Delta Strategy

1. 1. กลยุทธ์เดลต้า (Delta Strategy) ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

กลยุทธ์เดลต้า (Delta Strategy) เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อน แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งใช้ในตลาด ไบนารี่ออปชั่น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไรจากความผันผวนของราคา และปรับปรุงโอกาสในการทำกำไรให้สูงขึ้น กลยุทธ์นี้ไม่ได้อาศัยเพียงแค่การคาดการณ์ทิศทางราคาเพียงอย่างเดียว แต่เน้นการวิเคราะห์ค่าเดลต้า (Delta) ซึ่งเป็นตัววัดความไวของราคาออปชั่นต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์เดลต้าอย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นศึกษาไบนารี่ออปชั่น และต้องการทำความเข้าใจกลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น

1. 1. 1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับค่าเดลต้า (Delta)

ก่อนที่จะเจาะลึกถึงกลยุทธ์เดลต้า เราต้องเข้าใจความหมายของค่าเดลต้าก่อน ค่าเดลต้าเป็นค่าที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาออปชั่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย ตัวอย่างเช่น หากค่าเดลต้าของออปชั่นคือ 0.60 หมายความว่า หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ราคาออปชั่นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.60 ดอลลาร์

ค่าเดลต้ามีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 1 สำหรับออปชั่นซื้อ (Call Option) และ -1 ถึง 0 สำหรับออปชั่นขาย (Put Option)

• **ค่าเดลต้าใกล้ 1 (สำหรับ Call Option):** หมายความว่าออปชั่นนั้นมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงสูง และมีโอกาสทำกำไรสูงหากราคาสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้น
• **ค่าเดลต้าใกล้ 0 (สำหรับ Call Option):** หมายความว่าออปชั่นนั้นมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงต่ำ และมีโอกาสทำกำไรต่ำหากราคาสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้น
• **ค่าเดลต้าใกล้ -1 (สำหรับ Put Option):** หมายความว่าออปชั่นนั้นมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงสูง และมีโอกาสทำกำไรสูงหากราคาสินทรัพย์อ้างอิงลดลง
• **ค่าเดลต้าใกล้ 0 (สำหรับ Put Option):** หมายความว่าออปชั่นนั้นมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงต่ำ และมีโอกาสทำกำไรต่ำหากราคาสินทรัพย์อ้างอิงลดลง

การเข้าใจค่าเดลต้าเป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์เดลต้าอย่างมีประสิทธิภาพ

1. 1. 1. หลักการของกลยุทธ์เดลต้า

กลยุทธ์เดลต้ามีพื้นฐานมาจากการสร้างตำแหน่ง (Position) ที่เป็นกลางต่อค่าเดลต้า (Delta Neutral) ซึ่งหมายความว่าผลรวมของค่าเดลต้าของทุกออปชั่นในตำแหน่งนั้นเป็นศูนย์ หรือใกล้เคียงศูนย์ การสร้างตำแหน่งที่เป็นกลางต่อค่าเดลต้าจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนของราคา

กลยุทธ์เดลต้าโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นหลายประเภท (ทั้ง Call และ Put) และ/หรือ สินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง เพื่อให้ได้ค่าเดลต้าสุทธิเป็นศูนย์

1. 1. 1. ขั้นตอนการใช้กลยุทธ์เดลต้า

1. **วิเคราะห์สินทรัพย์อ้างอิง:** เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์สินทรัพย์อ้างอิงที่คุณสนใจ โดยใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวโน้ม (Trend), การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis), ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average), RSI (Relative Strength Index), และ MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มราคาและความผันผวน 2. **เลือกออปชั่น:** เลือกออปชั่น Call และ Put ที่มีวันหมดอายุและราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความคาดหวังของคุณเกี่ยวกับทิศทางราคาและความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง 3. **คำนวณค่าเดลต้า:** คำนวณค่าเดลต้าของออปชั่นแต่ละประเภทที่คุณเลือก โดยค่าเดลต้านี้สามารถหาได้จากโบรกเกอร์ หรือจากเครื่องมือคำนวณค่าออปชั่นออนไลน์ 4. **สร้างตำแหน่งที่เป็นกลางต่อค่าเดลต้า:** ปรับจำนวนออปชั่น Call และ Put ที่คุณซื้อและขาย เพื่อให้ผลรวมของค่าเดลต้าของทุกออปชั่นในตำแหน่งของคุณเป็นศูนย์ หรือใกล้เคียงศูนย์ หากคุณมีตำแหน่งที่เป็นกลางต่อค่าเดลต้าแล้ว การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรหรือขาดทุนของคุณมากนัก 5. **ปรับตำแหน่ง:** เนื่องจากค่าเดลต้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง คุณจะต้องปรับตำแหน่งของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาตำแหน่งที่เป็นกลางต่อค่าเดลต้า หรือเพื่อปรับตำแหน่งให้สอดคล้องกับความคาดหวังของคุณที่เปลี่ยนแปลงไป 6. **จัดการความเสี่ยง:** กลยุทธ์เดลต้ายังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ดังนั้นคุณควรใช้เครื่องมือ การจัดการความเสี่ยง เช่น Stop-Loss และ Take-Profit เพื่อจำกัดความเสี่ยงและปกป้องกำไรของคุณ

