การใช้ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI) ในไบนารี่ออปชั่น

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การใช้ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI) ในไบนารี่ออปชั่น

บทนำ

ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเรียบง่ายและศักยภาพในการทำกำไรที่สูง อย่างไรก็ตาม การเทรดไบนารี่ออปชั่นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน และการประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเครื่องมือและกลยุทธ์การวิเคราะห์ที่เหมาะสม หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพคือ ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ หรือ Relative Strength Index (RSI) บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน RSI ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน การคำนวณ การตีความสัญญาณ และการนำไปประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรดต่างๆ

ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (RSI) คืออะไร

RSI เป็น ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicator) ที่พัฒนาโดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อ เจนเน็ต ฟิชเชอร์ (J. Welles Wilder Jr.) ในปี 1978 RSI วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงของราคา เพื่อประเมินว่าสินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) โดยมีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 โดยทั่วไปแล้ว:

  • ค่า RSI เหนือ 70 แสดงว่าสินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป และอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับฐานราคาลง
  • ค่า RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่าสินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาวะขายมากเกินไป และอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดการดีดตัวของราคาขึ้น

RSI ไม่ได้เป็นเพียงตัวบ่งชี้สภาวะซื้อขายมากเกินไปเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการระบุ แนวโน้ม (Trend) และ การเบี่ยงเบน (Divergence) ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับการตัดสินใจเทรด

การคำนวณ RSI

การคำนวณ RSI อาจดูซับซ้อน แต่ปัจจุบันเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่จะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้ง เราจะอธิบายขั้นตอนการคำนวณอย่างง่าย:

1. **คำนวณค่าเฉลี่ยของกำไร (Average Gain - AG) และค่าเฉลี่ยของขาดทุน (Average Loss - AL)** ในช่วงเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 14 วัน)

   *   AG คือค่าเฉลี่ยของราคาที่สูงขึ้นในแต่ละวัน
   *   AL คือค่าเฉลี่ยของราคาที่ต่ำลงในแต่ละวัน

2. **คำนวณค่า Relative Strength (RS)** โดยใช้สูตร: RS = AG / AL 3. **คำนวณค่า RSI** โดยใช้สูตร: RSI = 100 – (100 / (1 + RS))

การตีความสัญญาณ RSI

การตีความสัญญาณ RSI อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดไบนารี่ออปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้เป็นสัญญาณ RSI ที่สำคัญที่ควรทราบ:

  • **สภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)**: เมื่อ RSI มีค่ามากกว่า 70 แสดงว่าสินทรัพย์นั้นอาจถูกซื้อมากเกินไป และมีโอกาสที่จะเกิดการปรับฐานราคาลง ผู้เทรดอาจพิจารณาเปิด คำสั่งขาย (Put Option) ในไบนารี่ออปชั่น
  • **สภาวะขายมากเกินไป (Oversold)**: เมื่อ RSI มีค่าต่ำกว่า 30 แสดงว่าสินทรัพย์นั้นอาจถูกขายมากเกินไป และมีโอกาสที่จะเกิดการดีดตัวของราคาขึ้น ผู้เทรดอาจพิจารณาเปิด คำสั่งซื้อ (Call Option) ในไบนารี่ออปชั่น
  • **การเบี่ยงเบน (Divergence)**: การเบี่ยงเบนเกิดขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับ RSI
   *   **Bearish Divergence**: ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตามได้ สัญญาณนี้บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้น
   *   **Bullish Divergence**: ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ตามได้ สัญญาณนี้บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้น
  • **การทะลุ (Breakout)**: การทะลุระดับ 70 หรือ 30 อาจบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่

การประยุกต์ใช้ RSI ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

RSI สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลากหลายรูปแบบ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน:

  • **กลยุทธ์การเทรดตามสภาวะซื้อขายมากเกินไป (Overbought/Oversold Strategy)**:
   *   เมื่อ RSI > 70 ให้เปิดคำสั่งขาย (Put Option)
   *   เมื่อ RSI < 30 ให้เปิดคำสั่งซื้อ (Call Option)
  • **กลยุทธ์การเทรดตามการเบี่ยงเบน (Divergence Strategy)**:
   *   เมื่อเกิด Bearish Divergence ให้เปิดคำสั่งขาย (Put Option)
   *   เมื่อเกิด Bullish Divergence ให้เปิดคำสั่งซื้อ (Call Option)
  • **กลยุทธ์การเทรดร่วมกับแนวรับแนวต้าน (Support and Resistance Strategy)**:
   *   เมื่อ RSI บ่งบอกถึงสภาวะขายมากเกินไป และราคาเข้าใกล้แนวรับ ให้เปิดคำสั่งซื้อ (Call Option)
   *   เมื่อ RSI บ่งบอกถึงสภาวะซื้อมากเกินไป และราคาเข้าใกล้แนวต้าน ให้เปิดคำสั่งขาย (Put Option)
  • **กลยุทธ์การเทรดร่วมกับ Moving Average (Moving Average Strategy)**:
   *   ใช้ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Moving Average เช่น หากราคาตัดขึ้นเหนือ Moving Average และ RSI อยู่ในสภาวะขายมากเกินไป อาจเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง

การตั้งค่า RSI ที่เหมาะสม

การตั้งค่า RSI ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของสินทรัพย์และกรอบเวลาที่เทรด โดยทั่วไปแล้ว:

  • **ระยะเวลา (Period)**: ระยะเวลาที่ใช้ในการคำนวณ RSI โดยทั่วไปคือ 14 วัน แต่ผู้เทรดสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หากต้องการสัญญาณที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากขึ้น อาจลดระยะเวลาลงเหลือ 9 วัน หรือหากต้องการสัญญาณที่เสถียรมากขึ้น อาจเพิ่มระยะเวลาขึ้นเป็น 21 วัน
  • **ระดับ Overbought/Oversold**: โดยทั่วไปคือ 70/30 แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสินทรัพย์แต่ละประเภท

ข้อควรระวังในการใช้ RSI

แม้ว่า RSI จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ผู้เทรดควรทราบ:

  • **สัญญาณหลอก (False Signals)**: RSI อาจให้สัญญาณหลอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง
  • **การยืนยันสัญญาณ (Confirmation)**: ควรใช้ RSI ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณก่อนตัดสินใจเทรด
  • **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)**: การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้ RSI หรือเครื่องมืออื่นๆ ก็ตาม

ตัวอย่างการใช้ RSI ในการเทรด

สมมติว่าคุณกำลังเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD ในกรอบเวลา 15 นาที คุณสังเกตเห็นว่า RSI มีค่าต่ำกว่า 30 และกำลังดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ราคา EUR/USD ก็เข้าใกล้แนวรับที่สำคัญ คุณอาจพิจารณาเปิดคำสั่งซื้อ (Call Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะดีดตัวขึ้นจากแนวรับ

ตัวอย่างการตั้งค่า RSI
ระยะเวลา (Period) ระดับ Overbought ระดับ Oversold
9 75 25
14 70 30
21 80 20

สรุป

RSI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยให้ผู้เทรดไบนารี่ออปชั่นตัดสินใจเทรดได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น การเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน การคำนวณ การตีความสัญญาณ และการประยุกต์ใช้ RSI ในกลยุทธ์การเทรดต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค การวิเคราะห์ตลาด การบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์การเทรด การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แนวโน้มของตลาด การเบี่ยงเบน (Divergence) Moving Average MACD Bollinger Bands Fibonacci Retracement Ichimoku Cloud Parabolic SAR Stochastic Oscillator การเทรดตามแนวโน้ม การเทรดช่วงพัก การเทรดข่าว การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การจัดการเงินทุน จิตวิทยาการเทรด การเลือกโบรกเกอร์ การทำกำไรอย่างยั่งยืน การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์กราฟ การอ่านสัญญาณ การทดสอบกลยุทธ์ การปรับปรุงกลยุทธ์ การเทรดด้วยความอดทน การเรียนรู้จากความผิดพลาด การติดตามข่าวสารทางการเงิน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์อุตสาหกรรม การวิเคราะห์บริษัท การประเมินมูลค่า

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер