การซื้อขาย Breakout (Breakout Trading)

1. การซื้อขาย Breakout (Breakout Trading)

การซื้อขาย Breakout เป็นกลยุทธ์ยอดนิยมในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ที่นักเทรดใช้เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ทะลุระดับสำคัญ แนวต้าน (Resistance) และแนวรับ (Support) บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้ รวมถึงวิธีการระบุ Breakout, การยืนยันสัญญาณ, การจัดการความเสี่ยง และข้อควรระวังต่างๆ สำหรับนักเทรดมือใหม่

ความหมายของการซื้อขาย Breakout

Breakout เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์ทะลุผ่านระดับแนวรับหรือแนวต้านที่เคยเป็นจุดหยุดของราคาในช่วงก่อนหน้า การทะลุนี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม (Momentum) และอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและมีนัยสำคัญ นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ Breakout จะพยายามเข้าสู่ตลาดในทิศทางของการทะลุนั้น เพื่อทำกำไรจากราคาที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางนั้น

แนวคิดพื้นฐานคือ การที่ราคาพยายามทดสอบแนวรับหรือแนวต้านหลายครั้ง หากการทดสอบนั้นไม่สำเร็จ และในที่สุดราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านนั้น แสดงว่ามีแรงซื้อหรือแรงขายที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะเอาชนะแรงกดดันก่อนหน้าได้

การระบุแนวรับและแนวต้าน

การระบุแนวรับและแนวต้านเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการซื้อขาย Breakout มีหลายวิธีในการระบุแนวรับและแนวต้าน:

**แนวรับและแนวต้านแนวนอน (Horizontal Support and Resistance):** มองหาจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดก่อนหน้าที่ราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง แนวรับคือระดับราคาที่ราคาเคยลงมาแล้วแต่ไม่สามารถทะลุลงไปได้ ส่วนแนวต้านคือระดับราคาที่ราคาเคยขึ้นไปแล้วแต่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้
**แนวรับและแนวต้านแนวโน้ม (Trendline Support and Resistance):** ลากเส้นเชื่อมต่อจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจุดสูงสุดที่ต่ำลง (สำหรับแนวโน้มขาลง) เส้นเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้านแบบไดนามิก
**ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages):** ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นเครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่นิยมใช้ในการระบุแนวรับและแนวต้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว (เช่น 50 วัน หรือ 200 วัน)
**ระดับ Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ โดยอิงจากสัดส่วนทางคณิตศาสตร์ที่พบในธรรมชาติ
**Pivot Points:** Pivot Points เป็นวิธีการคำนวณระดับแนวรับและแนวต้านโดยใช้ราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด

สัญญาณ Breakout ที่ควรสังเกต

การระบุ Breakout ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป การตรวจสอบสัญญาณยืนยันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก (False Breakout) สัญญาณที่ควรสังเกตมีดังนี้:

**การทะลุที่ชัดเจน (Clear Break):** ราคาต้องทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่แตะแล้วถอยกลับ
**ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น (Increased Volume):** ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นขณะที่เกิด Breakout บ่งบอกถึงความสนใจและความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหว
**การยืนยันด้วยเครื่องมืออื่นๆ (Confirmation with Other Indicators):** ใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค อื่นๆ เช่น RSI (Relative Strength Index), MACD (Moving Average Convergence Divergence) หรือ Stochastic Oscillator เพื่อยืนยันสัญญาณ Breakout
**รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** มองหารูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นหรือขาลง เช่น Engulfing Pattern, Morning Star, หรือ Evening Star
**การกลับเป็นแนวรับ/แนวต้านใหม่ (Retest as New Support/Resistance):** หลังจากทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านแล้ว ราคาควรกลับมาทดสอบแนวรับ/แนวต้านเดิม ซึ่งปัจจุบันจะกลายเป็นแนวรับ/แนวต้านใหม่

กลยุทธ์การซื้อขาย Breakout ในไบนารี่ออปชั่น

มีหลายกลยุทธ์การซื้อขาย Breakout ที่สามารถนำไปใช้ในตลาด ไบนารี่ออปชั่น ได้:

