การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Proof-of-History (PoH)

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Proof-of-History (PoH)

Proof-of-History (PoH) คือกลไกที่คิดค้นโดย Anatoly Yakovenko ผู้ร่วมก่อตั้ง Solana blockchain ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเร็วและประสิทธิภาพของ บล็อกเชน แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องการสร้างฉันทามติ (Consensus) ที่ต้องใช้เวลาในการยืนยันธุรกรรมจำนวนมาก PoH ไม่ใช่กลไกฉันทามติโดยตรง แต่เป็นกลไกที่ช่วยให้การสร้างลำดับเวลาที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถนำไปใช้ร่วมกับกลไกฉันทามติอื่นๆ เช่น Proof-of-Stake (PoS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ

      1. ปัญหาของบล็อกเชนแบบดั้งเดิม

บล็อกเชนส่วนใหญ่ เช่น Bitcoin และ Ethereum ใช้กลไก Proof-of-Work (PoW) หรือ Proof-of-Stake (PoS) เพื่อสร้างฉันทามติเกี่ยวกับลำดับของธุรกรรม ปัญหาหลักของกลไกเหล่านี้คือการที่แต่ละโหนด (Node) ในเครือข่ายต้องสื่อสารกันเพื่อตกลงเกี่ยวกับลำดับของธุรกรรม ซึ่งใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการปรับขนาด (Scalability) และค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ การที่ต้องรอการยืนยันธุรกรรมทำให้เกิดความล่าช้าในการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานบล็อกเชนในกรณีที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ต้องการการตัดสินใจอย่างรวดเร็วตามการเปลี่ยนแปลงของราคา

      1. PoH ทำงานอย่างไร?

PoH แก้ปัญหาเหล่านี้โดยการสร้างลำดับเวลาที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการสื่อสารระหว่างโหนดในเครือข่าย แนวคิดหลักของ PoH คือการใช้ฟังก์ชันแฮช (Hash Function) ที่มีความปลอดภัยสูงและทำซ้ำได้ (Reproducible) เพื่อสร้าง “ประวัติ” (History) ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบ

กระบวนการทำงานของ PoH สามารถสรุปได้ดังนี้:

1. **ฟังก์ชันแฮช:** PoH ใช้ฟังก์ชันแฮชแบบ Cryptographic Hash Function ซึ่งมีคุณสมบัติที่สำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงอินพุตเพียงเล็กน้อยจะส่งผลให้ค่าแฮชเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และการคำนวณค่าแฮชจากอินพุตเดิมจะต้องได้ค่าแฮชเดิมเสมอ (Deterministic) 2. **Sequential Hashing:** PoH สร้างลำดับของค่าแฮชโดยการนำค่าแฮชก่อนหน้ามาเป็นอินพุตของฟังก์ชันแฮชอีกครั้ง ทำซ้ำกระบวนการนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดเป็น “ลูกโซ่” ของค่าแฮชที่เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง 3. **Verifiable Delay Function (VDF):** PoH ใช้ VDF ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ต้องใช้เวลาในการคำนวณเป็นระยะเวลาที่กำหนด แต่สามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว VDF ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการสร้างค่าแฮชแต่ละค่าต้องใช้เวลาที่แน่นอน ซึ่งช่วยในการสร้างลำดับเวลาที่น่าเชื่อถือ 4. **การสร้างลำดับเวลา:** โดยการนำเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การทำธุรกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงสถานะของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) มาเป็นอินพุตของฟังก์ชันแฮชและสร้างลำดับเวลาของค่าแฮช PoH สามารถสร้างลำดับเหตุการณ์ที่เรียงตามลำดับเวลาได้อย่างแม่นยำ 5. **การตรวจสอบ:** โหนดใดๆ ในเครือข่ายสามารถตรวจสอบลำดับเวลาของเหตุการณ์ได้โดยการคำนวณค่าแฮชเองและเปรียบเทียบกับค่าแฮชที่ถูกบันทึกไว้ในระบบ หากค่าแฮชตรงกัน แสดงว่าลำดับเหตุการณ์นั้นถูกต้องและน่าเชื่อถือ

      1. ข้อดีของ PoH
  • **ความเร็ว:** PoH ช่วยลดเวลาในการสร้างฉันทามติได้อย่างมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องรอการสื่อสารระหว่างโหนดในเครือข่าย
  • **ประสิทธิภาพ:** PoH ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบล็อกเชนโดยรวม เนื่องจากสามารถประมวลผลธุรกรรมได้จำนวนมากต่อวินาที
  • **ความปลอดภัย:** PoH มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้ฟังก์ชันแฮชแบบ Cryptographic Hash Function ที่มีความปลอดภัยสูง
  • **ความน่าเชื่อถือ:** PoH สร้างลำดับเวลาที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมทั้งหมดถูกบันทึกไว้ตามลำดับเวลาที่ถูกต้อง
      1. ข้อเสียของ PoH
  • **ความซับซ้อน:** PoH เป็นกลไกที่ซับซ้อนและยากต่อการทำความเข้าใจ
  • **การพึ่งพา VDF:** PoH พึ่งพา VDF ซึ่งอาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ
  • **การกระจายอำนาจ:** การออกแบบ PoH อาจนำไปสู่การรวมศูนย์อำนาจในมือของผู้ให้บริการ VDF
      1. การประยุกต์ใช้ PoH ใน Solana

