การซื้อขายปริมาณ (Volume Analysis)

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การซื้อขายปริมาณ (Volume Analysis) ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะขึ้นหรือลงภายในระยะเวลาที่กำหนด แม้ว่าการวิเคราะห์ราคา (Price Action) จะมีความสำคัญ แต่การทำความเข้าใจ **ปริมาณการซื้อขาย (Volume)** ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเน้นที่การนำไปประยุกต์ใช้กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

      1. ปริมาณการซื้อขายคืออะไร?

ปริมาณการซื้อขายหมายถึงจำนวนสัญญาหรือหน่วยของสินทรัพย์ที่ซื้อขายในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น วันละ 1,000 สัญญา หรือชั่วโมงละ 500 สัญญา ปริมาณการซื้อขายไม่ใช่แค่ตัวเลขที่แสดงถึงความคึกคักของตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม (Trend) และศักยภาพในการเคลื่อนไหวของราคาอีกด้วย

  • **ปริมาณสูง:** มักบ่งบอกถึงความสนใจและความเชื่อมั่นในทิศทางของราคาที่แข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นด้วยปริมาณสูงมีแนวโน้มที่จะต่อเนื่อง
  • **ปริมาณต่ำ:** อาจบ่งบอกถึงความลังเลหรือการขาดความเชื่อมั่นในตลาด การเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นด้วยปริมาณต่ำอาจเป็นเพียงการแกว่งตัวชั่วคราว และมีโอกาสที่จะกลับตัวได้ง่าย
      1. ทำไมปริมาณการซื้อขายจึงสำคัญในไบนารี่ออปชั่น?

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความแตกต่างจากการซื้อขายแบบดั้งเดิมตรงที่ผู้ค้าไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยตรง แต่เป็นการคาดการณ์ทิศทางของราคาเท่านั้น ดังนั้น การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการ:

  • **ยืนยันแนวโน้ม:** ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มที่แข็งแกร่งจะช่วยยืนยันว่าแนวโน้มนั้นมีความน่าเชื่อถือและมีศักยภาพในการดำเนินต่อไป การยืนยันแนวโน้ม
  • **ระบุจุดกลับตัว:** การลดลงของปริมาณการซื้อขายในขณะที่ราคายังคงเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิม อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มกำลังอ่อนแอและอาจมีการกลับตัวเกิดขึ้น การระบุจุดกลับตัว
  • **ประเมินความแข็งแกร่งของการทะลุแนวต้าน/แนวรับ:** การทะลุแนวต้านหรือแนวรับ (Support/Resistance) ที่มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการทะลุ และมีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางที่ทะลุออกมา แนวต้านและแนวรับ
  • **หลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก (False Signals):** ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยกรองสัญญาณหลอกที่อาจเกิดขึ้นจากการแกว่งตัวของราคาแบบสุ่ม สัญญาณหลอก
      1. เครื่องมือและตัวบ่งชี้ปริมาณการซื้อขาย

มีเครื่องมือและตัวบ่งชี้ (Indicators) หลายประเภทที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายได้:

  • **Volume Bars:** แสดงปริมาณการซื้อขายในแต่ละช่วงเวลา (เช่น แท่งเทียนแต่ละแท่ง) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่สุดในการวิเคราะห์ปริมาณ แท่งเทียน
  • **On Balance Volume (OBV):** เป็นตัวบ่งชี้ที่สะสมปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาเพิ่มขึ้น และลดปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาลดลง ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขาย On Balance Volume
  • **Volume Weighted Average Price (VWAP):** เป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการซื้อขาย ใช้เพื่อระบุระดับราคาที่สำคัญและประเมินความคุ้มค่าของราคา Volume Weighted Average Price
  • **Accumulation/Distribution Line (A/D Line):** คล้ายกับ OBV แต่พิจารณาตำแหน่งของราคาภายในช่วงเวลาด้วย ใช้เพื่อระบุการสะสมหรือการกระจายของสินทรัพย์ Accumulation/Distribution Line
  • **Money Flow Index (MFI):** เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่พิจารณาทั้งราคาและปริมาณการซื้อขาย ใช้เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) Money Flow Index
      1. กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นโดยใช้การวิเคราะห์ปริมาณ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่ใช้การวิเคราะห์ปริมาณ:

1. **การยืนยันแนวโน้มด้วย OBV:** หากราคามีแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และ OBV ก็สูงขึ้นด้วย แสดงว่าแนวโน้มนั้นมีความแข็งแกร่งและมีโอกาสที่จะดำเนินต่อไป สามารถเปิดสถานะ Call Option ได้ แนวโน้มขาขึ้น 2. **การระบุการกลับตัวด้วย Volume Spike:** หากราคามีแนวโน้มขาขึ้น แต่เกิด Volume Spike (ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว) พร้อมกับการลดลงของราคา อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มกำลังจะกลับตัว สามารถเปิดสถานะ Put Option ได้ แนวโน้มขาลง 3. **การยืนยันการทะลุแนวต้านด้วย Volume:** หากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไป และมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ย แสดงว่าการทะลุนั้นมีความแข็งแกร่งและมีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางขาขึ้น สามารถเปิดสถานะ Call Option ได้ การทะลุแนวต้าน 4. **การใช้ VWAP เพื่อหาจุดเข้าซื้อ/ขาย:** หากราคาทดสอบ VWAP และมีการเด้งกลับขึ้นมา แสดงว่า VWAP เป็นระดับแนวรับที่แข็งแกร่ง สามารถเปิดสถานะ Call Option ได้ การทดสอบแนวรับ 5. **การรวม Volume กับรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การรวมการวิเคราะห์ปริมาณเข้ากับรูปแบบแท่งเทียน เช่น การเกิด Doji พร้อมกับ Volume ที่ลดลง อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่น่าเชื่อถือ รูปแบบแท่งเทียน 6. **กลยุทธ์ Breakout ที่ยืนยันด้วย Volume:** รอการทะลุแนวต้านหรือแนวรับ และยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเปิดสถานะ กลยุทธ์ Breakout 7. **กลยุทธ์ Volume Confirmation:** ใช้ OBV หรือ A/D Line เพื่อยืนยันการเคลื่อนไหวของราคา หากราคาขึ้นแต่ OBV ไม่ขึ้น อาจเป็นสัญญาณเตือน กลยุทธ์ Volume Confirmation 8. **กลยุทธ์ Divergence:** สังเกตความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขาย (Divergence) เช่น ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ปริมาณการซื้อขายลดลง อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว กลยุทธ์ Divergence 9. **กลยุทธ์ Volume Spread Analysis (VSA):** วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคา, ปริมาณการซื้อขาย และ Spread (ช่วงราคา) เพื่อทำความเข้าใจแรงซื้อขายในตลาด Volume Spread Analysis 10. **กลยุทธ์ Volume Profile:** ใช้ Volume Profile เพื่อระบุระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด ซึ่งอาจเป็นระดับแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญ Volume Profile 11. **กลยุทธ์ High Volume Reversal:** มองหาการเกิดแท่งเทียนที่มี Volume สูงและมีการกลับตัวของราคา กลยุทธ์ High Volume Reversal 12. **กลยุทธ์ Low Volume Consolidation:** สังเกตช่วงที่ Volume ต่ำและราคามีการเคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ กลยุทธ์ Low Volume Consolidation 13. **กลยุทธ์ Volume Climax:** มองหา Volume ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดแนวโน้ม กลยุทธ์ Volume Climax 14. **กลยุทธ์ Volume Ratio:** เปรียบเทียบ Volume ของแท่งเทียนขาขึ้นและขาลงเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม กลยุทธ์ Volume Ratio 15. **กลยุทธ์ Volume & Moving Average:** ใช้ Volume ร่วมกับ Moving Average เพื่อยืนยันสัญญาณซื้อ/ขาย กลยุทธ์ Volume & Moving Average

      1. ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ปริมาณ
  • **ปริมาณการซื้อขายอาจไม่สอดคล้องกับราคาเสมอไป:** บางครั้งอาจเกิดการเคลื่อนไหวของราคาโดยที่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมากนัก ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ข่าวสารสำคัญ หรือการเก็งกำไร
  • **ปริมาณการซื้อขายอาจถูกบิดเบือนได้:** ในบางตลาด ปริมาณการซื้อขายอาจถูกรายงานไม่ถูกต้อง หรือถูกปั่นโดยผู้ค้าบางราย
  • **การวิเคราะห์ปริมาณควรใช้ร่วมกับเครื่องมือและเทคนิคอื่นๆ:** การพึ่งพาการวิเคราะห์ปริมาณเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น การวิเคราะห์แนวโน้ม, การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน, และการวิเคราะห์ Fibonacci Fibonacci
      1. สรุป

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยให้ผู้ค้าไบนารี่ออปชั่นตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น การทำความเข้าใจความหมายของปริมาณการซื้อขาย การใช้เครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่เหมาะสม และการนำกลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้การวิเคราะห์ปริมาณไปประยุกต์ใช้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการซื้อขายได้

การบริหารความเสี่ยง การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และการเรียนรู้จากประสบการณ์ จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ประสบความสำเร็จ

ตัวอย่างการเปรียบเทียบปริมาณการซื้อขายกับสถานการณ์การซื้อขาย
สถานการณ์ ปริมาณการซื้อขาย การตีความ การตัดสินใจ
แนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่ง สูงขึ้นเรื่อยๆ ยืนยันแนวโน้ม เปิดสถานะ Call Option
แนวโน้มขาลง ลดลงเรื่อยๆ สัญญาณเตือนการกลับตัว เปิดสถานะ Put Option
ทะลุแนวต้าน สูงกว่าค่าเฉลี่ย การทะลุที่แข็งแกร่ง เปิดสถานะ Call Option
ทดสอบแนวรับ ปานกลาง แนวรับที่แข็งแกร่ง เปิดสถานะ Call Option
การแกว่งตัวของราคา ต่ำ สัญญาณหลอก หลีกเลี่ยงการซื้อขาย

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การบริหารเงินทุน การอ่านกราฟราคา การทำความเข้าใจความเสี่ยง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер