Investopedia: Forex Trading
- Investopedia: Forex Trading
บทนำ
Forex หรือ Foreign Exchange คือตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ การซื้อขาย Forex ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากโอกาสในการทำกำไรที่สูง ความผันผวน และการเข้าถึงที่ง่ายผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขาย Forex ตามข้อมูลจาก Investopedia โดยเน้นสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงแนวคิดพื้นฐาน กลไกการทำงาน ปัจจัยที่มีผลต่อราคา และกลยุทธ์การซื้อขายที่สำคัญ
Forex คืออะไร?
Forex ไม่ได้มีสถานที่ตั้งทางกายภาพเหมือนตลาดหุ้น แต่เป็นการซื้อขายแบบ Over-the-Counter (OTC) ซึ่งหมายถึงการซื้อขายโดยตรงระหว่างผู้เข้าร่วมตลาดผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เริ่มต้นจากซิดนีย์ในวันจันทร์และสิ้นสุดที่นิวยอร์กในวันศุกร์ ทำให้ผู้ค้าสามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา
สกุลเงินจะซื้อขายเป็นคู่สกุลเงิน (Currency Pair) เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือ GBP/JPY (ปอนด์สเตอร์ลิง/เยนญี่ปุ่น) สกุลเงินแรกในคู่คือสกุลเงินหลัก (Base Currency) และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency) ราคาที่แสดงคือจำนวนสกุลเงินอ้างอิงที่ต้องใช้ในการซื้อ 1 หน่วยของสกุลเงินหลัก
กลไกการทำงานของ Forex
การซื้อขาย Forex เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ทิศทางราคาของคู่สกุลเงิน หากผู้ค้าเชื่อว่าสกุลเงินหลักจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง พวกเขาจะทำการ "ซื้อ" (Buy) หรือ "Long" คู่สกุลเงินนั้น หากพวกเขาเชื่อว่าสกุลเงินหลักจะอ่อนค่าลง พวกเขาจะทำการ "ขาย" (Sell) หรือ "Short" คู่สกุลเงินนั้น
กำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขาย Forex เกิดจากความแตกต่างของราคา ณ เวลาที่เปิดและปิดสถานะ (Trade) ตัวอย่างเช่น หากผู้ค้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.1000 และปิดสถานะที่ราคา 1.1050 พวกเขาจะทำกำไร 50 pips (จุด) ในทางกลับกัน หากปิดสถานะที่ราคา 1.0950 พวกเขาจะขาดทุน 50 pips
ปัจจัยที่มีผลต่อราคา Forex
มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อราคา Forex ได้แก่:
- **ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ:** ข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP), อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน, และอัตราดอกเบี้ย มีผลกระทบอย่างมากต่อค่าสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น หากอัตราดอกเบี้ยของประเทศหนึ่งสูงขึ้น สกุลเงินของประเทศนั้นมักจะแข็งค่าขึ้น
- **นโยบายการเงิน:** การตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่น การปรับขึ้นหรือลดลงอัตราดอกเบี้ย หรือการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) สามารถส่งผลกระทบต่อค่าสกุลเงิน
- **เหตุการณ์ทางการเมือง:** เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สามารถสร้างความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อค่าสกุลเงิน
- **ความเชื่อมั่นของตลาด:** ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจและสกุลเงินสามารถมีผลต่อราคา Forex ได้
- **อุปสงค์และอุปทาน:** เช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ราคา Forex ถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน
คำศัพท์สำคัญในการซื้อขาย Forex
- **Pip (Point in Percentage):** หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุดใน Forex โดยปกติคือทศนิยมตำแหน่งที่สี่สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่
- **Spread:** ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขาย (Ask Price) และราคาเสนอซื้อ (Bid Price)
- **Leverage (อัตราทด):** การใช้เงินทุนยืมเพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขาย Leverage สามารถเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุนได้
- **Margin (หลักประกัน):** จำนวนเงินที่ผู้ค้าต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเปิดสถานะการซื้อขาย
- **Lot Size:** ขนาดของการซื้อขายมาตรฐานใน Forex โดยปกติคือ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
กลยุทธ์การซื้อขาย Forex ที่สำคัญ
มีกลยุทธ์การซื้อขาย Forex มากมายที่ผู้ค้าสามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตัวอย่างกลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่:
- **Scalping:** การทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ
- **Day Trading:** การเปิดและปิดสถานะภายในวันเดียวกัน
- **Swing Trading:** การถือสถานะเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ใหญ่ขึ้น
- **Position Trading:** การถือสถานะเป็นเวลานานหลายเดือนหรือหลายปีเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มระยะยาว
- **Breakout Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับ
- **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
- **Range Trading:** การซื้อขายภายในกรอบราคาที่กำหนด
- **Carry Trade:** การกู้ยืมสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและลงทุนในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
- **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ Fibonacci Retracement
- **Moving Average Crossover:** การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย Moving Average
- **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ระบุสัญญาณการซื้อขาย MACD
- **RSI (Relative Strength Index):** ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป RSI
- **Elliott Wave Theory:** การวิเคราะห์รูปแบบคลื่นเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา Elliott Wave Theory
- **Ichimoku Cloud:** ระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครอบคลุม Ichimoku Cloud
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน
ในการซื้อขาย Forex ผู้ค้ามักจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อช่วยในการตัดสินใจ:
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การศึกษาแผนภูมิราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อระบุรูปแบบ แนวโน้ม และสัญญาณการซื้อขาย Technical Analysis
- **การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองเพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสกุลเงิน Fundamental Analysis
การบริหารความเสี่ยง
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย Forex เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง ผู้ค้าควรใช้เทคนิคการบริหารความเสี่ยง เช่น:
- **Stop-Loss Order:** คำสั่งให้ปิดสถานะโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดเพื่อจำกัดการขาดทุน
- **Take-Profit Order:** คำสั่งให้ปิดสถานะโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดเพื่อล็อคกำไร
- **Position Sizing:** การกำหนดขนาดของการซื้อขายให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- **Risk/Reward Ratio:** การประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เป็นไปได้ของการซื้อขาย
โบรกเกอร์ Forex
การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ โบรกเกอร์ Forex จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อผู้ค้ากับตลาด Forex สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ ได้แก่:
- **Regulation (การกำกับดูแล):** ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เชื่อถือได้
- **Spreads and Commissions (ส่วนต่างและค่าธรรมเนียม):** เปรียบเทียบส่วนต่างและค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ต่างๆ
- **Trading Platform (แพลตฟอร์มการซื้อขาย):** เลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติที่จำเป็น
- **Customer Support (การสนับสนุนลูกค้า):** ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีการสนับสนุนลูกค้าที่ดี
Forex กับ Binary Options
แม้ว่าทั้ง Forex และ Binary Options จะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายทางการเงิน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ Forex เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคู่สกุลเงินโดยมีเป้าหมายที่จะทำกำไรจากความแตกต่างของราคา ในขณะที่ Binary Options เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะขึ้นหรือลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ถูกต้อง ผู้ค้าจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากไม่ถูกต้อง ผู้ค้าจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
สรุป
การซื้อขาย Forex เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และการบริหารความเสี่ยงที่ดี ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้แนวคิดพื้นฐาน ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชีทดลอง และค่อยๆ เพิ่มขนาดของการซื้อขายเมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น การศึกษาอย่างต่อเนื่องและการปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว
| ! คำอธิบาย | | ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ - คู่สกุลเงินที่ซื้อขายมากที่สุดในโลก | | ดอลลาร์สหรัฐฯ/เยนญี่ปุ่น - คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมาก | | ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐฯ - คู่สกุลเงินที่มีความผันผวนสูง | | ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐฯ - คู่สกุลเงินที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ | | ดอลลาร์สหรัฐฯ/ฟรังก์สวิส - คู่สกุลเงินที่มักถูกใช้เป็น "Safe Haven" | |
การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง การจัดการเงินทุนใน Forex จิตวิทยาการซื้อขาย Forex ข่าวสาร Forex ที่มีผลกระทบ
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
