Dolby Noise Reduction
- Dolby Noise Reduction
Dolby Noise Reduction (DNR) เป็นระบบที่พัฒนาโดย Dolby Laboratories เพื่อลดสัญญาณรบกวน (noise) ในระบบบันทึกเสียงและถ่ายทอดสัญญาณเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบอนาล็อก เช่น เทปคาสเซ็ตและแผ่นเสียง แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและมีหลายรุ่น แต่หลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม คือ การเข้ารหัสสัญญาณเสียงก่อนการบันทึก และถอดรหัสสัญญาณเสียงหลังการเล่น เพื่อลดผลกระทบจากสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการบันทึกและเล่น บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงานของ Dolby Noise Reduction ประเภทต่างๆ ประวัติความเป็นมา ข้อดีข้อเสีย และความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ในบริบทของ การบันทึกเสียง และ เทคโนโลยีเสียง
ประวัติความเป็นมา
Dolby Noise Reduction เริ่มต้นจากความต้องการในการปรับปรุงคุณภาพเสียงของ เทปบันทึกเสียง ในช่วงทศวรรษ 1960 สัญญาณรบกวนจากเทปบันทึกเสียงเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เสียงที่บันทึกไว้มีคุณภาพต่ำ Ray Dolby ผู้ก่อตั้ง Dolby Laboratories ได้พัฒนาเทคนิคในการลดสัญญาณรบกวนโดยการเพิ่มสัญญาณรบกวนที่ถูกเข้ารหัสไว้ในระหว่างการบันทึก และทำการลดสัญญาณรบกวนนี้ออกในระหว่างการเล่น ระบบแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นคือ Dolby A ซึ่งใช้ในสตูดิโอ บันทึกเสียง ระดับมืออาชีพ
ต่อมาในปี 1966 Dolby ได้พัฒนา Dolby B ซึ่งเป็นระบบที่ง่ายกว่าและราคาถูกกว่า Dolby A ทำให้สามารถนำไปใช้กับเครื่องบันทึกเสียง เทปคาสเซ็ต สำหรับผู้บริโภคได้ Dolby B กลายเป็นมาตรฐานสำหรับเทปคาสเซ็ตเป็นเวลาหลายปี และช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของเทปคาสเซ็ตได้อย่างมาก
ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 Dolby ได้พัฒนา DNR รุ่นอื่นๆ เช่น Dolby C และ Dolby S ซึ่งมีความสามารถในการลดสัญญาณรบกวนได้ดีขึ้น แต่ก็มีความซับซ้อนและมีราคาแพงกว่า
หลักการทำงาน
หลักการพื้นฐานของ Dolby Noise Reduction คือการใช้ประโยชน์จากลักษณะของสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบบันทึกเสียง สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่เป็นสัญญาณที่มีความถี่สูงและมีระดับความดังต่ำ Dolby DNR ทำงานโดยการเพิ่มสัญญาณรบกวนที่ถูกเข้ารหัสไว้ในสัญญาณเสียงก่อนการบันทึก และทำการลดสัญญาณรบกวนนี้ออกในระหว่างการเล่น
กระบวนการนี้ประกอบด้วยสองขั้นตอนหลัก:
- **การเข้ารหัส (Encoding):** ในระหว่างการบันทึก สัญญาณเสียงจะถูกผ่านตัวเข้ารหัส (encoder) ซึ่งจะเพิ่มสัญญาณรบกวนที่ถูกเข้ารหัสไว้ในสัญญาณเสียง สัญญาณรบกวนที่ถูกเข้ารหัสนี้มีลักษณะคล้ายกับสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบบันทึกเสียง แต่มีเฟสที่ตรงกันข้าม
- **การถอดรหัส (Decoding):** ในระหว่างการเล่น สัญญาณเสียงจะถูกผ่านตัวถอดรหัส (decoder) ซึ่งจะลดสัญญาณรบกวนที่ถูกเข้ารหัสไว้ในสัญญาณเสียงออกไป เมื่อสัญญาณรบกวนที่ถูกเข้ารหัสและสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบบันทึกเสียงมารวมกัน เฟสที่ตรงกันข้ามจะทำให้สัญญาณรบกวนถูกหักล้างกัน ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพดีขึ้น
ประเภทของ Dolby Noise Reduction
Dolby ได้พัฒนา DNR หลายรุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไป:
- **Dolby A:** ระบบ DNR รุ่นแรก ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับใช้ในสตูดิโอบันทึกเสียงระดับมืออาชีพ มีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนสูง แต่มีความซับซ้อนและมีราคาแพง
