Fibonacci and Options

1. Fibonacci and Options

บทความนี้จะเจาะลึกถึงการประยุกต์ใช้ลำดับฟีโบนักชี (Fibonacci sequence) และอัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจเครื่องมือนี้และนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจซื้อขาย

ลำดับฟีโบนักชีคืออะไร?

ลำดับฟีโบนักชีเริ่มต้นด้วย 0 และ 1 จากนั้นตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, และต่อไปเรื่อยๆ ลำดับนี้ปรากฏในหลายรูปแบบในธรรมชาติ เช่น การจัดเรียงเกลียวของเมล็ดทานตะวัน การจัดเรียงใบไม้บนกิ่งไม้ และแม้แต่สัดส่วนของร่างกายมนุษย์

อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ได้มาจากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับฟีโบนักชีด้วยตัวเลขที่อยู่ก่อนหน้า เมื่อตัวเลขในลำดับมีค่ามากขึ้น อัตราส่วนที่ได้จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 1.618 หรือ φ (phi) อัตราส่วนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

การประยุกต์ใช้ฟีโบนักชีในตลาดการเงิน

นักเทรดใช้ลำดับฟีโบนักชีและอัตราส่วนทองคำเพื่อระบุระดับแนวรับ (Support) แนวต้าน (Resistance) และเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ในตลาดการเงิน เครื่องมือที่ได้รับความนิยม ได้แก่:

• **Fibonacci Retracements:** ใช้เพื่อระบุระดับที่ราคาอาจปรับฐาน (Retrace) ก่อนที่จะดำเนินไปในทิศทางเดิม ระดับที่ใช้บ่อยคือ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6% Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา
• **Fibonacci Extensions:** ใช้เพื่อระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้หลังจากที่ราคาได้ทะลุแนวต้านหรือแนวรับ ระดับที่ใช้บ่อยคือ 61.8%, 100%, 161.8% และ 261.8%
• **Fibonacci Arcs:** วาดเป็นส่วนโค้งโดยอิงจากจุดสูงสุดและต่ำสุดของแนวโน้ม ช่วยระบุพื้นที่ที่ราคาอาจกลับตัวได้
• **Fibonacci Time Zones:** ใช้เพื่อระบุช่วงเวลาที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา

Fibonacci Retracements และไบนารี่ออปชั่น

Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แนวคิดคือ ราคาจะปรับฐานกลับไปยังระดับ Fibonacci ก่อนที่จะดำเนินต่อไปในทิศทางเดิม นักเทรดสามารถใช้ระดับเหล่านี้เพื่อเปิดสถานะซื้อขาย (Trade) ได้ดังนี้:

• **Call Option:** หากราคาปรับฐานกลับไปยังระดับ Fibonacci และมีสัญญาณยืนยันการกลับตัว (เช่น รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick patterns) หรือการยืนยันจาก Moving Averages) นักเทรดอาจเปิด Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะขึ้นต่อไป
• **Put Option:** หากราคาปรับฐานกลับไปยังระดับ Fibonacci และมีสัญญาณยืนยันการกลับตัว นักเทรดอาจเปิด Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะลงต่อไป

ตัวอย่างเช่น หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และปรับฐานกลับมาที่ระดับ 38.2% Fibonacci Retracement นักเทรดอาจเปิด Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับขึ้นไปต่อ สิ่งสำคัญคือต้องรอการยืนยันสัญญาณก่อนที่จะเปิดสถานะ

ตัวอย่างการใช้ Fibonacci Retracements ในไบนารี่ออปชั่น

แนวโน้ม	ระดับ Fibonacci Retracement	สัญญาณ	การตัดสินใจ
38.2% | รูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing | เปิด Call Option |
61.8% | RSI Oversold | เปิด Put Option |
50% | การทะลุแนวต้านย่อย | เปิด Call Option |
23.6% | MACD Crossover | เปิด Put Option |

Fibonacci Extensions และไบนารี่ออปชั่น

Fibonacci Extensions ใช้เพื่อระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้หลังจากที่ราคาได้ทะลุแนวต้านหรือแนวรับ นักเทรดสามารถใช้ระดับเหล่านี้เพื่อคาดการณ์จุดที่ราคาอาจถึงเป้าหมายและปิดสถานะซื้อขายได้ เช่นเดียวกับ Fibonacci Retracements การยืนยันสัญญาณเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะเปิดสถานะ

• **Call Option:** หากราคาทะลุแนวต้านและคาดหวังว่าจะไปต่อได้อีก นักเทรดอาจเปิด Call Option โดยใช้ระดับ Fibonacci Extension เป็นเป้าหมายราคา
• **Put Option:** หากราคาทะลุแนวรับและคาดหวังว่าจะลงต่อไปได้อีก นักเทรดอาจเปิด Put Option โดยใช้ระดับ Fibonacci Extension เป็นเป้าหมายราคา

การรวม Fibonacci กับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ

การใช้ Fibonacci เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขาย ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

• **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและยืนยันสัญญาณการกลับตัว Moving Average Convergence Divergence (MACD) สามารถใช้ร่วมกับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณซื้อขาย
• **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) RSI สามารถช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัวที่ระดับ Fibonacci
• **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการกลับตัว Bollinger Bands สามารถใช้ร่วมกับ Fibonacci เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม
• **Candlestick Patterns:** ใช้เพื่อระบุรูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม Candlestick Patterns เช่น Engulfing patterns หรือ Doji สามารถใช้ยืนยันสัญญาณการกลับตัวที่ระดับ Fibonacci ได้
• **Trend Lines:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ Trend Lines สามารถช่วยในการยืนยันระดับ Fibonacci Retracement หรือ Extension

กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Fibonacci

1. **Fibonacci Retracement Breakout:** รอให้ราคาปรับฐานกลับไปยังระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) และรอการยืนยันสัญญาณการกลับตัว (เช่น รูปแบบแท่งเทียน) จากนั้นเปิดสถานะ Call หรือ Put Option ตามทิศทางของแนวโน้มเดิม 2. **Fibonacci Extension Target:** หลังจากที่ราคาได้ทะลุแนวต้านหรือแนวรับแล้ว ให้ใช้ระดับ Fibonacci Extension เพื่อระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ เปิดสถานะ Call หรือ Put Option และปิดสถานะเมื่อราคาถึงเป้าหมาย 3. **Fibonacci Confluence:** มองหาระดับ Fibonacci ที่ตรงกับระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ หรือระดับ Moving Average ระดับ Confluence เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นจุดกลับตัวที่แข็งแกร่ง 4. **Fibonacci Fan:** ใช้ Fibonacci Fan เพื่อระบุพื้นที่แนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น โดยพิจารณาจากเส้นทแยงมุมที่วาดจากจุดสูงสุดและต่ำสุดของแนวโน้ม 5. **Fibonacci Time Zones and Price Action:** ใช้ Fibonacci Time Zones ร่วมกับรูปแบบราคา (Price Action) เพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา

ข้อควรระวังในการใช้ Fibonacci

• **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Fibonacci ไม่ได้ให้สัญญาณที่ถูกต้องเสมอไป ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่เหมาะสม
• **การตีความที่หลากหลาย:** นักเทรดแต่ละคนอาจตีความระดับ Fibonacci แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือต้องมีแผนการซื้อขายที่ชัดเจนและยึดตามแผนนั้น
• **ความล่าช้า:** สัญญาณ Fibonacci อาจล่าช้ากว่าสัญญาณอื่นๆ ควรใช้ความระมัดระวังและรอการยืนยันก่อนที่จะเปิดสถานะ
• **การเลือกกรอบเวลา (Timeframe):** ระดับ Fibonacci อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่ใช้ ควรเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายของคุณ
• **การบริหารความเสี่ยง:** Risk Management เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสถานะ และใช้ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) ร่วมกับ Fibonacci

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Fibonacci ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Fibonacci อาจบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวรับหรือแนวต้าน ในทางกลับกัน ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอาจบ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวรับหรือแนวต้าน Volume Weighted Average Price (VWAP) ก็เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ร่วมกับ Fibonacci

สรุป

ลำดับฟีโบนักชีและอัตราส่วนทองคำเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ตลาดและการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องและใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม การฝึกฝนและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสามารถใช้ Fibonacci ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียน แนวโน้ม การบริหารความเสี่ยง การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์การซื้อขาย การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Moving Averages MACD RSI Bollinger Bands Fibonacci Retracements Fibonacci Extensions Fibonacci Arcs Fibonacci Time Zones Fibonacci Fan VWAP Trend Lines Price Action Stop-Loss

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น