Divergence Strategies
- Divergence Strategies
Divergence Strategies เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่สำคัญในตลาด ไบนารี่ออปชั่น ที่อาศัยความขัดแย้งระหว่างราคาสินทรัพย์และตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicator) เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายที่มีศักยภาพ กลยุทธ์นี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การคาดการณ์ทิศทางของราคาโดยตรง แต่เน้นไปที่การค้นหาจุดที่โมเมนตัมของราคาเริ่มอ่อนตัวลง หรือเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งสามารถนำไปสู่การทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Divergence
Divergence (ความแตกต่าง) เกิดขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปในทิศทางหนึ่ง แต่ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม สิ่งนี้บ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้มปัจจุบัน และอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคาได้ มี Divergence หลักๆ สองประเภท:
- **Regular Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Lower High) หรือราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Higher Low) นี่เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนว่าแนวโน้มปัจจุบันอาจกำลังจะสิ้นสุดลง
- **Hidden Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Lower High) แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดสูงสุดที่สูงกว่า (Higher High) หรือราคาสร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Higher Low) แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่า (Lower Low) Hidden Divergence บ่งบอกถึงการต่อเนื่องของแนวโน้มปัจจุบัน
- ตัวบ่งชี้ที่นิยมใช้ในการค้นหา Divergence
มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคหลายตัวที่สามารถใช้เพื่อค้นหา Divergence ได้ ตัวบ่งชี้ที่นิยมใช้ ได้แก่:
- **Relative Strength Index (RSI):** RSI เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่ใช้วัดความแรงของแนวโน้ม และสามารถใช้เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** MACD เป็นตัวบ่งชี้ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น โดยใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงในโมเมนตัมของราคา
- **Stochastic Oscillator:** Stochastic Oscillator เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่เปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันกับช่วงราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยในการระบุสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป
- **Williams %R:** Williams %R คล้ายกับ Stochastic Oscillator แต่ใช้สูตรที่แตกต่างกันในการคำนวณ
- **Commodity Channel Index (CCI):** CCI เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้วัดความแตกต่างของราคาปัจจุบันจากค่าเฉลี่ยทางสถิติในช่วงเวลาที่กำหนด
- กลยุทธ์ Divergence ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ Divergence ที่สามารถนำไปใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้:
- 1. RSI Divergence Strategy
กลยุทธ์นี้ใช้ RSI เพื่อระบุ Divergence และสัญญาณการกลับตัวของราคา
- **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI สร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Bullish Divergence)
- **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Bearish Divergence)
- **การยืนยัน:** ควรยืนยันสัญญาณด้วยการรอการทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ
- 2. MACD Divergence Strategy
กลยุทธ์นี้ใช้ MACD เพื่อระบุ Divergence และสัญญาณการกลับตัวของราคา
- **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ แต่ MACD Histogram สร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Bullish Divergence)
- **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ แต่ MACD Histogram สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Bearish Divergence)
- **การยืนยัน:** ควรยืนยันสัญญาณด้วยการรอการเกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Candlestick Pattern) เช่น Hammer หรือ Shooting Star
- 3. Stochastic Oscillator Divergence Strategy
กลยุทธ์นี้ใช้ Stochastic Oscillator เพื่อระบุ Divergence และสัญญาณการกลับตัวของราคา
- **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ แต่ Stochastic Oscillator สร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่า และ Stochastic Oscillator อยู่ในสภาวะ Oversold