- **Dolby B:** ระบบ DNR ที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้กับเทปคาสเซ็ต มีความง่ายและราคาถูกกว่า Dolby A แต่ก็มีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนที่ต่ำกว่า เหมาะสำหรับเทปคาสเซ็ตทั่วไป
- **Dolby C:** ระบบ DNR ที่มีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนสูงกว่า Dolby B แต่ก็มีความซับซ้อนและมีราคาแพงกว่า เหมาะสำหรับเทปคาสเซ็ตคุณภาพสูง
- **Dolby S:** ระบบ DNR ที่มีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนสูงสุด แต่ก็มีความซับซ้อนและมีราคาแพงที่สุด เหมาะสำหรับเทปคาสเซ็ตระดับไฮเอนด์
- **Dolby HX Pro:** ระบบ DNR ที่ใช้เทคโนโลยี คอมเพรสเซอร์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวน โดยจะปรับระดับการเข้ารหัสตามระดับความดังของสัญญาณเสียง
- **Dolby Digital:** ระบบเสียงรอบทิศทางดิจิทัลที่ใช้ในการบันทึกและถ่ายทอดสัญญาณเสียงในรูปแบบดิจิทัล ไม่ได้ใช้หลักการลดสัญญาณรบกวนแบบอนาล็อก แต่ใช้เทคนิคการเข้ารหัสและถอดรหัสสัญญาณเสียงดิจิทัลเพื่อลดสัญญาณรบกวน
| ระบบ | ประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวน | ความซับซ้อน | ราคา |
|---|---|---|---|
| Dolby A | สูงมาก | สูง | สูง |
| Dolby B | ปานกลาง | ต่ำ | ต่ำ |
| Dolby C | สูง | ปานกลาง | ปานกลาง |
| Dolby S | สูงที่สุด | สูงมาก | สูงมาก |
| Dolby HX Pro | ปานกลาง - สูง | ปานกลาง | ปานกลาง |
ข้อดีและข้อเสีย
Dolby Noise Reduction มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา:
- ข้อดี:**
- **ลดสัญญาณรบกวน:** ประสิทธิภาพหลักของ DNR คือการลดสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบบันทึกเสียง ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพดีขึ้น
- **ปรับปรุงคุณภาพเสียง:** โดยการลดสัญญาณรบกวน DNR ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงโดยรวม ทำให้เสียงมีความชัดเจนและมีรายละเอียดมากขึ้น
- **เพิ่มช่วงไดนามิก:** บางระบบ DNR เช่น Dolby HX Pro สามารถเพิ่มช่วงไดนามิกของสัญญาณเสียงได้ ทำให้เสียงมีความสมจริงมากขึ้น
- ข้อเสีย:**
- **ความซับซ้อน:** ระบบ DNR บางรุ่นมีความซับซ้อนในการใช้งานและต้องการอุปกรณ์เฉพาะในการเข้ารหัสและถอดรหัส
- **ราคา:** ระบบ DNR บางรุ่นมีราคาแพง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป
- **การบิดเบือน:** หากการเข้ารหัสและถอดรหัสไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการบิดเบือนของสัญญาณเสียงได้
- **ข้อจำกัดของเทคโนโลยีอนาล็อก:** DNR เป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาสำหรับระบบบันทึกเสียงอนาล็อก ประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนอาจไม่ดีเท่าเทคโนโลยีดิจิทัล
ความสำคัญในบริบทของเทคโนโลยีเสียง
Dolby Noise Reduction มีความสำคัญอย่างมากในประวัติศาสตร์ของ เทคโนโลยีเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของเทปบันทึกเสียง DNR ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของเทปคาสเซ็ตและเทปบันทึกเสียงอื่นๆ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับเสียงที่มีคุณภาพดีขึ้นได้
แม้ว่าเทคโนโลยีบันทึกเสียงดิจิทัลจะเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีอนาล็อก แต่ Dolby ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีเสียงใหม่ๆ เช่น Dolby Digital, Dolby Atmos และ Dolby Vision ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสียงและภาพที่ใช้ใน โรงภาพยนตร์ ระบบโฮมเธียเตอร์ และ สตรีมมิ่ง
การประยุกต์ใช้ใน Binary Options
แม้ว่า Dolby Noise Reduction จะเป็นเทคโนโลยีเสียง แต่แนวคิดของการลดสัญญาณรบกวนและการปรับปรุงสัญญาณสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ Binary Options ได้เช่นกัน
- **การกรองสัญญาณเท็จ:** ในตลาด Binary Options มีสัญญาณเท็จมากมายที่อาจทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาด การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages RSI และ MACD สามารถช่วยกรองสัญญาณเท็จเหล่านี้ได้ คล้ายกับการกรองสัญญาณรบกวนในระบบเสียง
- **การระบุแนวโน้ม:** การวิเคราะห์ แนวโน้ม ของราคาเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย Binary Options การใช้เครื่องมือวิเคราะห์แนวโน้ม เช่น Trend Lines และ Channels สามารถช่วยระบุแนวโน้มของราคาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
- **การจัดการความเสี่ยง:** การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย Binary Options การใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง เช่น Martingale และ Anti-Martingale สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนได้
- **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มของราคาและระบุสัญญาณการกลับตัวได้
- **การใช้ Indicators:** การใช้ Indicators ต่างๆ เช่น Bollinger Bands, Fibonacci Retracements และ Ichimoku Cloud สามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อขายได้
การเปรียบเทียบสัญญาณรบกวนกับสัญญาณเท็จในตลาด Binary Options ช่วยให้เห็นถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบและการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการตัดสินใจลงทุน
กลยุทธ์การซื้อขาย Binary Options ที่เกี่ยวข้อง
- **Trend Following:** กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
- **Range Trading:** กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อขายในช่วงราคาที่แคบ
- **Breakout Trading:** กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อขายเมื่อราคา breakout จากช่วงราคาเดิม
- **News Trading:** กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ
- **Scalping:** กลยุทธ์นี้เน้นการทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ จากการซื้อขายระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- **Support and Resistance:** การระบุระดับ Support และ Resistance
- **Chart Patterns:** การวิเคราะห์รูปแบบ Chart Patterns เช่น Head and Shoulders, Double Top และ Double Bottom
- **Fibonacci Retracements:** การใช้ Fibonacci Retracements เพื่อระบุระดับ Support และ Resistance ที่สำคัญ
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- **Volume Confirmation:** การยืนยันแนวโน้มของราคาด้วยปริมาณการซื้อขาย
- **Volume Spikes:** การวิเคราะห์ Volume Spikes เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัว
สรุป
Dolby Noise Reduction เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพเสียงของระบบบันทึกเสียงอนาล็อก แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและมีหลายรุ่น แต่หลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม คือ การเข้ารหัสสัญญาณเสียงก่อนการบันทึก และถอดรหัสสัญญาณเสียงหลังการเล่น เพื่อลดผลกระทบจากสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการบันทึกและเล่น นอกจากนี้ แนวคิดของการลดสัญญาณรบกวนและการปรับปรุงสัญญาณสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ Binary Options ได้เช่นกัน โดยการกรองสัญญาณเท็จ การระบุแนวโน้ม และการจัดการความเสี่ยง
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