**Breakout แบบง่าย (Simple Breakout):** เมื่อราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้าน ให้เปิด Position ในทิศทางของการทะลุ
**Breakout พร้อมการยืนยันปริมาณการซื้อขาย (Breakout with Volume Confirmation):** รอให้เกิด Breakout พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น จากนั้นจึงเปิด Position
**Breakout พร้อม Retest (Breakout with Retest):** รอให้เกิด Breakout และราคาถอยกลับมาทดสอบแนวรับ/แนวต้านเดิมก่อนที่จะเปิด Position
**Breakout ลวง (Fakeout Filter):** ใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย เพื่อกรองสัญญาณหลอก โดยดูว่าปริมาณการซื้อขายลดลงเมื่อเกิดการทะลุ ซึ่งอาจบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณหลอก
**Breakout ในกรอบช่วงราคา (Range Breakout):** ระบุช่วงราคาที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ (sideways) เมื่อราคาทะลุผ่านขอบบนหรือขอบล่างของช่วงราคา ให้เปิด Position ในทิศทางของการทะลุ

การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย Breakout

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย Breakout เนื่องจากสัญญาณหลอกอาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง:

**Stop-Loss:** ตั้งค่า Stop-Loss ที่ระดับที่เหมาะสม เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้
**Take-Profit:** ตั้งค่า Take-Profit เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมายที่กำหนด
**ขนาด Position (Position Sizing):** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้
**การกระจายความเสี่ยง (Diversification):** อย่าลงทุนทั้งหมดในสินทรัพย์เดียว กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ
**การใช้บัญชี Demo (Demo Account):** ฝึกฝนกลยุทธ์ Breakout ในบัญชี Demo ก่อนที่จะใช้เงินจริง

ข้อควรระวังในการซื้อขาย Breakout

**สัญญาณหลอก (False Breakout):** เป็นเรื่องปกติที่ราคาจะทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านแล้วถอยกลับมา ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้นจึงควรยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมืออื่นๆ
**สภาพคล่อง (Liquidity):** ในบางสินทรัพย์ สภาพคล่องอาจต่ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดการ Slippage (ความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังกับราคาที่ได้รับจริง)
**ข่าวสารและเหตุการณ์ (News and Events):** ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
**ความผันผวน (Volatility):** ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้เกิด Breakout ที่ไม่แม่นยำ ดังนั้นจึงควรปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด

ตัวอย่างการซื้อขาย Breakout

สมมติว่าคุณกำลังสังเกตราคาของหุ้น ABC และพบว่าราคาได้สร้างแนวต้านที่ 50 บาท หลายครั้งที่ราคาพยายามขึ้นไปทะลุ 50 บาท แต่ก็ไม่สำเร็จ

**สถานการณ์:** ราคาหุ้น ABC เคลื่อนไหวอยู่ใกล้กับแนวต้านที่ 50 บาท
**สัญญาณ:** ในวันหนึ่ง ราคาหุ้น ABC ทะลุผ่าน 50 บาท พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
**กลยุทธ์:** คุณตัดสินใจเปิด Position Call Option (ซื้อ) โดยคาดหวังว่าราคาจะขึ้นต่อไป
**การจัดการความเสี่ยง:** คุณตั้งค่า Stop-Loss ที่ 49.50 บาท และ Take-Profit ที่ 51 บาท

ตัวอย่างการซื้อขาย Breakout
สินทรัพย์	หุ้น ABC
แนวต้าน	50 บาท
สัญญาณ	ทะลุพร้อม Volume เพิ่มขึ้น
ประเภท Option	Call Option (ซื้อ)
Stop-Loss	49.50 บาท
Take-Profit	51 บาท

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

สรุป

การซื้อขาย Breakout เป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการทำกำไร แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน การระบุแนวรับและแนวต้านอย่างถูกต้อง การยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมืออื่นๆ และการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการซื้อขาย Breakout นักเทรดควรฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์นี้ในบัญชี Demo ก่อนที่จะใช้เงินจริง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น