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์เดลต้า

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะมีความผันผวนสูง แต่ไม่แน่ใจว่าราคาจะขึ้นหรือลง คุณสามารถใช้กลยุทธ์เดลต้าเพื่อทำกำไรจากความผันผวนนี้ได้

• **ซื้อ Call Option:** ซื้อ Call Option ที่มีราคาใช้สิทธิ 1,800 ดอลลาร์ และค่าเดลต้า 0.50
• **ขาย Put Option:** ขาย Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิ 1,800 ดอลลาร์ และค่าเดลต้า -0.50

ในกรณีนี้ ผลรวมของค่าเดลต้าคือ 0.50 + (-0.50) = 0 ซึ่งหมายความว่าตำแหน่งของคุณเป็นกลางต่อค่าเดลต้า หากราคาทองคำเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือลง ผลกำไรหรือขาดทุนของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่คุณจะได้รับกำไรจากค่าพรีเมี่ยมของออปชั่นที่คุณขาย

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์เดลต้า

• • ข้อดี:**

• **ลดความเสี่ยง:** กลยุทธ์เดลต้าช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
• **เพิ่มโอกาสในการทำกำไร:** กลยุทธ์เดลต้าช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนของราคา
• **มีความยืดหยุ่น:** กลยุทธ์เดลต้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความคาดหวังของคุณที่เปลี่ยนแปลงไป

• • ข้อเสีย:**

• **มีความซับซ้อน:** กลยุทธ์เดลต้ามีความซับซ้อน และต้องใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับค่าเดลต้าและออปชั่นอย่างละเอียด
• **ต้องใช้การปรับตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอ:** ค่าเดลต้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ดังนั้นคุณจะต้องปรับตำแหน่งของคุณอย่างสม่ำเสมอ
• **อาจมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมสูง:** การซื้อขายออปชั่นหลายประเภทอาจมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมสูง

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• **Straddle:** กลยุทธ์ที่ซื้อทั้ง Call และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน
• **Strangle:** กลยุทธ์ที่ซื้อ Call และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิแตกต่างกัน แต่มีวันหมดอายุเดียวกัน
• **Butterfly Spread:** กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นสามประเภทที่มีราคาใช้สิทธิแตกต่างกัน
• **Iron Condor:** กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขาย Put และ Call Option สองประเภทที่มีราคาใช้สิทธิแตกต่างกัน
• **Covered Call:** กลยุทธ์ที่ขาย Call Option บนสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่แล้ว
• **Protective Put:** กลยุทธ์ที่ซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่
• **Ratio Spread:** กลยุทธ์ที่ซื้อและขายออปชั่นในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน
• **Diagonal Spread:** กลยุทธ์ที่ซื้อและขายออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
• **Calendar Spread:** กลยุทธ์ที่ซื้อและขายออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิเดียวกัน แต่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
• **Volatility Trading:** การซื้อขายโดยเน้นที่การทำกำไรจากความผันผวนของราคา
• **Mean Reversion Strategy:** กลยุทธ์ที่คาดการณ์ว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
• **Breakout Strategy:** กลยุทธ์ที่คาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวต้านหรือแนวรับ
• **Momentum Trading:** กลยุทธ์ที่ซื้อสินทรัพย์ที่กำลังมีแนวโน้มขาขึ้น และขายสินทรัพย์ที่กำลังมีแนวโน้มขาลง
• **Scalping:** กลยุทธ์ที่ทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเล็กน้อย
• **Swing Trading:** กลยุทธ์ที่ถือตำแหน่งไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์

1. 1. 1. สรุป

กลยุทธ์เดลต้าเป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อน แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด ไบนารี่ออปชั่น ได้ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ต้องใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับค่าเดลต้าและออปชั่นอย่างละเอียด และต้องมีการปรับตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอ หากคุณเป็นผู้เริ่มต้น ควรศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์นี้อย่างละเอียดก่อนที่จะนำไปใช้ในการซื้อขายจริง

ตัวอย่างค่าเดลต้าและการตีความ

ราคาใช้สิทธิ (Strike Price)	ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง	ค่าเดลต้า (Call Option)	ค่าเดลต้า (Put Option)	การตีความ
100	95	0.20	-0.20	ออปชั่น Call มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาน้อย, ออปชั่น Put มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาน้อย
100	105	0.80	-0.80	ออปชั่น Call มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสูง, ออปชั่น Put มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสูง
100	100	0.50	-0.50	ออปชั่น Call มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาปานกลาง, ออปชั่น Put มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาปานกลาง

การวิเคราะห์ความเสี่ยง และ การวางแผนการเงิน เป็นสิ่งสำคัญก่อนการลงทุนในไบนารี่ออปชั่นเสมอ (Category:Options Trading Strategies) - นี่]

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น