Activity (Android)

1. 1. Activity (Android)

Activity คือส่วนประกอบพื้นฐานของแอปพลิเคชัน Android ที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบด้วยได้ มันเป็นหน้าจอเดียวในแอปพลิเคชัน และเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูรายการข้อมูล แก้ไขการตั้งค่า หรือส่งอีเมล บทความนี้จะอธิบายถึง Activity ใน Android อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเน้นที่วงจรชีวิต (Lifecycle) การสร้าง Activity และการจัดการกับ Intent ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสื่อสารระหว่าง Activity ต่างๆ

บทนำ

แอปพลิเคชัน Android ประกอบด้วย Activity หลายตัว ซึ่งแต่ละตัวทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง Activity เปรียบเสมือนหน้าต่างในแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป เมื่อผู้ใช้เริ่มแอปพลิเคชัน Android ระบบจะสร้าง Activity หลัก (Main Activity) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแอปพลิเคชัน หลังจากนั้น ผู้ใช้สามารถนำทางไปยัง Activity อื่นๆ ได้โดยการคลิกปุ่ม แตะที่รายการ หรือดำเนินการอื่นๆ ที่กำหนดไว้ในแอปพลิเคชัน

การทำความเข้าใจ Activity เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ เนื่องจาก Activity ควบคุมการแสดงผลและการตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้

วงจรชีวิตของ Activity (Activity Lifecycle)

Activity มีวงจรชีวิตที่ซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยสถานะต่างๆ ดังนี้:

• Not Created (ยังไม่ได้สร้าง): Activity ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้น
• Created (ถูกสร้าง): Activity ถูกสร้างขึ้น แต่ยังไม่สามารถมองเห็นได้
• Started (เริ่มต้น): Activity เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้
• Resumed (กลับมาทำงานต่อ): Activity สามารถมองเห็นได้และสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ นี่คือสถานะที่ Activity ทำงานอยู่
• Paused (หยุดชั่วคราว): Activity ถูกหยุดชั่วคราวเนื่องจาก Activity อื่นได้รับความสนใจ เช่น ผู้ใช้สลับไปแอปพลิเคชันอื่น
• Stopped (หยุด): Activity ไม่สามารถมองเห็นได้และถูกหยุดทำงาน แต่ยังคงอยู่ในหน่วยความจำ
• Destroyed (ถูกทำลาย): Activity ถูกทำลายและถูกนำออกจากหน่วยความจำ

การเปลี่ยนสถานะเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อระบบ Android ต้องการจัดการทรัพยากร หรือเมื่อผู้ใช้โต้ตอบกับแอปพลิเคชัน นักพัฒนา Android ต้องเข้าใจวงจรชีวิตของ Activity เพื่อจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันทำงานได้อย่างถูกต้องในทุกสถานการณ์

ตารางต่อไปนี้สรุปวงจรชีวิตของ Activity และวิธีการที่เกี่ยวข้อง:

วงจรชีวิตของ Activity

! วิธีการที่เรียก |! คำอธิบาย

-

onCreate() | Activity ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก

onStart() | Activity เริ่มต้นขึ้นและพร้อมใช้งาน

onResume() | Activity สามารถมองเห็นได้และโต้ตอบกับผู้ใช้

onPause() | Activity ถูกหยุดชั่วคราว

onStop() | Activity ไม่สามารถมองเห็นได้

onRestart() | Activity กลับมาทำงานต่อหลังจากถูกหยุด

onDestroy() | Activity ถูกทำลาย

การสร้าง Activity

การสร้าง Activity ใน Android ทำได้โดยการสร้างคลาสใหม่ที่สืบทอดจากคลาส android.app.Activity ภายในคลาสนี้ คุณจะต้อง override วิธีการต่างๆ ในวงจรชีวิตของ Activity เพื่อจัดการกับการสร้าง การเริ่มต้น การหยุด และการทำลาย Activity

ตัวอย่าง:

```java public class MainActivity extends Activity {

   @Override
   protected void onCreate(Bundle savedInstanceState) {
       super.onCreate(savedInstanceState);
       setContentView(R.layout.activity_main);
   }

} ```

ในตัวอย่างนี้:

• public class MainActivity extends Activity กำหนดคลาส MainActivity ที่สืบทอดจากคลาส Activity
• @Override protected void onCreate(Bundle savedInstanceState) คือการ override วิธีการ onCreate() ซึ่งจะถูกเรียกเมื่อ Activity ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก
• super.onCreate(savedInstanceState) เรียกวิธีการ onCreate() ของคลาส Activity เพื่อทำการเริ่มต้นพื้นฐาน
• setContentView(R.layout.activity_main) กำหนด layout ที่จะแสดงผลใน Activity นี้ โดย layout จะถูกกำหนดไว้ในไฟล์ XML ที่อยู่ในโฟลเดอร์ res/layout

Intent

Intent เป็นกลไกสำคัญในการสื่อสารระหว่าง Activity ต่างๆ ใน Android และยังสามารถใช้เพื่อเริ่มต้น Activity จากแอปพลิเคชันอื่นได้ Intent ประกอบด้วยข้อมูลที่อธิบายถึงการกระทำที่ต้องการดำเนินการ และข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการนั้น

Intent มีสองประเภทหลัก:

• Explicit Intent (Intent ที่ชัดเจน): ระบุ Activity ที่ต้องการเรียกใช้โดยตรง
• Implicit Intent (Intent ที่ไม่ชัดเจน): ระบุการกระทำที่ต้องการดำเนินการ แต่ไม่ได้ระบุ Activity ที่ต้องการเรียกใช้ ระบบ Android จะเลือก Activity ที่เหมาะสมที่สุดในการดำเนินการตาม Intent นั้น

ตัวอย่างการใช้ Explicit Intent:

```java Intent intent = new Intent(this, SecondActivity.class); startActivity(intent); ```

ในตัวอย่างนี้ Intent ถูกสร้างขึ้นเพื่อเรียกใช้ Activity ชื่อ SecondActivity

ตัวอย่างการใช้ Implicit Intent:

```java Intent intent = new Intent(Intent.ACTION_VIEW); intent.setData(Uri.parse("http://www.example.com")); startActivity(intent); ```

ในตัวอย่างนี้ Intent ถูกสร้างขึ้นเพื่อเปิด URL ที่กำหนดไว้ในเบราว์เซอร์ ระบบ Android จะเลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะสมที่สุดในการเปิด URL นั้น

การจัดการกับข้อมูล Intent

เมื่อ Activity ถูกเริ่มต้นด้วย Intent คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ใน Intent ได้โดยใช้วิธีการ getIntent() และวิธีการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่าง:

```java Intent intent = getIntent(); String message = intent.getStringExtra("message"); ```

ในตัวอย่างนี้ ข้อมูลที่อยู่ใน Intent ที่มีชื่อว่า "message" จะถูกดึงออกมาและเก็บไว้ในตัวแปร message

การส่งข้อมูลกลับจาก Activity

เมื่อ Activity สิ้นสุดการทำงาน คุณสามารถส่งข้อมูลกลับไปยัง Activity ที่เรียกใช้ได้โดยใช้วิธีการ setResult() และ finish()

ตัวอย่าง:

```java Intent intent = new Intent(); intent.putExtra("result", "Success"); setResult(RESULT_OK, intent); finish(); ```

ในตัวอย่างนี้ ข้อมูลที่อยู่ใน Intent ที่มีชื่อว่า "result" จะถูกส่งกลับไปยัง Activity ที่เรียกใช้ และ Activity จะถูกทำลาย

การกำหนดค่า Activity ใน Manifest File

ก่อนที่จะใช้งาน Activity ได้ คุณจะต้องกำหนดค่า Activity ใน AndroidManifest.xml ไฟล์นี้เป็นไฟล์ที่สำคัญที่สุดในแอปพลิเคชัน Android และมีข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันทั้งหมด รวมถึง Activity ต่างๆ ที่มีอยู่ในแอปพลิเคชัน

ตัวอย่าง:

```xml <activity

   android:name=".MainActivity"
   android:label="@string/app_name">
   <intent-filter>
       <action android:name="android.intent.action.MAIN" />
       <category android:name="android.intent.category.LAUNCHER" />
   </intent-filter>

</activity> ```

ในตัวอย่างนี้:

• android:name=".MainActivity" ระบุชื่อของคลาส Activity
• android:label="@string/app_name" ระบุ label ที่จะแสดงบนหน้าจอ
• <intent-filter> กำหนด Intent Filter ที่จะใช้ในการจับ Intent ที่เหมาะสมกับ Activity นี้
• <action android:name="android.intent.action.MAIN" /> ระบุ action ที่ต้องการจับ
• <category android:name="android.intent.category.LAUNCHER" /> ระบุ category ที่ต้องการจับ

การใช้ Fragments

Fragments เป็นส่วนประกอบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Activity Fragments ช่วยให้คุณสามารถแบ่งหน้าจอออกเป็นส่วนๆ และจัดการแต่ละส่วนได้อย่างอิสระ Fragments มีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้าง UI ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้

