้อเสีย:** อาจพลาดโอกาสในการเข้าเทรดบางครั้ง

• • กลยุทธ์ที่ 2: Parabolic SAR และ RSI**

• **หลักการ:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อจับสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม และใช้ RSI เพื่อยืนยันว่าตลาดอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
• **ขั้นตอน:**

   1.  คำนวณ RSI (เช่น RSI 14 วัน)
   2.  เมื่อ Parabolic SAR แสดงสัญญาณขาย และ RSI อยู่ในสภาวะ Overbought ให้เปิดออปชั่น Put
   3.  เมื่อ Parabolic SAR แสดงสัญญาณซื้อ และ RSI อยู่ในสภาวะ Oversold ให้เปิดออปชั่น Call

• **ข้อดี:** เพิ่มความแม่นยำของสัญญาณ โดยการยืนยันจากทั้ง Parabolic SAR และ RSI
• **ข้อเสีย:** อาจต้องรอสัญญาณนานขึ้น

• • กลยุทธ์ที่ 3: Parabolic SAR Breakout Strategy**

• **หลักการ:** ใช้ Parabolic SAR เพื่อระบุช่วงการเคลื่อนที่ของราคา (Range) และเปิดออปชั่นเมื่อราคา Breakout ออกจากช่วงนั้น
• **ขั้นตอน:**

   1.  สังเกตจุด SAR ที่สร้างช่วงการเคลื่อนที่ของราคา (จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด)
   2.  เมื่อราคาตัดผ่านจุดสูงสุดของช่วงการเคลื่อนที่ (ในแนวโน้มขาขึ้น) และ Parabolic SAR แสดงสัญญาณซื้อ ให้เปิดออปชั่น Call
   3.  เมื่อราคาตัดผ่านจุดต่ำสุดของช่วงการเคลื่อนที่ (ในแนวโน้มขาลง) และ Parabolic SAR แสดงสัญญาณขาย ให้เปิดออปชั่น Put

• **ข้อดี:** สามารถทำกำไรได้จากการเคลื่อนที่ของราคาที่รวดเร็ว
• **ข้อเสีย:** มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาอาจกลับตัวอย่างรวดเร็ว

ข้อดีและข้อเสียของ Parabolic SAR

• • ข้อดี:**

• ใช้งานง่ายและเข้าใจง่าย
• สามารถระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มได้อย่างแม่นยำ (ในบางกรณี)
• ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ดี
• สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

• • ข้อเสีย:**

• อาจให้สัญญาณหลอก (False Signal) ในตลาด Sideways หรือตลาดที่มีความผันผวนสูง
• การตั้งค่าค่า α ที่เหมาะสมอาจต้องใช้การทดลอง
• ไม่เหมาะกับการเทรดในระยะสั้นมากๆ

การจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้ Parabolic SAR

• **การกำหนด Stop Loss:** กำหนด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุน หากราคาเคลื่อนที่สวนทางกับสัญญาณที่ได้จาก Parabolic SAR
• **การบริหารเงินทุน (Money Management):** กำหนดจำนวนเงินทุนที่ใช้ในการเทรดแต่ละครั้งอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม
• **การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** ใช้ Parabolic SAR ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยง
• **การ Backtesting:** ทดสอบกลยุทธ์การเทรดด้วย Parabolic SAR บนข้อมูลย้อนหลัง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยง

สรุป

Parabolic SAR เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น ในการระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม และสร้างสัญญาณการเทรด อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Parabolic SAR อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการทำงาน การตีความสัญญาณ และการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม การใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการทดสอบกลยุทธ์บนข้อมูลย้อนหลังจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของสัญญาณที่ได้

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

• การวิเคราะห์ทางเทคนิค
• ไบนารี่ออปชั่น
• Moving Average
• MACD
• RSI
• ADX
• แนวโน้ม (Trend)
• การบริหารเงินทุน (Money Management)
• การจัดการความเสี่ยง
• Stop Loss
• Take Profit
• กลยุทธ์การเทรด
• การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
• การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง
• รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)
• Fibonacci Retracement
• Bollinger Bands
• Ichimoku Cloud
• Elliott Wave Theory
• การเทรดตามแนวโน้ม
• การเทรดเมื่อเกิดการกลับตัว
• การเทรด Breakout

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น