International Law

1. 1. กฎหมายระหว่างประเทศ: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

กฎหมายระหว่างประเทศ (International Law) เป็นชุดของกฎเกณฑ์และหลักการที่ควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ องค์กรระหว่างประเทศ และในบางกรณี บุคคล กฎหมายระหว่างประเทศแตกต่างจากกฎหมายภายในประเทศ (Domestic Law) ซึ่งควบคุมพฤติกรรมของบุคคลภายในรัฐหนึ่งๆ กฎหมายระหว่างประเทศมีลักษณะพิเศษในหลายด้าน ทั้งในเรื่องแหล่งที่มา การบังคับใช้ และความซับซ้อนของเนื้อหา บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของกฎหมายระหว่างประเทศสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมแหล่งที่มา หลักการพื้นฐาน สาขาต่างๆ และประเด็นร่วมสมัยที่สำคัญ

1. 1. 1. แหล่งที่มาของกฎหมายระหว่างประเทศ

กฎหมายระหว่างประเทศไม่ได้เกิดจากสถาบันนิติบัญญัติระดับโลกเพียงแห่งเดียว แต่มีแหล่งที่มาที่หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลักๆ ได้ดังนี้:

• **สนธิสัญญา (Treaties):** เป็นข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่างรัฐสองรัฐหรือมากกว่า โดยมีเจตนาที่จะสร้างพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาอาจมีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น อนุสัญญา, พิธีสาร, ข้อตกลง เป็นต้น ตัวอย่างเช่น อนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต (Vienna Convention on Diplomatic Relations) เป็นสนธิสัญญาที่กำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ทูต
• **ประเพณีระหว่างประเทศ (Customary International Law):** เกิดจากการปฏิบัติที่สม่ำเสมอและต่อเนื่องของรัฐต่างๆ โดยมีเจตนาที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย (State Practice) และได้รับการยอมรับโดยรัฐส่วนใหญ่ในฐานะที่เป็นกฎหมาย (Opinio Juris) ตัวอย่างเช่น หลักการอธิปไตยของรัฐ (State Sovereignty) เป็นประเพณีระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
• **หลักการทั่วไปของกฎหมาย (General Principles of Law):** เป็นหลักการทางกฎหมายที่ได้รับการยอมรับโดยระบบกฎหมายภายในประเทศส่วนใหญ่ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในระดับระหว่างประเทศได้ ตัวอย่างเช่น หลักความยุติธรรม (Equity) และหลักความซื่อสัตย์สุจริต (Good Faith)
• **การตัดสินของศาลระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ (Judicial Decisions and Writings of Publicists):** ถึงแม้จะไม่ใช่แหล่งที่มาหลัก แต่การตัดสินของศาลระหว่างประเทศ เช่น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) และการเขียนของนักวิชาการกฎหมายระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียง สามารถใช้เป็นหลักในการตีความกฎหมายระหว่างประเทศได้

1. 1. 1. หลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ

กฎหมายระหว่างประเทศมีหลักการพื้นฐานหลายประการที่กำหนดกรอบความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ:

• **อธิปไตยของรัฐ (State Sovereignty):** เป็นหลักการที่ว่ารัฐแต่ละรัฐมีอำนาจสูงสุดในการปกครองดินแดนและประชากรของตน โดยไม่มีรัฐอื่นเข้ามาแทรกแซง อย่างไรก็ตาม อธิปไตยไม่ได้หมายถึงอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด รัฐต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศด้วย
• **ความเสมอภาคของรัฐ (Sovereign Equality of States):** เป็นหลักการที่ว่ารัฐแต่ละรัฐมีสถานะทางกฎหมายเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะมีขนาด ประชากร หรือเศรษฐกิจที่แตกต่างกันก็ตาม
• **การไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐอื่น (Non-Intervention):** เป็นหลักการที่ว่ารัฐหนึ่งไม่ควรเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของรัฐอื่น เช่น การสนับสนุนกลุ่มกบฏ หรือการแทรกแซงการเลือกตั้ง
• **การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี (Peaceful Settlement of Disputes):** เป็นหลักการที่ว่ารัฐต่างๆ ควรระงับข้อพิพาทระหว่างกันโดยวิธีการทางการทูต เช่น การเจรจา การไกล่เกลี่ย หรือการอนุญาโตตุลาการ
• **การปฏิบัติตามสนธิสัญญา (Pacta Sunt Servanda):** เป็นหลักการที่ว่ารัฐต่างๆ ต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาที่ตนได้ลงนามรับรองไว้

