View source for การซื้อขายแบบ Scalping

## การซื้อขายแบบ Scalping ในไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น

การซื้อขายแบบ Scalping เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่มีเป้าหมายในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อยในระยะเวลาอันสั้น กลยุทธ์นี้เป็นที่นิยมในตลาดการเงินต่างๆ รวมถึงตลาด [[ไบนารี่ออปชั่น]] ด้วย บทความนี้จะให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการซื้อขายแบบ Scalping สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงข้อดี ข้อเสีย กลยุทธ์ที่ใช้ และวิธีการบริหารความเสี่ยง

### Scalping คืออะไร?

Scalping มาจากคำว่า “scalp” ซึ่งหมายถึงการ “โกย” หรือ “เก็บเล็กเก็บน้อย” ในบริบทของการซื้อขาย Scalping คือการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เล็กมาก โดยผู้ซื้อขายจะเปิดและปิดสถานะ (position) จำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น อาจเป็นวินาที นาที หรือชั่วโมง การซื้อขายแบบนี้อาศัยความรวดเร็วในการตัดสินใจและการดำเนินการ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำของราคาเพียงเล็กน้อย

### ทำไมต้อง Scalping ในไบนารี่ออปชั่น?

การซื้อขายแบบ Scalping ในไบนารี่ออปชั่นมีข้อดีหลายประการ:

*   **โอกาสในการทำกำไรบ่อยครั้ง:** เนื่องจากผู้ซื้อขายเปิดและปิดสถานะจำนวนมาก จึงมีโอกาสในการทำกำไรหลายครั้งในวันเดียว
*   **ความเสี่ยงที่จำกัด:** ในไบนารี่ออปชั่น ความเสี่ยงถูกจำกัดไว้ที่จำนวนเงินที่ลงทุนในแต่ละครั้ง ทำให้ง่ายต่อการควบคุมความเสี่ยงโดยรวม
*   **ใช้เวลาน้อย:** แต่ละสถานะมีระยะเวลาสั้น ทำให้ผู้ซื้อขายไม่ต้องเฝ้าหน้าจอเป็นเวลานาน
*   **เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนต่ำ:** Scalping สามารถทำกำไรได้แม้ในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม Scalping ก็มีข้อเสียที่ต้องพิจารณา:

*   **ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำ:** การตัดสินใจและดำเนินการต้องรวดเร็วและแม่นยำ เพราะราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
*   **ค่าธรรมเนียม:** การเปิดและปิดสถานะจำนวนมากอาจทำให้เสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายมากขึ้น
*   **ความเครียด:** การซื้อขายแบบ Scalping ต้องใช้สมาธิและความเครียดสูง
*   **ผลกำไรต่อการซื้อขายต่ำ:** กำไรต่อการซื้อขายแต่ละครั้งมีน้อย ดังนั้นต้องทำกำไรให้ได้จำนวนมากเพื่อคุ้มค่ากับความพยายาม

### เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ในการ Scalping

การซื้อขายแบบ Scalping จำเป็นต้องใช้เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ช่วยในการวิเคราะห์ราคาและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา เครื่องมือที่นิยมใช้ ได้แก่:

*   **กราฟราคา:** ใช้เพื่อดูแนวโน้มและรูปแบบราคา เช่น [[แท่งเทียน]] (Candlestick) และ [[เส้นแนวโน้ม]] (Trend Line)
*   **ตัวชี้วัดทางเทคนิค:**
    *   **Moving Averages (MA):** ใช้เพื่อหาแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน [[Moving Average]]
    *   **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) [[RSI]]
    *   **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุโอกาสในการซื้อขาย [[Bollinger Bands]]
    *   **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและโมเมนตัมของราคา [[MACD]]
    *   **Stochastic Oscillator:** ใช้เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป [[Stochastic Oscillator]]
*   **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา [[การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย]]
*   **ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar):** ใช้เพื่อติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด [[ปฏิทินเศรษฐกิจ]]

### กลยุทธ์ Scalping ที่นิยมใช้ในไบนารี่ออปชั่น

มีกลยุทธ์ Scalping หลายแบบที่สามารถนำมาใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ตัวอย่างเช่น:

*   **กลยุทธ์ Moving Average Crossover:** ใช้สัญญาณจากการตัดกันของเส้น Moving Average สองเส้นเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย เช่น เมื่อเส้น Moving Average ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้น Moving Average ระยะยาว ถือเป็นสัญญาณซื้อ [[Moving Average Crossover]]
*   **กลยุทธ์ RSI Overbought/Oversold:** ใช้ตัวชี้วัด RSI เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป เมื่อ RSI สูงเกิน 70 ถือเป็นสัญญาณขาย และเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 ถือเป็นสัญญาณซื้อ [[RSI Overbought/Oversold]]
*   **กลยุทธ์ Bollinger Bands Bounce:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายเมื่อราคาแตะขอบบนหรือขอบล่างของ Bands เมื่อราคาแตะขอบล่าง ถือเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อราคาแตะขอบบน ถือเป็นสัญญาณขาย [[Bollinger Bands Bounce]]
*   **กลยุทธ์ Price Action:** ใช้การวิเคราะห์รูปแบบราคาและแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา เช่น การมองหารูปแบบ [[Double Top]] หรือ [[Double Bottom]]
*   **กลยุทธ์ News Trading:** ใช้ประโยชน์จากข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด โดยการเปิดสถานะก่อนหรือหลังการประกาศข่าว [[News Trading]]
*   **กลยุทธ์ Pin Bar:** ใช้การระบุรูปแบบ Pin Bar บนกราฟราคาเพื่อคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม [[Pin Bar]]
*   **กลยุทธ์ Engulfing Pattern:** ใช้การระบุรูปแบบ Engulfing Pattern บนกราฟราคาเพื่อคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม [[Engulfing Pattern]]
*   **กลยุทธ์ Harmonic Patterns:** ใช้การวิเคราะห์รูปแบบ Harmonic Patterns เช่น [[Butterfly Pattern]] หรือ [[Gartley Pattern]] เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
*   **กลยุทธ์ Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้านและโอกาสในการซื้อขาย [[Fibonacci Retracement]]
*   **กลยุทธ์ Ichimoku Cloud:** ใช้ระบบ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน [[Ichimoku Cloud]]
*   **กลยุทธ์ Elliott Wave:** ใช้ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคาและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา [[Elliott Wave]]
*   **กลยุทธ์ Three Inside Bar:** ใช้การระบุรูปแบบ Three Inside Bar บนกราฟราคาเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา [[Three Inside Bar]]
*   **กลยุทธ์ Head and Shoulders:** ใช้การระบุรูปแบบ Head and Shoulders บนกราฟราคาเพื่อคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม [[Head and Shoulders]]
*   **กลยุทธ์ Cup and Handle:** ใช้การระบุรูปแบบ Cup and Handle บนกราฟราคาเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา [[Cup and Handle]]
*   **กลยุทธ์ Trend Following:** ใช้การระบุแนวโน้มและทำการซื้อขายตามแนวโน้มนั้น [[Trend Following]]

### การบริหารความเสี่ยงในการ Scalping

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายแบบ Scalping เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุนหากไม่มีการวางแผนและการจัดการที่ดี:

*   **กำหนดขนาดของสถานะ (Position Size):** ไม่ควรลงทุนเกิน 2-5% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละสถานะ
*   **ตั้ง Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่คาดคิด
*   **ตั้ง Take Profit:** ตั้ง Take Profit เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
*   **ใช้ Ratio Risk/Reward ที่เหมาะสม:** พยายามใช้ Ratio Risk/Reward ที่ 1:2 หรือมากกว่า
*   **หลีกเลี่ยงการ Overtrade:** ไม่ควรเปิดสถานะมากเกินไป เพราะอาจทำให้ขาดสมาธิและตัดสินใจผิดพลาด
*   **มีแผนการซื้อขาย:** มีแผนการซื้อขายที่ชัดเจนและปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด
*   **บันทึกการซื้อขาย:** บันทึกการซื้อขายทั้งหมดเพื่อวิเคราะห์ผลการซื้อขายและปรับปรุงกลยุทธ์

### ข้อควรจำสำหรับ Scalping ในไบนารี่ออปชั่น

*   **เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีสภาพคล่องสูง
*   **ฝึกฝนด้วยบัญชี Demo:** ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
*   **เรียนรู้และปรับปรุงอยู่เสมอ:** ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายอยู่เสมอ
*   **ควบคุมอารมณ์:** ควบคุมอารมณ์และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์

### สรุป

การซื้อขายแบบ Scalping เป็นกลยุทธ์ที่ท้าทายแต่สามารถทำกำไรได้หากมีความรู้ ความเข้าใจ และการฝึกฝนที่เพียงพอ การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายแบบ Scalping เพื่อป้องกันการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนด้วยบัญชี Demo และเรียนรู้จากประสบการณ์ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง การทำความเข้าใจเครื่องมือและกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงการวางแผนการซื้อขายอย่างรอบคอบ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายแบบ Scalping ในตลาด [[ไบนารี่ออปชั่น]] ได้

[[การวิเคราะห์ทางเทคนิค]]
[[การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน]]
[[การบริหารเงินทุน]]
[[จิตวิทยาการซื้อขาย]]
[[การเลือกโบรกเกอร์]]

 (Category:Trading)
 (Category:Binary Options)
 (Category:Trading Strategies)
 (Category:Technical Analysis)
 (Category:Risk Management)

== เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้ ==
[https://affiliate.iqbroker.com/redir/?aff=1085&instrument=options_WIKI ลงทะเบียนกับ IQ Option] (เงินฝากขั้นต่ำ $10)
[http://redir.forex.pm/pocketo เปิดบัญชีกับ Pocket Option] (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
=== เข้าร่วมชุมชนของเรา ===
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา [https://t.me/strategybin @strategybin] เพื่อรับ:
✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน
✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ
✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด
✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
[[Category:กลยุทธ์การซื้อขาย]]