ระดับ Fibonacci

ระดับ Fibonacci

ระดับ Fibonacci เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ถูกนำมาใช้เพื่อคาดการณ์ระดับแนวรับแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น และระบุจุดเข้าและออกจากตลาดที่อาจเป็นไปได้ บทความนี้จะอธิบายถึงระดับ Fibonacci อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการใช้งานในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

ประวัติความเป็นมาของ Fibonacci

Leonardo Pisano หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fibonacci เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 ถึงต้นศตวรรษที่ 13 เขาเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับของตัวเลขที่เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 และตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, ...)

แม้ว่าลำดับ Fibonacci จะถูกค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียมาก่อน Fibonacci ได้นำเสนอลำดับนี้สู่โลกตะวันตกผ่านหนังสือ Liber Abaci ในปี 1202 อย่างไรก็ตาม การนำลำดับ Fibonacci มาใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1930 โดย Ralph Nelson Elliott ซึ่งพัฒนาทฤษฎีคลื่น Elliott ซึ่งเชื่อมโยงลำดับ Fibonacci กับรูปแบบของราคาในตลาด

ลำดับ Fibonacci และอัตราส่วนทองคำ

อัตราส่วนที่ได้จากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับ Fibonacci ด้วยตัวเลขก่อนหน้า จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 1.618 อย่างต่อเนื่อง ค่านี้เรียกว่า อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) หรือ Phi (φ) ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น φ ≈ 1.6180339887... อัตราส่วนทองคำปรากฏในธรรมชาติ ศิลปะ สถาปัตยกรรม และตลาดการเงิน

อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญอื่นๆ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่:

23.6% (ได้จากการหารตัวเลขในลำดับด้วยตัวเลขที่อยู่ถัดไปสามตำแหน่ง)
38.2% (ได้จากการหารตัวเลขในลำดับด้วยตัวเลขที่อยู่ถัดไปสองตำแหน่ง)
50% (ไม่ใช่ตัวเลข Fibonacci โดยตรง แต่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลาง)
61.8% (ได้จากการหารตัวเลขในลำดับด้วยตัวเลขที่อยู่ถัดไปหนึ่งตำแหน่ง - ซึ่งก็คืออัตราส่วนทองคำ)
78.6% (รากที่สองของอัตราส่วนทองคำ)

ระดับ Fibonacci Retracement

ระดับ Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น โดยการวาดเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด) และจากนั้นวาดเส้นระดับ Fibonacci ที่อัตราส่วนต่างๆ (23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6%) เส้นเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น

ระดับ Fibonacci Retracement
! ระดับ	คำอธิบาย
23.6%	ระดับ Retracement ที่เบาที่สุด มักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการกลับตัว
38.2%	ระดับ Retracement ที่พบได้บ่อย มักเป็นจุดที่ราคาจะหยุดพัก
50%	ระดับ Retracement ที่สำคัญ เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลาง
61.8%	ระดับ Retracement ที่สำคัญที่สุด มักเป็นจุดที่ราคาจะกลับตัวอย่างแข็งแกร่ง
78.6%	ระดับ Retracement ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ มักใช้ร่วมกับระดับอื่นๆ

ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น นักเทรดจะใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อ:

**ระบุจุดเข้า:** หากราคาปรับตัวขึ้นหลังจากลงมาที่ระดับ Fibonacci Retracement อาจเป็นสัญญาณซื้อ (Call Option)
**ระบุจุดออก:** หากราคาปรับตัวลงหลังจากขึ้นไปที่ระดับ Fibonacci Retracement อาจเป็นสัญญาณขาย (Put Option)
**ตั้ง Stop-Loss:** สามารถตั้ง Stop-Loss ใต้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อจำกัดความเสี่ยง

ระดับ Fibonacci Extension

ระดับ Fibonacci Extension ใช้เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้ทะลุผ่านระดับ Retracement ไปแล้ว โดยการวาดเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด) และจากนั้นต่อเส้นออกไปโดยใช้อัตราส่วน Fibonacci Extension (61.8%, 100%, 161.8%, 261.8%)

ระดับ Fibonacci Extension
! ระดับ	คำอธิบาย
61.8%	ระดับ Extension ที่เบาที่สุด มักใช้เป็นเป้าหมายราคาแรก
100%	ระดับ Extension ที่เท่ากับขนาดของการเคลื่อนไหวครั้งแรก
161.8%	ระดับ Extension ที่สำคัญ มักเป็นเป้าหมายราคาหลัก
261.8%	ระดับ Extension ที่สูงขึ้น มักใช้สำหรับการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง

ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น นักเทรดจะใช้ระดับ Fibonacci Extension เพื่อ:

**คาดการณ์เป้าหมายราคา:** ระบุเป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้ทะลุผ่านระดับ Retracement ไปแล้ว
**ตั้ง Take-Profit:** ตั้ง Take-Profit ที่ระดับ Fibonacci Extension เพื่อล็อคผลกำไร

การใช้งานระดับ Fibonacci ในไบนารี่ออปชั่น: ตัวอย่าง

สมมติว่าราคาของสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นจาก 100 ไปที่ 150 จากนั้นปรับตัวลงมา

1. **วาดระดับ Fibonacci Retracement:** วาดเส้นจาก 100 ไปที่ 150 2. **ระบุระดับ Retracement:** ระดับ 38.2% จะอยู่ที่ 126.18, 50% จะอยู่ที่ 125, และ 61.8% จะอยู่ที่ 118.20 3. **จุดเข้า:** หากราคาปรับตัวขึ้นหลังจากแตะที่ระดับ 61.8% (118.20) นักเทรดอาจพิจารณาซื้อ (Call Option) 4. **Take-Profit:** นักเทรดอาจตั้ง Take-Profit ที่ระดับ Fibonacci Extension 161.8% ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 176.18

การรวมระดับ Fibonacci กับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ

เพื่อให้การวิเคราะห์มีความแม่นยำมากขึ้น ควรใช้ระดับ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

**แนวโน้ม (Trend):** ระดับ Fibonacci จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ในทิศทางของแนวโน้ม การวิเคราะห์แนวโน้ม
**แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance):** ระดับ Fibonacci ที่ตรงกับแนวรับแนวต้านที่มีอยู่ จะมีความสำคัญมากขึ้น
**รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นใกล้กับระดับ Fibonacci สามารถยืนยันสัญญาณการซื้อขาย
**ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators):** ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, RSI, หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณจากระดับ Fibonacci

ข้อควรระวังในการใช้ระดับ Fibonacci

ระดับ Fibonacci ไม่ใช่เค

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น