Touch/No Touch Strategy

1. 1. กลยุทธ์ Touch/No Touch ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น

กลยุทธ์ Touch/No Touch เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกของ ไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้ได้กับสภาวะตลาดที่หลากหลาย บทความนี้จะเจาะลึกถึงรายละเอียดของกลยุทธ์นี้ โดยอธิบายแนวคิดพื้นฐาน กลไกการทำงาน การวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง การจัดการความเสี่ยง และเคล็ดลับในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสำหรับผู้เริ่มต้น

1. 1. 1. 1. ความเข้าใจพื้นฐานของ Touch/No Touch

• • Touch Option (ทัชออปชั่น):** คือออปชั่นที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *แตะ* ระดับราคาที่กำหนดไว้ (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาสินทรัพย์แตะระดับ Barrier ก่อนหมดอายุ ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

• • No Touch Option (โนทัชออปชั่น):** คือออปชั่นที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *ไม่แตะ* ระดับราคาที่กำหนดไว้ (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากราคาสินทรัพย์ไม่แตะระดับ Barrier ก่อนหมดอายุ ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Touch และ No Touch คือทิศทางการคาดการณ์ หากคุณเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและอาจทะลุระดับราคาที่กำหนด Touch Option จะเหมาะสมกว่า แต่หากคุณเชื่อว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ และไม่น่าจะทะลุระดับราคาที่กำหนด No Touch Option จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

1. 1. 1. 2. กลไกการทำงานของ Touch/No Touch

การทำงานของ Touch/No Touch option ค่อนข้างตรงไปตรงมา ผู้เทรดจะต้อง:

1. **เลือกสินทรัพย์อ้างอิง:** เช่น สกุลเงิน (EUR/USD, GBP/JPY), ดัชนี (S&P 500, NASDAQ), สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ, น้ำมัน) 2. **เลือกระยะเวลาหมดอายุ:** ตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง หรือแม้กระทั่งหลายวัน ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และสภาวะตลาด 3. **กำหนดระดับ Barrier:** ระดับราคาที่คาดการณ์ว่าจะถูกแตะหรือไม่ถูกแตะ 4. **เลือกประเภทออปชั่น:** Touch หรือ No Touch 5. **ลงทุน:** จำนวนเงินที่ต้องการลงทุนในออปชั่น

ผลตอบแทนของ Touch/No Touch option มักจะคงที่และกำหนดไว้ล่วงหน้า โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 70-90% ของเงินลงทุน แต่ก็อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. 3. การวิเคราะห์เพื่อกลยุทธ์ Touch/No Touch

การวิเคราะห์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์ Touch หรือ No Touch การวิเคราะห์ที่ควรพิจารณาประกอบด้วย:

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การใช้เครื่องมือและตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเพื่อระบุแนวโน้ม แนวรับ แนวต้าน และรูปแบบราคาต่างๆ เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD, Bollinger Bands, และ Fibonacci Retracements. การวิเคราะห์เหล่านี้จะช่วยในการคาดการณ์ทิศทางราคาและระดับ Barrier ที่เหมาะสม
• **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** การพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเงินที่อาจมีผลต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง เช่น อัตราดอกเบี้ย การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางการเมือง
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** การสังเกตปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มหรือการกลับตัวของราคา Volume Spread Analysis (VSA) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์นี้
• **ความผันผวนของตลาด:** การวัดระดับความผันผวนของตลาดโดยใช้ตัวบ่งชี้เช่น Average True Range (ATR). ความผันผวนสูงอาจเหมาะสมกับ Touch Option ในขณะที่ความผันผวนต่ำอาจเหมาะสมกับ No Touch Option
• **ข่าวสารและเหตุการณ์:** การติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. 4. กลยุทธ์ Touch/No Touch ที่นิยมใช้

1. 1. 1. 1. 4.1. Breakout Strategy (กลยุทธ์การทะลุแนวต้าน/แนวรับ)

กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญ หากราคาอยู่ในช่วงผันผวนและมีแนวโน้มที่จะทะลุแนวต้าน ให้ใช้ Touch Option ที่ระดับแนวต้านเป็น Barrier หากราคาอยู่ในช่วงผันผวนและมีแนวโน้มที่จะทะลุแนวรับ ให้ใช้ Touch Option ที่ระดับแนวรับเป็น Barrier

1. 1. 1. 1. 4.2. Range Trading Strategy (กลยุทธ์การซื้อขายในกรอบราคา)

กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ ในกรอบราคาที่กำหนด หากราคาอยู่ในช่วงผันผวนและไม่มีแนวโน้มที่จะทะลุแนวต้านหรือแนวรับ ให้ใช้ No Touch Option ที่ระดับแนวต้านหรือแนวรับเป็น Barrier

1. 1. 1. 1. 4.3. News Trading Strategy (กลยุทธ์การซื้อขายตามข่าว)

กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อมีข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง หากข่าวสารเป็นไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้และคาดว่าจะทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ให้ใช้ Touch Option หากข่าวสารเป็นไปในทิศทางที่ไม่คาดการณ์ไว้และคาดว่าจะทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ให้ใช้ No Touch Option

1. 1. 1. 1. 4.4. Volatility-Based Strategy (กลยุทธ์ตามความผันผวน)

• **High Volatility:** หากความผันผวนสูง ให้ใช้ Touch Option โดยคาดหวังว่าราคาจะแตะ Barrier ภายในระยะเวลาที่กำหนด
• **Low Volatility:** หากความผันผวนต่ำ ให้ใช้ No Touch Option โดยคาดหวังว่าราคาจะไม่แตะ Barrier ภายในระยะเวลาที่กำหนด

1. 1. 1. 1. 4.5. Trend Following Strategy (กลยุทธ์ตามแนวโน้ม)

หากราคามีแนวโน้มที่ชัดเจน (ขึ้นหรือลง) ให้ใช้ Touch Option ที่ระดับแนวต้าน (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือแนวรับ (สำหรับแนวโน้มขาลง) เป็น Barrier

1. 1. 1. 5. การจัดการความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย Touch/No Touch option:

• **กำหนดขนาดการลงทุน:** อย่าลงทุนเกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง
• **ใช้ Stop-Loss:** แม้ว่า Touch/No Touch option จะไม่มี Stop-Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุสั้น
• **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงเพียงอย่างเดียว กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย
• **ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง
• **ใช้บัญชีทดลอง:** ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชีทดลองก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง

1. 1. 1. 6. เคล็ดลับในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

• **เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตและมีชื่อเสียงที่ดี
• **ทำความเข้าใจเงื่อนไขการซื้อขาย:** อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขการซื้อขายของโบรกเกอร์อย่างละเอียด
• **ใช้เครื่องมือวิเคราะห์:** ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
• **ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ:** ฝึกฝนการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้
• **ควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

1. 1. 1. 7. ความเสี่ยงที่ควรระวัง

• **ความผันผวนของตลาด:** ความผันผวนของตลาดที่สูงอาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
• **ข่าวสารที่ไม่คาดคิด:** ข่าวสารที่ไม่คาดคิดอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิงอย่างรวดเร็ว
• **ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์:** โบรกเกอร์บางรายอาจไม่มีใบอนุญาตหรือมีชื่อเสียงที่ไม่ดี

1. 1. 1. 8. สรุป

กลยุทธ์ Touch/No Touch เป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้หากใช้ได้อย่างถูกต้อง การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน การวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง การจัดการความเสี่ยง และเคล็ดลับในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้น การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการควบคุมอารมณ์จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการซื้อขาย Touch/No Touch option ในตลาด ไบนารี่ออปชั่น

ตัวอย่างการเปรียบเทียบกลยุทธ์ Touch/No Touch

! สภาวะตลาด |! กลยุทธ์ |! เหตุผล |

- |! EUR/USD |! แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง |! Touch Option (Barrier ที่แนวต้าน) |! คาดว่าราคาจะทะลุแนวต้าน |

- |! GBP/JPY |! แนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง |! Touch Option (Barrier ที่แนวรับ) |! คาดว่าราคาจะทะลุแนวรับ |

- |! ทองคำ |! อยู่ในกรอบราคา |! No Touch Option (Barrier ที่แนวต้าน/แนวรับ) |! คาดว่าราคาจะไม่ทะลุแนวต้านหรือแนวรับ |

- |! น้ำมัน |! มีข่าวสำคัญ |! Touch/No Touch Option (ขึ้นอยู่กับทิศทางของข่าว) |! คาดว่าข่าวจะส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรวดเร็ว |

Binary Option Trading Technical Analysis Fundamental Analysis Risk Management Trading Psychology Money Management Candlestick Patterns Chart Patterns Support and Resistance Trend Lines Moving Average Convergence Divergence (MACD) Relative Strength Index (RSI) Bollinger Bands Fibonacci Retracement Options Trading High-Frequency Trading (HFT) Algorithmic Trading Scalping Day Trading Swing Trading

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น