การใช้ ViewPager

ViewPager เป็น widget ที่ช่วยให้คุณสามารถสลับระหว่าง Activity หรือ Fragments ได้อย่างง่ายดาย โดยการปัดหน้าจอ ViewPager มีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้าง UI ที่มีหลายหน้าจอ

แนวทางการพัฒนา Activity ที่มีประสิทธิภาพ

• **ใช้วงจรชีวิตของ Activity อย่างถูกต้อง:** จัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละสถานะของ Activity
• **ใช้ Intent อย่างเหมาะสม:** เลือกใช้ Explicit Intent หรือ Implicit Intent ตามความเหมาะสม
• **รักษา Activity ให้มีขนาดเล็ก:** หลีกเลี่ยงการใส่โค้ดมากเกินไปใน Activity เดียว
• **ใช้ Fragments เพื่อแบ่ง UI:** ทำให้ UI มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้
• **ตรวจสอบประสิทธิภาพ:** ตรวจสอบการใช้ CPU และหน่วยความจำของ Activity

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการซื้อขาย (Binary Options Context)

แม้ว่า Activity ใน Android จะเป็นแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาแอปพลิเคชัน แต่ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Android สามารถใช้ Activity เพื่อแสดงกราฟราคา แสดงข้อมูลทางเทคนิค หรือดำเนินการซื้อขายได้

• **การแสดงผลกราฟราคา:** Activity สามารถใช้เพื่อแสดงกราฟราคาแบบเรียลไทม์ โดยใช้ไลบรารีต่างๆ เช่น MPAndroidChart
• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** Activity สามารถใช้เพื่อคำนวณและแสดงค่าตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ เช่น Moving Averages, RSI, MACD
• **การจัดการคำสั่งซื้อขาย:** Activity สามารถใช้เพื่อรับคำสั่งซื้อขายจากผู้ใช้ และส่งคำสั่งไปยังโบรกเกอร์
• **การแจ้งเตือน:** Activity สามารถใช้เพื่อแสดงการแจ้งเตือนเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ หรือเมื่อมีสัญญาณการซื้อขายเกิดขึ้น

การพัฒนาแอปพลิเคชัน Android สำหรับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับทั้ง Android development และ financial markets การใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้ทำการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง

• **กลยุทธ์ 60 วินาที:** Activity สามารถออกแบบให้รองรับการซื้อขายแบบ 60 วินาทีได้
• **กลยุทธ์ Martingale:** แอปพลิเคชันสามารถคำนวณขนาดการลงทุนตามกลยุทธ์ Martingale ได้
• **กลยุทธ์ Pin Bar:** Activity สามารถใช้เพื่อระบุรูปแบบ Pin Bar บนกราฟราคาได้
• **กลยุทธ์ Price Action:** แอปพลิเคชันสามารถแสดงข้อมูล Price Action ที่สำคัญได้
• **กลยุทธ์ Trend Following:** Activity สามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคาได้

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อขาย Activity สามารถใช้เพื่อแสดงข้อมูลปริมาณการซื้อขาย และช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

• **Volume Weighted Average Price (VWAP):** Activity สามารถคำนวณและแสดง VWAP ได้
• **On Balance Volume (OBV):** Activity สามารถคำนวณและแสดง OBV ได้
• **Chaikin Money Flow (CMF):** Activity สามารถคำนวณและแสดง CMF ได้

ตัวชี้วัดทางเทคนิค

• **Moving Averages (MA):** Activity สามารถคำนวณและแสดง MA ได้
• **Relative Strength Index (RSI):** Activity สามารถคำนวณและแสดง RSI ได้
• **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** Activity สามารถคำนวณและแสดง MACD ได้
• **Bollinger Bands:** Activity สามารถคำนวณและแสดง Bollinger Bands ได้
• **Fibonacci Retracements:** Activity สามารถวาด Fibonacci Retracements บนกราฟราคาได้

แนวโน้ม

• **Uptrend:** Activity สามารถใช้เพื่อระบุ Uptrend ได้
• **Downtrend:** Activity สามารถใช้เพื่อระบุ Downtrend ได้
• **Sideways Trend:** Activity สามารถใช้เพื่อระบุ Sideways Trend ได้

Intent Activity Lifecycle AndroidManifest.xml Fragments ViewPager Technical Analysis Binary Options Trading Moving Averages RSI MACD Bollinger Bands Fibonacci Retracements VWAP OBV CMF 60 Second Strategy Martingale Strategy Pin Bar Strategy Price Action Strategy Trend Following Strategy Trading Volume Analysis Android Studio Java Programming XML Layouts UI Design API Integration Networking in Android Data Persistence Background Tasks Notifications Error Handling Security in Android

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น