การทำความเข้าใจ Slippage (Slippage)

การทำความเข้าใจ Slippage (Slippage)

Slippage เป็นปรากฏการณ์ที่นักลงทุนในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร Slippage หมายถึงความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดว่าจะได้รับจากการซื้อขาย และราคาที่ได้รับจริงเมื่อคำสั่งซื้อขายนั้นได้รับการดำเนินการ ความแตกต่างนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในการเปิดและปิดสถานะการซื้อขาย และอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนโดยรวมของนักลงทุน

Slippage คืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

Slippage ไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะเจาะจงกับตลาดไบนารี่ออปชั่น แต่เกิดขึ้นได้ในตลาดการเงินทุกประเภท เช่น ตลาด ฟอเร็กซ์ ตลาดหุ้น และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สาเหตุหลักของ Slippage มีดังนี้:

ความผันผวนของตลาด (Market Volatility): เมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ราคาที่แสดงบนแพลตฟอร์มการซื้อขายอาจไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงจริง ทำให้คำสั่งซื้อขายของคุณได้รับการดำเนินการในราคาที่แตกต่างจากที่คาดหวัง
สภาพคล่อง (Liquidity): สภาพคล่องของตลาดหมายถึงปริมาณของผู้ซื้อและผู้ขายที่มีอยู่ในตลาด หากสภาพคล่องต่ำ การซื้อขายในปริมาณมากอาจทำให้ราคาขยับอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิด Slippage
ช่องว่างราคา (Price Gaps): ช่องว่างราคาเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรวดเร็ว เช่น ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่คาดฝัน ทำให้เกิดการกระโดดของราคา และ Slippage
ความเร็วในการดำเนินการ (Execution Speed): ความเร็วในการดำเนินการของโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มการซื้อขายมีผลต่อ Slippage หากการดำเนินการล่าช้า ราคาอาจเปลี่ยนแปลงไปก่อนที่คำสั่งของคุณจะได้รับการดำเนินการ
ขนาดของคำสั่งซื้อขาย (Order Size): คำสั่งซื้อขายที่มีขนาดใหญ่กว่ามักจะเผชิญกับ Slippage มากกว่าคำสั่งที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากต้องใช้เวลาในการหาคู่ค้าที่เหมาะสมในการซื้อขาย

Slippage ในตลาดไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่าตลาดไบนารี่ออปชั่นจะดูเหมือนเรียบง่าย แต่ Slippage ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ต่อไปนี้:

ช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง (High Volatility Periods): เช่น ช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ หรือช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง
สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ (Low Liquidity Assets): สินทรัพย์บางประเภทอาจมีปริมาณการซื้อขายต่ำ ทำให้เกิด Slippage ได้ง่าย
โบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องจำกัด (Brokers with Limited Liquidity): โบรกเกอร์บางรายอาจมีสภาพคล่องจำกัด ทำให้ไม่สามารถดำเนินการคำสั่งซื้อขายของคุณในราคาที่ดีที่สุดได้

ในตลาดไบนารี่ออปชั่น Slippage อาจส่งผลให้คุณได้รับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าที่คาดหวัง หรือแม้กระทั่งขาดทุนหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่เป็นใจ

ประเภทของ Slippage

Slippage สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ ได้แก่:

Slippage เชิงบวก (Positive Slippage): เกิดขึ้นเมื่อราคาที่ได้รับการดำเนินการจริงนั้นดีกว่าราคาที่คาดหวัง เช่น คุณตั้งใจจะซื้อที่ราคา 1.00 แต่ได้รับการดำเนินการที่ราคา 0.999 กรณีนี้ถือว่าเป็น Slippage เชิงบวก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคุณ
Slippage เชิงลบ (Negative Slippage): เกิดขึ้นเมื่อราคาที่ได้รับการดำเนินการจริงนั้นแย่กว่าราคาที่คาดหวัง เช่น คุณตั้งใจจะซื้อที่ราคา 1.00 แต่ได้รับการดำเนินการที่ราคา 1.001 กรณีนี้ถือว่าเป็น Slippage เชิงลบ ซึ่งส่งผลเสียต่อคุณ

โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนมักจะกังวลเกี่ยวกับ Slippage เชิงลบมากกว่า เนื่องจากส่งผลให้ผลตอบแทนลดลง หรือเกิดการขาดทุน

วิธีการจัดการและลด Slippage

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถกำจัด Slippage ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดผลกระทบของ Slippage:

เลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง (Choose a Broker with High Liquidity): โบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูงมักจะสามารถดำเนินการคำสั่งซื้อขายของคุณในราคาที่ดีที่สุดได้
หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง (Avoid Trading During High Volatility Periods): หากเป็นไปได้ หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ หรือช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง
ใช้คำสั่ง Limit (Use Limit Orders): คำสั่ง Limit ช่วยให้คุณกำหนดราคาที่คุณต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์ หากราคาไม่ถึงระดับที่คุณกำหนด คำสั่งของคุณจะไม่ได้รับการดำเนินการ ซึ่งช่วยป้องกัน Slippage ได้
ใช้คำสั่ง Market (Use Market Orders with Caution): คำสั่ง Market จะดำเนินการทันทีในราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิด Slippage สูงกว่าคำสั่ง Limit
ลดขนาดของคำสั่งซื้อขาย (Reduce Order Size): คำสั่งซื้อขายที่มีขนาดเล็กกว่ามักจะเผชิญกับ Slippage น้อยกว่าคำสั่งที่มีขนาดใหญ่
ใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม (Use Appropriate Trading Strategies): กลยุทธ์การซื้อขายบางประเภทอาจมีความเสี่ยงต่อ Slippage มากกว่ากลยุทธ์อื่นๆ เช่น กลยุทธ์ที่เน้นการซื้อขายระยะสั้น
ตรวจสอบค่า Spread (Monitor the Spread): Spread คือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย หาก Spread กว้าง แสดงว่าสภาพคล่องต่ำและมีความเสี่ยงที่จะเกิด Slippage สูง
ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Utilize Technical Analysis Tools): การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, MACD, และ RSI สามารถช่วยคุณระบุแนวโน้มของตลาดและหลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง
ทำความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์ (Understand Asset Characteristics): สินทรัพย์แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน บางสินทรัพย์มีความผันผวนสูงและสภาพคล่องต่ำ ซึ่งอาจทำให้เกิด Slippage ได้ง่าย

Slippage และกลยุทธ์การซื้อขาย

Slippage สามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น:

Scalping (Scalping): กลยุทธ์ Scalping อาศัยการทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้น Slippage แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนได้อย่างมาก กลยุทธ์ Day Trading ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
Swing Trading (Swing Trading): กลยุทธ์ Swing Trading เน้นการถือครองสถานะการซื้อขายเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ Slippage อาจมีผลกระทบน้อยกว่า Scalping แต่ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา
Trend Following (Trend Following): กลยุทธ์ Trend Following อาศัยการระบุและติดตามแนวโน้มของตลาด Slippage อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการเข้าซื้อหรือขายในราคาที่ดีที่สุด
Breakout Trading (Breakout Trading): กลยุทธ์ Breakout Trading อาศัยการซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้าน Slippage อาจทำให้คุณซื้อหรือขายในราคาที่สูงหรือต่ำเกินไป
Range Trading (Range Trading): กลยุทธ์ Range Trading อาศัยการซื้อขายเมื่อราคาเคลื่อนที่อยู่ในช่วงแคบๆ Slippage อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไร
Martingale Strategy (Martingale Strategy): กลยุทธ์ Martingale มีความเสี่ยงสูง และ Slippage สามารถเร่งการสูญเสียได้อย่างรวดเร็ว
Anti-Martingale Strategy (Anti-Martingale Strategy): กลยุทธ์ Anti-Martingale อาจได้รับประโยชน์จาก Slippage เชิงบวก แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยง
Straddle Strategy (Straddle Strategy): กลยุทธ์ Straddle มีความไวต่อความผันผวน และ Slippage สามารถส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนได้อย่างมาก
Strangle Strategy (Strangle Strategy): กลยุทธ์ Strangle คล้ายกับ Straddle แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่า Slippage ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา
Covered Call Strategy (Covered Call Strategy): กลยุทธ์ Covered Call อาจได้รับผลกระทบจาก Slippage เมื่อทำการขาย Call Option
Protective Put Strategy (Protective Put Strategy): กลยุทธ์ Protective Put อาจได้รับผลกระทบจาก Slippage เมื่อทำการซื้อ Put Option
Hedging Strategies (Hedging Strategies): กลยุทธ์ Hedging อาจใช้เพื่อลดความเสี่ยงจาก Slippage
Arbitrage Strategies (Arbitrage Strategies): กลยุทธ์ Arbitrage อาศัยการหาประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ Slippage สามารถลดผลกำไรจาก Arbitrage ได้อย่างมาก
News Trading Strategies (News Trading Strategies): กลยุทธ์ News Trading มีความเสี่ยงสูงจาก Slippage เนื่องจากตลาดมักจะผันผวนอย่างรวดเร็วเมื่อมีการประกาศข่าว
Momentum Trading Strategies (Momentum Trading Strategies): กลยุทธ์ Momentum Trading อาศัยการซื้อขายตามแนวโน้มที่แข็งแกร่ง Slippage อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการเข้าซื้อหรือขายในราคาที่ดีที่สุด

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Slippage

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) สามารถช่วยคุณประเมินความเสี่ยงของ Slippage ได้ ปริมาณการซื้อขายที่สูงมักจะบ่งบอกถึงสภาพคล่องที่สูง และความเสี่ยงของ Slippage ที่ต่ำ ในทางกลับกัน ปริมาณการซื้อขายที่ต่ำมักจะบ่งบอกถึงสภาพคล่องที่ต่ำ และความเสี่ยงของ Slippage ที่สูง

นอกจากนี้ การวิเคราะห์ Depth of Market (DOM) สามารถช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของคำสั่งซื้อและคำสั่งขายที่รอการดำเนินการ ซึ่งสามารถช่วยคุณประเมินความเสี่ยงของ Slippage ได้

สรุป

Slippage เป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนในตลาดไบนารี่ออปชั่นต้องทำความเข้าใจและจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง การหลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง การใช้คำสั่ง Limit และการใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม ล้วนเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดผลกระทบของ Slippage ได้ การทำความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายก็เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินความเสี่ยงของ Slippage

การจัดการ Slippage อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการลงทุนของคุณในตลาดไบนารี่ออปชั่น

การจัดการความเสี่ยง กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ตลาด การเลือกโบรกเกอร์ การบริหารเงินทุน (Financial Trading)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น