Forex Trading Scalping

1. 1. Forex Trading Scalping

• • Forex Trading Scalping** คือ กลยุทธ์การซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาขนาดเล็ก โดยนักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้จะเปิดและปิดสถานะ (Positions) ภายในระยะเวลาอันสั้นมาก ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีจนถึงไม่กี่นาที ซึ่งแตกต่างจากกลยุทธ์การซื้อขายระยะยาว (Swing Trading, Position Trading) ที่ถือสถานะไว้เป็นวัน สัปดาห์ หรือเดือน

1. 1. 1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Scalping

Scalping ได้ชื่อมาจากคำว่า “scalp” ซึ่งหมายถึงการ “กวาด” หรือ “เก็บเกี่ยว” กำไรเล็กน้อยจำนวนมากในแต่ละครั้ง เปรียบเสมือนการเก็บหนังศีรษะ (scalp) จากเหยื่อในสมัยโบราณ ซึ่งแม้ว่าแต่ละครั้งจะไม่ได้กำไรมาก แต่เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้

• • ลักษณะสำคัญของ Scalping:**

• **ระยะเวลาการถือครองสถานะสั้น:** นี่คือหัวใจสำคัญของ Scalping การซื้อขายมักจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที
• **เป้าหมายกำไรเล็กน้อย:** นัก Scalping มุ่งหวังที่จะทำกำไรเพียงเล็กน้อยต่อการซื้อขาย เช่น 5-10 pips (จุด)
• **ความถี่ในการซื้อขายสูง:** เนื่องจากกำไรต่อการซื้อขายมีน้อย นัก Scalping จึงต้องทำการซื้อขายจำนวนมากเพื่อให้ได้กำไรที่ต้องการ
• **ใช้ Leverage สูง:** เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาที่เล็กน้อย นัก Scalping มักจะใช้ Leverage (อัตราทด) ที่สูง
• **ต้องการสมาธิและความรวดเร็ว:** Scalping ต้องใช้สมาธิอย่างมากและความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

1. 1. 1. ทำไมต้องเลือก Scalping?

แม้ว่า Scalping จะเป็นกลยุทธ์ที่ท้าทาย แต่ก็มีข้อดีหลายประการที่ทำให้นักเทรดจำนวนมากเลือกใช้:

• **โอกาสในการทำกำไรบ่อยครั้ง:** ความถี่ในการซื้อขายที่สูงหมายความว่ามีโอกาสในการทำกำไรหลายครั้งต่อวัน
• **ความเสี่ยงที่ควบคุมได้:** เนื่องจากเป้าหมายกำไรต่อการซื้อขายมีน้อย ความเสี่ยงจึงค่อนข้างต่ำหากมีการจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดี
• **ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวสารมากนัก:** เนื่องจาก Scalping เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) จึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากข่าวสารสำคัญ
• **เหมาะกับตลาดที่มีสภาพคล่องสูง:** Scalping ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง (High Liquidity) เช่น คู่เงินหลัก (Major Currency Pairs) เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY

1. 1. 1. เครื่องมือและตัวชี้วัดที่จำเป็นสำหรับ Scalping

การ Scalping ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยเครื่องมือและตัวชี้วัดที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ราคาและตัดสินใจซื้อขาย:

• **กราฟ Timeframe สั้น:** นัก Scalping มักจะใช้กราฟ Timeframe ที่สั้นมาก เช่น 1 นาที, 5 นาที หรือ 15 นาที เพื่อจับการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว
• **Moving Averages (MA):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้ม (Trends) และจุดกลับตัวของราคา Moving Average
• **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการซื้อขายที่เหมาะสม Bollinger Bands
• **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) Relative Strength Index
• **Stochastic Oscillator:** คล้ายกับ RSI แต่ใช้ในการระบุสภาวะการซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไปที่แตกต่างกัน Stochastic Oscillator
• **Pivot Points:** ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ที่สำคัญ Pivot Points
• **Volume Analysis:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ช่วยให้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มและยืนยันสัญญาณการซื้อขาย Volume Analysis
• **Order Book:** แสดงภาพรวมของคำสั่งซื้อและขายที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ช่วยให้นักเทรดเข้าใจถึงแรงกดดันในตลาด

1. 1. 1. กลยุทธ์ Scalping ที่นิยม

มีกลยุทธ์ Scalping มากมายที่นักเทรดสามารถนำไปใช้ได้ นี่คือบางส่วนของกลยุทธ์ที่นิยม:

1. **Moving Average Crossover:** ใช้การตัดกันของเส้น Moving Average สองเส้นเพื่อสร้างสัญญาณซื้อขาย เมื่อเส้น MA ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้น MA ระยะยาว จะเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อตัดลง จะเป็นสัญญาณขาย Moving Average Crossover 2. **Bollinger Bands Bounce:** ซื้อเมื่อราคาแตะขอบล่างของ Bollinger Bands และขายเมื่อราคาแตะขอบบนของ Bollinger Bands โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับเข้าสู่ช่วงกลางของ Bands Bollinger Bands Bounce 3. **RSI Divergence:** มองหาความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและ RSI หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำตาม จะเป็นสัญญาณขาย และหากราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำตาม จะเป็นสัญญาณซื้อ RSI Divergence 4. **Pivot Point Breakout:** ซื้อเมื่อราคา breakout เหนือระดับ Pivot Point และขายเมื่อราคา breakout ใต้ระดับ Pivot Point Pivot Point Breakout 5. **News Scalping:** ใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาที่เกิดจากข่าวสารสำคัญ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงและต้องใช้ประสบการณ์และความรวดเร็วในการตัดสินใจอย่างมาก 6. **Fibonacci Scalping:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement 7. **Ichimoku Cloud Scalping:** ใช้ระบบ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน Ichimoku Cloud 8. **London Breakout Scalping:** ใช้ประโยชน์จากการเริ่มต้นการซื้อขายในตลาดลอนดอน ซึ่งมักจะมีความผันผวนสูง 9. **Asian Session Scalping:** คล้ายกับ London Breakout แต่ใช้การเริ่มต้นการซื้อขายในตลาดเอเชีย 10. **5-Minute Scalping Strategy:** ใช้การผสมผสานของ Moving Averages และ RSI บนกราฟ 5 นาที 11. **1-Minute Scalping Strategy:** ใช้การผสมผสานของ Stochastic Oscillator และ Pivot Points บนกราฟ 1 นาที 12. **Double Bottom/Top Scalping:** ระบุรูปแบบ Double Bottom หรือ Double Top บนกราฟ timeframe สั้นๆ เพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย 13. **Chart Pattern Scalping:** ใช้รูปแบบ Chart Patterns เช่น Head and Shoulders, Triangle, Flag เพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย 14. **Supply and Demand Scalping:** ระบุโซน Supply และ Demand บนกราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย 15. **Pin Bar Scalping:** ใช้ Pin Bar candlestick pattern เพื่อหาจุดกลับตัวของราคา

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ใน Scalping

เนื่องจาก Scalping มีความถี่ในการซื้อขายสูงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การจัดการความเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง:

• **Stop-Loss Order:** ตั้ง Stop-Loss Order ทุกครั้งที่เปิดสถานะ เพื่อจำกัดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
• **Take-Profit Order:** ตั้ง Take-Profit Order เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
• **Risk-Reward Ratio:** คำนวณ Risk-Reward Ratio เพื่อให้แน่ใจว่ากำไรที่คาดหวังนั้นคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ต้องรับ
• **Position Sizing:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ความเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้งมากเกินไป
• **Leverage Control:** ใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง เนื่องจาก Leverage ที่สูงสามารถขยายทั้งกำไรและความสูญเสียได้
• **Emotional Control:** ควบคุมอารมณ์และความกลัวในการซื้อขาย อย่าตัดสินใจโดยใช้อารมณ์

1. 1. 1. ข้อควรระวังในการ Scalping

• **ค่า Spread และ Commission:** ค่า Spread (ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย) และ Commission (ค่าธรรมเนียม) สามารถส่งผลกระทบต่อผลกำไรของ Scalping ได้อย่างมาก
• **Slippage:** Slippage คือความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ดำเนินการจริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นในตลาดที่มีความผันผวนสูง
• **Broker Selection:** เลือก Broker ที่มี Spread ต่ำ, Execution ที่รวดเร็ว และมีความน่าเชื่อถือ
• **Backtesting:** ทดสอบกลยุทธ์ Scalping ของคุณด้วยข้อมูลย้อนหลัง (Backtesting) ก่อนที่จะนำไปใช้ในการซื้อขายจริง
• **Demo Account:** ฝึกฝน Scalping บนบัญชี Demo (บัญชีทดลอง) ก่อนที่จะใช้เงินจริง

1. 1. 1. Scalping กับ Binary Options

แม้ว่าบทความนี้จะเน้นที่ Forex Scalping แต่หลักการบางอย่างสามารถนำไปปรับใช้กับการซื้อขาย Binary Options ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการจัดการความเสี่ยง Binary Options อย่างไรก็ตาม Binary Options มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจาก Forex Trading ดังนั้นการปรับกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

1. 1. 1. สรุป

Forex Trading Scalping เป็นกลยุทธ์ที่ท้าทายแต่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้หากมีการวางแผนและการจัดการความเสี่ยงที่ดี การทำความเข้าใจเครื่องมือ ตัวชี้วัด และกลยุทธ์ที่เหมาะสม รวมถึงการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการ Scalping

ตัวอย่างกลยุทธ์ Scalping แบบง่าย

ตัวชี้วัด	การตั้งค่า	สัญญาณซื้อ	สัญญาณขาย	Stop Loss	Take Profit
Moving Average (MA)	MA(5) และ MA(20)	MA(5) ตัดขึ้นเหนือ MA(20)	MA(5) ตัดลงต่ำกว่า MA(20)	5 pips	10 pips
RSI	RSI(14)	RSI ต่ำกว่า 30	RSI สูงกว่า 70	5 pips	10 pips

Technical Analysis Fundamental Analysis Risk Management Forex Brokers Trading Psychology Candlestick Patterns Currency Pairs Day Trading Swing Trading Position Trading Hedging Arbitrage Forex Signals Economic Calendar Market Sentiment Trading Platform Order Types Forex Education

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น