William Hewlett

William Hewlett

วิลเลียม เรดดิงตัน เฮวลิตต์ (William Reddington Hewlett, 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1913 – 12 มกราคม ค.ศ. 2002) เป็นนักประดิษฐ์และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Hewlett-Packard (HP) ร่วมกับ เดวิด พักการ์ด (David Packard) ในปี ค.ศ. 1939 เฮวลิตต์มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการอิเล็กทรอนิกส์และการคำนวณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเครื่องมือวัดและอุปกรณ์ทดสอบ ซึ่งต่อมาได้ขยายไปสู่ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเครื่องพิมพ์

ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา

วิลเลียม เฮวลิตต์ เกิดที่เมืองนิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา บิดาของเขาคือ อัลเบิร์ต เฮวลิตต์ ซึ่งเป็นแพทย์ และมารดาของเขาคือ โลเร็ตตา เฮวลิตต์ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่เมืองโบลลิงบรูก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเขาอายุได้ 8 ขวบ เขาแสดงความสนใจในสิ่งประดิษฐ์ตั้งแต่เด็ก โดยมักจะถอดของเล่นและอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาเพื่อทำความเข้าใจการทำงานของมัน

เฮวลิตต์เข้าศึกษาที่ Stanford University ในปี ค.ศ. 1930 และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าในปี ค.ศ. 1934 เขาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศาสตราจารย์ Frederick Terman ซึ่งสนับสนุนให้เขาและพักการ์ดเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง

การก่อตั้ง Hewlett-Packard

ในปี ค.ศ. 1939 เฮวลิตต์และพักการ์ดได้ก่อตั้ง Hewlett-Packard Company (HP) ขึ้นในโรงรถของพักการ์ดในเมือง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง 538 ดอลลาร์สหรัฐ พวกเขาเริ่มต้นด้วยการผลิตเครื่องกำเนิดสัญญาณ (signal generator) ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดที่จำเป็นสำหรับวิศวกรและนักเทคนิคต่างๆ

ผลิตภัณฑ์แรกของ HP คือ Model 200A ซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดสัญญาณที่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในตลาด เครื่องมือวัดของ HP มีชื่อเสียงด้านความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ ซึ่งทำให้ HP กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องมือวัด

การพัฒนาและนวัตกรรมของ HP

ภายใต้การนำของเฮวลิตต์และพักการ์ด HP ได้พัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมมากมายในด้านอิเล็กทรอนิกส์และการคำนวณ:

**เครื่องวิเคราะห์สเปกตรัม:** HP เป็นผู้นำในการพัฒนา เครื่องวิเคราะห์สเปกตรัม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์สัญญาณความถี่
**คอมพิวเตอร์:** ในช่วงทศวรรษ 1960 HP เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม
**เครื่องพิมพ์:** HP ได้ปฏิวัติตลาดเครื่องพิมพ์ด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ LaserJet ในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์เครื่องแรกที่ราคาไม่แพงและใช้งานง่าย
**เครื่องคิดเลข:** HP เป็นผู้นำในการพัฒนาเครื่องคิดเลขแบบวิทยาศาสตร์และเครื่องคิดเลขแบบโปรแกรมได้

เฮวลิตต์มีส่วนร่วมอย่างมากในการพัฒนา การจัดการแบบ HP (HP Way) ซึ่งเป็นปรัชญาการบริหารจัดการที่เน้นการกระจายอำนาจ การทำงานเป็นทีม และนวัตกรรม

บทบาทในอุตสาหกรรมไบนารี่ออปชั่น (เชิงเปรียบเทียบ)

แม้ว่าวิลเลียม เฮวลิตต์ จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุตสาหกรรม ไบนารี่ออปชั่น แต่แนวคิดและหลักการที่เขาใช้ในการบริหารจัดการและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ HP สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้:

**การวิเคราะห์ข้อมูล:** เช่นเดียวกับการที่ HP เน้นการวัดและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและตลาดอย่างละเอียด การใช้ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI), และ MACD (Moving Average Convergence Divergence) สามารถช่วยในการระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขายได้
**การจัดการความเสี่ยง:** HP ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นก็เช่นกัน จำเป็นต้องมีการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การกำหนดขนาดการซื้อขายที่เหมาะสม (Position Sizing) และการใช้ Stop-Loss (จุดตัดขาดทุน) เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการสูญเสียเงินทุน
**นวัตกรรม:** HP เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นก็เช่นกัน จำเป็นต้องมีการปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง การทดลองใช้ กลยุทธ์การซื้อขาย (Trading Strategies) ที่แตกต่างกัน และการเรียนรู้จากประสบการณ์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
**การทำงานเป็นทีม:** แม้ว่าการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น มักจะเป็นกิจกรรมส่วนบุคคล แต่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้จากผู้ค้าคนอื่นๆ สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการซื้อขายได้ การเข้าร่วม ฟอรัมการซื้อขาย (Trading Forums) และกลุ่มสนทนาออนไลน์ สามารถเป็นแหล่งข้อมูลและคำแนะนำที่มีค่า

การเกษียณอายุและการเสียชีวิต

วิลเลียม เฮวลิตต์ เกษียณอายุจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ HP ในปี ค.ศ. 1978 เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2002 ที่เมือง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยอายุ 88 ปี

มรดกและเกียรติประวัติ

วิลเลียม เฮวลิตต์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการอิเล็กทรอนิกส์และการคำนวณ เขามีส่วนสำคัญในการสร้าง HP ให้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก

**รางวัล:** เขาได้รับรางวัลมากมายตลอดชีวิต รวมถึง National Medal of Technology ในปี ค.ศ. 1991
**Stanford University:** มหาวิทยาลัย Stanford ได้ตั้งชื่ออาคารวิศวกรรมไฟฟ้าตามชื่อของเขาและเดวิด พักการ์ด เพื่อเป็นเกียรติแก่การสนับสนุนของทั้งสองต่อมหาวิทยาลัย
**HP Way:** ปรัชญาการจัดการแบบ HP ที่เขาช่วยสร้างสรรค์ ยังคงเป็นแบบอย่างให้กับบริษัทต่างๆ ทั่วโลก

ตารางสรุปข้อมูลสำคัญ

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ วิลเลียม เฮวลิตต์
หัวข้อ	ข้อมูล
ชื่อเต็ม	วิลเลียม เรดดิงตัน เฮวลิตต์
วันเกิด	28 พฤษภาคม ค.ศ. 1913
สถานที่เกิด	นิวยอร์กซิตี้, สหรัฐอเมริกา
วันเสียชีวิต	12 มกราคม ค.ศ. 2002
สถานที่เสียชีวิต	Palo Alto, สหรัฐอเมริกา
การศึกษา	ปริญญาตรีวิศวกรรมไฟฟ้า, Stanford University
อาชีพ	นักประดิษฐ์, ผู้ประกอบการ
บริษัทก่อตั้ง	Hewlett-Packard (HP)
ผลงานสำคัญ	เครื่องกำเนิดสัญญาณ Model 200A, เครื่องวิเคราะห์สเปกตรัม, เครื่องพิมพ์ LaserJet

การวิเคราะห์เชิงปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume Analysis) และแนวโน้ม (Trends)

แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่หลักการวิเคราะห์เชิงปริมาณการซื้อขายสามารถนำมาใช้เพื่อทำความเข้าใจการเติบโตของ HP ได้ การวิเคราะห์อัตราการเติบโตของรายได้, ส่วนแบ่งการตลาด, และจำนวนพนักงาน สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มและความแข็งแกร่งของบริษัทได้ ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) และแนวโน้มของสินทรัพย์ที่ซื้อขาย เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายพร้อมกับแนวโน้มขาขึ้น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อขายแบบ Call Option

กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง (Trading Strategies)

**Trend Following:** กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม (Trend Following) คือการซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มหลักของตลาด ซึ่งคล้ายคลึงกับแนวทางที่ HP ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของตลาด
**Breakout Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับ (Breakout Trading) สามารถใช้เพื่อจับโอกาสในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
**Range Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายในกรอบราคา (Range Trading) เหมาะสำหรับตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
**Straddle:** กลยุทธ์ Straddle เป็นการซื้อทั้ง Call และ Put Option พร้อมกัน โดยคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
**Strangle:** กลยุทธ์ Strangle คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเพิ่มเติม (Additional Technical Indicators)

**Bollinger Bands:** ใช้ในการวัดความผันผวนของราคา
**Fibonacci Retracement:** ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
**Ichimoku Cloud:** ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและ Momentum
**Parabolic SAR:** ใช้ในการระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม
**Stochastic Oscillator:** ใช้ในการวัดความเร็วและแรงของแนวโน้ม

ลิงก์ภายนอก

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น