- **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ แต่ Stochastic Oscillator สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า และ Stochastic Oscillator อยู่ในสภาวะ Overbought
- **การยืนยัน:** ควรยืนยันสัญญาณด้วยการรอการข้ามเส้นสัญญาณ (Signal Line)
- 4. Hidden Divergence Strategy
กลยุทธ์นี้ใช้ Hidden Divergence เพื่อระบุการต่อเนื่องของแนวโน้ม
- **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดสูงสุดที่สูงกว่า (Hidden Bullish Divergence) บ่งบอกว่าแนวโน้มขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป
- **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดที่สูงกว่า แต่ตัวบ่งชี้สร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่า (Hidden Bearish Divergence) บ่งบอกว่าแนวโน้มขาลงจะยังคงดำเนินต่อไป
- **การยืนยัน:** ควรยืนยันสัญญาณด้วยการรอการทดสอบแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ
- การจัดการความเสี่ยงในการใช้ Divergence Strategies
แม้ว่า Divergence Strategies จะมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรพิจารณา:
- **False Signals:** Divergence อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้นำไปสู่การกลับตัวของราคาเสมอไป ดังนั้นจึงควรใช้ตัวกรองเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสัญญาณ
- **Timeframe:** Divergence บน Timeframe ที่แตกต่างกันอาจให้สัญญาณที่แตกต่างกัน ควรเลือก Timeframe ที่เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายของคุณ
- **Market Conditions:** Divergence Strategies อาจทำงานได้ไม่ดีในตลาดที่มีความผันผวนสูง หรือตลาด Sideways
- **Stop Loss:** ควรใช้ Stop Loss เสมอเพื่อจำกัดความเสี่ยงในการซื้อขาย
- ตัวอย่างการวิเคราะห์ Divergence
| ตัวบ่งชี้ | สถานการณ์ | สัญญาณ | การตัดสินใจ | ||||||||||||||||
| RSI | ราคาสร้าง Higher High, RSI สร้าง Lower High | Bearish Divergence | พิจารณาเปิด Put Option | MACD | ราคาสร้าง Lower Low, MACD Histogram สร้าง Higher Low | Bullish Divergence | พิจารณาเปิด Call Option | Stochastic Oscillator | ราคาสร้าง Higher High, Stochastic Oscillator สร้าง Higher High (ในสภาวะ Overbought) | Hidden Bearish Divergence | พิจารณาเปิด Put Option | Williams %R | ราคาสร้าง Lower Low, Williams %R สร้าง Lower Low (ในสภาวะ Oversold) | Hidden Bullish Divergence | พิจารณาเปิด Call Option |
- การผสมผสาน Divergence Strategies กับกลยุทธ์อื่นๆ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรผสมผสาน Divergence Strategies กับกลยุทธ์อื่นๆ เช่น:
- **Trend Following:** ใช้ Divergence เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่
- **Breakout Strategies:** ใช้ Divergence เพื่อระบุจุดสิ้นสุดของช่วงพักตัว (Consolidation) ก่อนการ Breakout
- **Support and Resistance:** ใช้ Divergence บริเวณแนวรับและแนวต้านที่สำคัญเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ
- **Price Action:** ใช้ Divergence ร่วมกับรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) เพื่อยืนยันสัญญาณ
- การใช้ Volume Analysis ร่วมกับ Divergence
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยยืนยันสัญญาณ Divergence ได้ หากปริมาณการซื้อขายลดลงในขณะที่เกิด Divergence แสดงว่าโมเมนตัมของแนวโน้มกำลังอ่อนแอลง และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวของราคา Volume เป็นเครื่องมือสำคัญในการยืนยันสัญญาณ
- การฝึกฝนและการทดสอบย้อนหลัง
การฝึกฝนและการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความเข้าใจและทักษะในการใช้ Divergence Strategies ควรทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ บนข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยงก่อนที่จะนำไปใช้ในการซื้อขายจริง Backtesting ช่วยให้เข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของกลยุทธ์
- แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
- การบริหารความเสี่ยง
- รูปแบบแท่งเทียน
- แนวโน้ม (Trend)
- การซื้อขายแบบ Scalping
- การซื้อขายแบบ Day Trading
- การซื้อขายแบบ Swing Trading
- Fibonacci Retracement
- Elliott Wave Theory
- Bollinger Bands
- Ichimoku Cloud
- Pivot Points
- Average True Range (ATR)
- Parabolic SAR
- Binary Options Trading (Category:Trading Strategies)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