1. 1. 1. สาขาของกฎหมายระหว่างประเทศ

กฎหมายระหว่างประเทศมีความหลากหลายและครอบคลุมหลายสาขา:

• **กฎหมายระหว่างประเทศมหาชน (Public International Law):** ควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ องค์กรระหว่างประเทศ และบุคคลในฐานะที่เป็นตัวแทนของรัฐ เช่น กฎหมายว่าด้วยการทำสงคราม กฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กฎหมายว่าด้วยทะเลหลวง
• **กฎหมายระหว่างประเทศเอกชน (Private International Law):** กำหนดกฎเกณฑ์ในการแก้ไขข้อพิพาทที่มีองค์ประกอบข้ามชาติ เช่น ข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับสัญญาซื้อขายระหว่างบุคคลที่อยู่ในประเทศต่างกัน
• **กฎหมายอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Law):** กำหนดอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดที่กระทำต่อสังคมระหว่างประเทศ เช่น อาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการก่อการร้าย
• **กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Law):** ควบคุมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เช่น กฎหมายว่าด้วยองค์การการค้าโลก (World Trade Organization - WTO)
• **กฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ (International Environmental Law):** กำหนดกฎเกณฑ์ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางทะเล และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

1. 1. 1. ประเด็นร่วมสมัยในกฎหมายระหว่างประเทศ

กฎหมายระหว่างประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ จากประเด็นร่วมสมัยต่างๆ:

• **การก่อการร้ายระหว่างประเทศ (International Terrorism):** การก่อการร้ายข้ามชาติเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศกำลังพยายามที่จะพัฒนาเครื่องมือในการต่อต้านการก่อการร้ายอย่างมีประสิทธิภาพ
• **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change):** การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาเร่งด่วนระดับโลก และกฎหมายระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการกำหนดเป้าหมายและมาตรการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
• **การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Protection of Human Rights):** การละเมิดสิทธิมนุษยชนยังคงเป็นปัญหาที่แพร่หลายในหลายภูมิภาคของโลก และกฎหมายระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
• **ความขัดแย้งทางไซเบอร์ (Cyber Conflicts):** การโจมตีทางไซเบอร์ข้ามชาติกำลังเพิ่มขึ้น และกฎหมายระหว่างประเทศกำลังพยายามที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ในการควบคุมและป้องกันความขัดแย้งทางไซเบอร์
• **การใช้กำลังโดยรัฐ (Use of Force by States):** การใช้กำลังโดยรัฐต้องเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศกำลังพยายามที่จะกำหนดขอบเขตและเงื่อนไขในการใช้กำลังอย่างถูกต้อง

1. 1. 1. กฎหมายระหว่างประเทศกับการลงทุนและการค้า (เชื่อมโยงกับไบนารี่ออปชั่น)

แม้ว่ากฎหมายระหว่างประเทศจะไม่ได้ควบคุมการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) โดยตรง แต่ก็มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมการลงทุนและการค้าโดยรวม ซึ่งส่งผลต่อตลาดไบนารี่ออปชั่นได้เช่นกัน:

• **เสถียรภาพทางการเมือง (Political Stability):** ความมั่นคงทางการเมืองในประเทศต่างๆ มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลต่อความผันผวนของตลาดการเงิน รวมถึงตลาดไบนารี่ออปชั่น
• **ข้อตกลงการค้า (Trade Agreements):** ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศมีผลต่อการไหลเวียนของเงินทุนและการลงทุน ซึ่งส่งผลต่อตลาดการเงินโดยรวม
• **กฎระเบียบทางการเงิน (Financial Regulations):** กฎระเบียบทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นในบางประเทศอาจส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังประเทศอื่นที่มีกฎระเบียบที่ยืดหยุ่นกว่า ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดไบนารี่ออปชั่น
• **การป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน (Combating Financial Crime):** กฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน เช่น การฟอกเงิน มีผลต่อการควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารระหว่างประเทศ

นักเทรดไบนารี่ออปชั่นสามารถใช้ประโยชน์จากข่าวสารและเหตุการณ์ระหว่างประเทศเพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดได้:

• **News Trading:** เทรดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ย การประชุมสุดยอดผู้นำประเทศ หรือการเลือกตั้ง
• **Event-Driven Trading:** เทรดตามเหตุการณ์สำคัญ เช่น การทำสงคราม การก่อการร้าย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ
• **Correlation Trading:** เทรดตามความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระหว่างประเทศ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันและสถานการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลาง
• **Volatility Trading:** เทรดตามความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีเหตุการณ์ระหว่างประเทศสำคัญ
• **Trend Following:** เทรดตามแนวโน้มของตลาดที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ระหว่างประเทศ

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย (Technical and Volume Analysis)

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยให้นักเทรดไบนารี่ออปชั่นประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการเทรดได้:

• **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของตลาด
• **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของตลาด
• **Volume Analysis:** ใช้เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัว
• **Candlestick Patterns:** ใช้เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย

1. 1. 1. แนวโน้มและกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่น

• **High/Low Option:** กลยุทธ์พื้นฐานที่คาดการณ์ว่าราคาจะสูงหรือต่ำกว่าระดับที่กำหนด
• **Touch/No Touch Option:** กลยุทธ์ที่คาดการณ์ว่าราคาจะสัมผัสหรือไม่สัมผัสระดับที่กำหนด
• **Boundary Option:** กลยุทธ์ที่คาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในหรืออยู่นอกช่วงที่กำหนด
• **Ladder Option:** กลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันตามระดับราคาที่บรรลุ
• **One Touch Option:** คล้ายกับ Touch/No Touch แต่มีเป้าหมายเพียงจุดเดียว

การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่น นักเทรดควรตั้งเป้าหมายกำไรและจำกัดความเสี่ยงในการลงทุนแต่ละครั้ง การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ และการติดตามข่าวสารระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิดสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) และ การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเทรด

ตัวอย่างสนธิสัญญาที่สำคัญ

สนธิสัญญา	หัวข้อ	ประเทศที่เกี่ยวข้อง
อนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions)	กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ	เกือบทุกประเทศ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child)	สิทธิของเด็ก	เกือบทุกประเทศ
ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement)	การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ	เกือบทุกประเทศ
สนธิสัญญาการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement - NAFTA)	การค้าเสรี	สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก

กฎหมายทะเลหลวง (Law of the Sea) และ กฎหมายอวกาศ (Space Law) เป็นสาขาที่น่าสนใจและมีความซับซ้อน

การทูต (Diplomacy) เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) มีหน้าที่พิจารณาคดีอาชญากรรมร้ายแรงที่กระทำต่อสังคมระหว่างประเทศ

องค์การสหประชาชาติ (United Nations) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในโลก

สิทธิมนุษยชนสากล (Universal Declaration of Human Rights) เป็นเอกสารสำคัญที่กำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน

การเจรจาต่อรอง (Negotiation) เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับนักการทูตและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ

การอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ (International Arbitration) เป็นวิธีการระงับข้อพิพาทที่ได้รับความนิยม

กฎหมายสงคราม (Laws of War) กำหนดกฎเกณฑ์ในการทำสงคราม

กฎหมายคุ้มครองผู้ลี้ภัย (Refugee Law) กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ลี้ภัย

กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property Law) กำหนดกฎเกณฑ์ในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในระดับระหว่างประเทศ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น