Solana เป็นบล็อกเชนที่ใช้ PoH เป็นกลไกหลักในการสร้างลำดับเวลาของธุรกรรม Solana ผสมผสาน PoH เข้ากับ Tower BFT ซึ่งเป็นกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake เพื่อสร้างระบบที่รวดเร็ว ปลอดภัย และปรับขนาดได้

ใน Solana โหนดที่เรียกว่า “Leader” จะเป็นผู้สร้างค่าแฮชและบันทึกธุรกรรมลงในบล็อก โหนดอื่นๆ ในเครือข่ายจะตรวจสอบความถูกต้องของค่าแฮชและยืนยันธุรกรรม การใช้ PoH ช่วยให้ Solana สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากกว่า 50,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ซึ่งสูงกว่าบล็อกเชนอื่นๆ อย่างมาก

      1. PoH กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การประยุกต์ใช้ PoH ในบล็อกเชนที่รองรับการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น สามารถช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าในการทำธุรกรรมและค่าธรรมเนียมที่สูง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการซื้อขายที่มีความรวดเร็วและต้องการความแม่นยำสูง

  • **การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว:** PoH ช่วยให้การทำธุรกรรมซื้อขายไบนารี่ออปชั่นสามารถทำได้รวดเร็วขึ้น ทำให้เทรดเดอร์สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างทันท่วงที
  • **ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ:** PoH ช่วยลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ทำให้เทรดเดอร์สามารถลดต้นทุนในการซื้อขาย
  • **ความโปร่งใสและความปลอดภัย:** บล็อกเชนที่ใช้ PoH มีความโปร่งใสและปลอดภัย ทำให้เทรดเดอร์สามารถมั่นใจได้ว่าธุรกรรมของตนจะถูกบันทึกไว้ตามลำดับเวลาที่ถูกต้องและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
      1. กลยุทธ์การซื้อขายที่อาจได้รับประโยชน์จาก PoH
  • **Scalping:** กลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่อาศัยการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย การทำธุรกรรมที่รวดเร็วที่ PoH ช่วยให้เป็นไปได้จะช่วยให้กลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Scalping
  • **Day Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่เปิดและปิดสถานะภายในวันเดียว การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร Day Trading
  • **News Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่อาศัยการตอบสนองต่อข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ การทำธุรกรรมที่รวดเร็วจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าทำรายการก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว News Trading
  • **Arbitrage:** กลยุทธ์การซื้อขายที่อาศัยการหาประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ การทำธุรกรรมที่รวดเร็วจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากโอกาส arbitrage ได้ทันที Arbitrage
  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การใช้เครื่องมือและรูปแบบในการวิเคราะห์กราฟราคาเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุโอกาสในการซื้อขาย การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
  • **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนและระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการกลับตัว Bollinger Bands
  • **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและจุดตัดสัญญาณ Moving Averages
  • **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป RSI
  • **Fibonacci Retracements:** ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracements
  • **Elliott Wave Theory:** ใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคาและคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต Elliott Wave Theory
  • **Ichimoku Cloud:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้ม, แนวรับ, แนวต้าน และสัญญาณการซื้อขาย Ichimoku Cloud
  • **Candlestick Patterns:** ใช้เพื่อระบุรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการดำเนินต่อไปของแนวโน้ม Candlestick Patterns
  • **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น Trend Following
  • **Mean Reversion:** การซื้อขายโดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย Mean Reversion
      1. สรุป

Proof-of-History (PoH) เป็นกลไกที่ช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของบล็อกเชน โดยการสร้างลำดับเวลาที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ PoH มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาความล่าช้าและค่าธรรมเนียมที่สูงในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น และช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ PoH จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของเทคโนโลยีบล็อกเชนและโอกาสในการใช้งานในตลาดการเงินได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

บล็อกเชน Proof-of-Work Proof-of-Stake Bitcoin Ethereum Smart Contract Solana Tower BFT Scalping Day Trading News Trading Arbitrage การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Bollinger Bands Moving Averages Relative Strength Index (RSI) Fibonacci Retracements Elliott Wave Theory Ichimoku Cloud Candlestick Patterns Trend Following Mean Reversion

ตัวอย่างเปรียบเทียบกลไกฉันทามติ
กลไกฉันทามติ ความเร็ว ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย
Proof-of-Work (PoW) ช้า ต่ำ สูง
Proof-of-Stake (PoS) ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง
Proof-of-History (PoH) เร็วมาก สูง สูง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер