Supply and Demand Strategy

1. 1. Supply and Demand Strategy

Supply and Demand Strategy เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การซื้อขายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาด ไบนารี่ออปชั่น และตลาดการเงินโดยทั่วไป กลยุทธ์นี้อิงตามหลักการพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ที่ว่า ราคาจะถูกกำหนดโดยความสมดุลระหว่างอุปทาน (Supply) และอุปสงค์ (Demand) การทำความเข้าใจหลักการนี้ และการระบุระดับอุปทานและอุปสงค์ในกราฟราคา จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ทิศทางราคา และตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดของกลยุทธ์ Supply and Demand Strategy สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการระบุโซนอุปทานและอุปสงค์ การยืนยันสัญญาณ และการบริหารความเสี่ยง

1. 1. 1. หลักการพื้นฐานของ Supply and Demand

หลักการพื้นฐานของ Supply and Demand คือเมื่ออุปสงค์สูงกว่าอุปทาน ราคาจะสูงขึ้น และเมื่ออุปทานสูงกว่าอุปสงค์ ราคาจะลดลง ในตลาดการเงิน อุปสงค์และอุปทานไม่ได้ถูกกำหนดโดยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเทคนิค เช่น รูปแบบกราฟราคา แท่งเทียน และ ปริมาณการซื้อขาย

• **อุปสงค์ (Demand):** หมายถึงความต้องการซื้อสินทรัพย์ ณ ระดับราคาที่กำหนด อุปสงค์สูงหมายถึงมีผู้ต้องการซื้อสินทรัพย์จำนวนมาก ซึ่งจะผลักดันราคาให้สูงขึ้น
• **อุปทาน (Supply):** หมายถึงปริมาณสินทรัพย์ที่พร้อมสำหรับการขาย ณ ระดับราคาที่กำหนด อุปทานสูงหมายถึงมีผู้ต้องการขายสินทรัพย์จำนวนมาก ซึ่งจะผลักดันราคาให้ลดลง
• **สมดุล (Equilibrium):** คือจุดที่อุปสงค์และอุปทานเท่ากัน ณ จุดนี้ ราคาจะคงที่

1. 1. 1. การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์

การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์เป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้กลยุทธ์ Supply and Demand Strategy โซนเหล่านี้คือบริเวณในกราฟราคาที่แสดงถึงการสะสม (Demand Zone) หรือการกระจาย (Supply Zone) ของสินทรัพย์

1. 1. 1. 1. Demand Zone (โซนอุปสงค์)

Demand Zone คือบริเวณที่ผู้ซื้อเข้ามาในตลาดจำนวนมาก ทำให้ราคากระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว บริเวณนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น

• • ลักษณะของ Demand Zone:**

• การรวมตัวของแท่งเทียนขาขึ้นจำนวนมาก
• ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
• การเกิดรูปแบบกราฟราคาที่บ่งบอกถึงการกลับตัว เช่น Double Bottom หรือ Rounding Bottom
• การเกิด Gap ขึ้น (ช่องว่างราคา)

1. 1. 1. 1. Supply Zone (โซนอุปทาน)

Supply Zone คือบริเวณที่ผู้ขายเข้ามาในตลาดจำนวนมาก ทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว บริเวณนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวโน้มขาลง

• • ลักษณะของ Supply Zone:**

• การรวมตัวของแท่งเทียนขาลงจำนวนมาก
• ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
• การเกิดรูปแบบกราฟราคาที่บ่งบอกถึงการกลับตัว เช่น Double Top หรือ Rounding Top
• การเกิด Gap ลง (ช่องว่างราคา)

1. 1. 1. การยืนยันสัญญาณ Supply and Demand

การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจซื้อขาย เทรดเดอร์จำเป็นต้องยืนยันสัญญาณด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้

• **การรอการทดสอบโซน:** รอให้ราคาเข้าใกล้โซนอุปทานหรืออุปสงค์ และสังเกตปฏิกิริยาของราคา หากราคาเด้งกลับจากโซน แสดงว่าโซนนั้นแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะทำงาน
• **การใช้ Indicator ร่วม:** ใช้ Indicator เช่น Moving Average หรือ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณ ตัวอย่างเช่น หากราคาเข้าใกล้ Demand Zone และ RSI แสดงสัญญาณ Oversold อาจเป็นสัญญาณซื้อที่ดี
• **การสังเกต ปริมาณการซื้อขาย :** สังเกตปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาเข้าใกล้โซน หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แสดงว่ามีความสนใจในสินทรัพย์นั้น และโซนนั้นมีแนวโน้มที่จะทำงาน
• **การใช้รูปแบบแท่งเทียน:** สังเกตรูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นในบริเวณโซน รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัว เช่น Engulfing Pattern หรือ Hammer Pattern สามารถยืนยันสัญญาณได้

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขาย Supply and Demand ในไบนารี่ออปชั่น

มีหลายวิธีในการใช้กลยุทธ์ Supply and Demand ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

• **Buy (Call) เมื่อราคาเข้าใกล้ Demand Zone:** รอให้ราคาเข้าใกล้ Demand Zone และสังเกตปฏิกิริยาของราคา หากราคาเด้งกลับขึ้นจากโซน ให้ซื้อ Call Option
• **Sell (Put) เมื่อราคาเข้าใกล้ Supply Zone:** รอให้ราคาเข้าใกล้ Supply Zone และสังเกตปฏิกิริยาของราคา หากราคาลดลงจากโซน ให้ขาย Put Option
• **การซื้อขาย Breakout:** หากราคา Breakout จากโซนอุปทานหรืออุปสงค์ อาจเป็นสัญญาณของการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง เทรดเดอร์สามารถซื้อ Call Option หากราคา Breakout จาก Supply Zone หรือขาย Put Option หากราคา Breakout จาก Demand Zone
• **การใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับ Supply and Demand:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเป็น Demand Zone หรือ Supply Zone

1. 1. 1. การบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม

• **กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนสูงสุดต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง ไม่ควรลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมด
• **ใช้ Stop Loss:** ใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คุณคาดการณ์
• **หลากหลายการลงทุน:** อย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว กระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
• **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
• **Money Management :** เรียนรู้และประยุกต์ใช้หลักการบริหารเงินทุนอย่างเหมาะสม

1. 1. 1. ตัวอย่างการวิเคราะห์ Supply and Demand

สมมติว่าคุณกำลังวิเคราะห์กราฟราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD คุณสังเกตเห็น Demand Zone ที่ระดับ 1.0800 หลังจากที่ราคาได้ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง คุณรอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ 1.0800 และสังเกตเห็นว่าราคาเริ่มเด้งกลับขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสังเกตเห็นรูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing ซึ่งยืนยันสัญญาณ คุณตัดสินใจซื้อ Call Option ที่ราคา 1.0800 โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไป

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องและการวิเคราะห์เพิ่มเติม

• **Price Action :** การอ่านและตีความการเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง
• **Support and Resistance :** ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในการซื้อขาย
• **Trend Following :** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
• **Breakout Strategy :** การซื้อขายเมื่อราคา Breakout จากรูปแบบกราฟราคา
• **Reversal Strategy :** การซื้อขายเมื่อราคาเกิดการกลับตัว
• **Harmonic Patterns :** รูปแบบกราฟราคาที่ซับซ้อนที่ใช้ในการคาดการณ์ทิศทางราคา
• **Elliott Wave Theory :** ทฤษฎีที่อธิบายการเคลื่อนไหวของราคาเป็นคลื่น
• **Ichimoku Cloud :** Indicator ที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
• **Bollinger Bands :** Indicator ที่ใช้ในการวัดความผันผวนของราคา
• **MACD :** Indicator ที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• **Stochastic Oscillator :** Indicator ที่ใช้ในการระบุสภาวะ Overbought และ Oversold
• **Volume Spread Analysis (VSA) :** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย
• **Order Flow :** การวิเคราะห์การไหลของคำสั่งซื้อขายในตลาด
• **Market Structure :** การทำความเข้าใจโครงสร้างของตลาดเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย

ตัวอย่างสรุปกลยุทธ์ Supply and Demand

โซน	สัญญาณ	การซื้อขาย
Demand Zone	ราคาเด้งกลับขึ้น, ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น, รูปแบบแท่งเทียน Bullish	Buy (Call Option)
Supply Zone	ราคาลดลง, ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น, รูปแบบแท่งเทียน Bearish	Sell (Put Option)
Breakout จาก Supply Zone	ราคา Breakout เหนือ Supply Zone พร้อมปริมาณการซื้อขายสูง	Buy (Call Option)
Breakout จาก Demand Zone	ราคา Breakout ใต้ Demand Zone พร้อมปริมาณการซื้อขายสูง	Sell (Put Option)

1. 1. 1. สรุป

Supply and Demand Strategy เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นและตลาดการเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้อย่างประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการพื้นฐาน การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์ การยืนยันสัญญาณ และการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การฝึกฝนและประสบการณ์จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในการใช้กลยุทธ์นี้และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น